xs
xsm
sm
md
lg

บ.ฟินเทคเจาะตลาดใหม่ชวนวัยรุ่นเลิกใช้เงินสด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“วัยรุ่น” เซ็กเมนต์ใหม่ในตลาดฟินเทค
สตาร์ทอัพแดนน้ำหอม “Kard” ประกาศตัวเป็นชาเลนเจอร์แบงก์สำหรับวัยทีน เชิญชวนวัยรุ่นเปิดบัญชีธนาคารของตัวเองในสไตล์คล้ายกับ “สเต็ป” สตาร์ทอัพโมบายแบงกิ้งของอเมริกาที่รับอาสานำวัยรุ่นเข้าสู่สังคมไร้เงินสด

สก็อตต์ กอร์ดอน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ย้ำว่า Kard คือผลิตภัณฑ์สำหรับคนเจน Z ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่ธนาคารทั่วไปหลงลืม เขายังบอกว่า 70% ของการทำธุรกรรมของคนกลุ่มนี้ทำผ่านระบบดิจิตอล และวัยรุ่นจำนวนมากหยิบยืมการ์ดพ่อแม่ไปรูด

Kard จึงต้องการสนับสนุนให้วัยรุ่นเหล่านี้มีบัญชี หมายเลขบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ และบัตรเดบิตมาสเตอร์การ์ดของตัวเอง ส่วนพ่อแม่ก็แค่เติมเงินในบัญชี Kard โดยโอนผ่านธนาคารหรือผ่านบัตร และปล่อยให้ลูกใช้จ่ายอย่างที่ต้องการเพื่อรู้จักบริหารเงินเอง แทนที่จะคอยควบคุม

เช่นเดียวกับเรฟโวลุต หนึ่งในชาเลนเจอร์แบงก์รุ่นแรกๆ Kard ไม่คิดค่าธรรมเนียมการเปิดบัญชี แถมทำได้ง่ายดายคล้ายวอลเล็ตแอปทั่วไป ด้วยการสมัครผ่านมือถือที่ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที และยืนยันตัวตนในภายหลังด้วยการส่งภาพถ่ายบัตรประชาชน ฯลฯ เพียงเท่านี้ลูกค้าก็จะได้บัญชีที่สามารถควบคุมจากโมบายแอป เช่น บล็อกหรือยกเลิกการบล็อกบัตร ดูการทำธุรกรรม รับ-ส่งเงินแบบเรียลไทม์กับผู้ใช้ Kard คนอื่นๆ

Kard ยังหยิบยืมไอเดียบางอย่างมาจากเว็นโม บริการชำระเงินทางมือถือของเพย์พาล ด้วยฟังก์ชันการแชร์ค่าใช้จ่ายกับกลุ่มเพื่อนในแอป Kard แบบเดียวกับการแชร์ภาพหรือคอนเทนต์อื่นๆ

สตาร์ทอัพแห่งนี้เพิ่งระดมทุนได้ 3.4 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนมกราคม และแม้ขณะนี้ยังไม่เปิดให้บริการ แต่ผู้สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนรอได้

ขณะเดียวกัน แม้วางตำแหน่งตัวเองเป็นชาเลนเจอร์แบงก์หรือธนาคารทางเลือกใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นอาวุธแบบเดียวกับ N26 หรือเรฟโวลุต แต่ Kard มีกลยุทธ์หลักในการเป็นบัญชีธนาคารแรกของวัยรุ่นเหมือนกับ “สเต็ป” สตาร์ทอัพโมบายแบงกิ้งของอเมริกาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2018 ภายใต้เจตนารมณ์ในการช่วยให้เด็กรุ่นใหม่วัยทีนเข้าสู่สังคมไร้เงินสด

สเต็ปวางเป้าหมายในการตอบสนองความต้องการของวัยรุ่น ซึ่งบริษัทเชื่อว่า เป็นตลาดที่ถูกมองข้ามในธุรกิจโมบายแบงกิ้ง เฉพาะในอเมริกามีวัยรุ่นอายุ 13-21 ปีถึง 75 ล้านคน และพวกเขาเหล่านี้ยังคงถูกบังคับให้ใช้เงินสด

ซีเจ แมกโดนัลด์ ซีอีโอสเต็ป บอกว่า บริษัทกำลังสร้างโซลูชันออนไลน์ครบวงจรที่โฟกัสวัยรุ่นและพ่อแม่ และต้องการเป็นบัญชีธนาคารบัญชีแรกและบัตรใช้จ่ายใบแรกของวัยรุ่น รวมทั้งต้องการช่วยให้วัยรุ่นมีความรู้และความรับผิดชอบทางการเงิน

แม้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปียังต้องได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ในการเปิดบัญชี แต่เป้าหมายของสเต็ปคือ ส่งเสริมให้เด็กนำไอเดียนี้ไปคุยกับพ่อแม่ แทนที่จะรอให้พ่อแม่แนะนำ

บริการโมบายแบงกิ้งของสเต็ปตั้งเป้าให้บริการครอบคลุมมากกว่าแค่บัตรเดบิตเท่านั้น แต่ยังหมายตาเช็ค การรับฝากเงิน และบัตรวีซ่าที่เป็นทั้งบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ซึ่งจะมีความคุ้มครองและการรับผิดชอบของวีซ่าเพื่อป้องกันการใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และช่วยให้พ่อแม่สามารถกำหนดวงเงินการใช้จ่ายได้

นอกจากนั้นพ่อแม่ยังสามารถเชื่อมโยงบัญชีของตัวเองกับสเต็ปเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีลูกทันที

สเต็ปตั้งเป้าให้บริการลูกค้าโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม โดยรายได้ของบริษัทจะมาจากค่าธรรมเนียมระหว่างธนาคารและสินเชื่อ

ปัจจุบัน สเต็ปเสนอดอกเบี้ยเงินฝาก 2.5% พร้อมเครื่องมือในการกำหนดงบประมาณ สนับสนุนการโอนเงินทันใจระหว่างบัญชีสเต็ปด้วยกัน และสามารถเข้าถึงเครือข่ายเอทีเอ็ม 35,000 จุดโดยไม่มีค่าธรรมเนียม

สำหรับในระยะยาว หลังจากแก้ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการทำธุรกรรมการธนาคารที่เกิดขึ้นในทุกวันแล้ว สเต็ปตั้งเป้าเพิ่มมิติให้ผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น เครื่องมือที่ช่วยให้ครอบครัวออมเงินร่วมกันเพื่อเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาลูกในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น