สร้างความฮือฮาให้กับโลกโซเชียลอีกครั้ง กับ วุ้นแฟนซีที่ทำออกมาเรียนแบบอาหารคาว ล่าสุดส่ง “วุ้นส้มตำถาด” บุกขายออนไลน์ ผู้คนบอกปากต่อปาก ถึงสีสัน และความน่ารับประทาน กับวุ้นแบรนด์น้ำใจ ที่ไม่เพียงแต่หน้าตาจะชวนให้ลิ้มลองแล้วรสชาติยังไม่แพ้ใคร จากเนื้อสัมผัสที่แตกต่างรสชาติกลมกล่อม หาใครยากจะลอกเลียนแบบ
วิราวรรณ และ ธนพัชร์ มนตราประสิทธิ์ สองสามีภรรยา เจ้าของธุรกิจวุ้นแบรนด์น้ำใจ ที่ไม่เหมือนใครหลายคนเมื่อเป็นพนักงานประจำและว่างเว้นจากการทำงานก็มักจะหาอาชีพเสริม เริ่มจาก สิ่งใกล้ตัวและทำไม่ยากอย่าง น้ำสมุนไพร ที่แม้จะขายดีแต่ก็มีคู่แข่งจำนวนมากจึงปรับเปลี่ยนมาทำเป็น วุ้นที่น่าจะขายควบคู่กับน้ำสมุนไพรได้จนกลายเป็นธุรกิจที่สร้าวรายได้และทำให้เธอเตรียมลาออกจากงานประจำมาเปิดหน้าร้านวุ้นน้ำใจอย่างจริงจัง เพราะรายได้จากอาชีพเสริม วิ่งแซงงานประจำไปแล้ว
แนวคิดในการเริ่มต้นทำธุรกิจของสองสามีภรรยาคู่นี้เกิดจากต้องการหารายได้เสริมด้วยการทำน้ำสมุนไพรขาย และได้มีโอกาสไปออกบูธตามงานต่างๆ แม้สินค้าของพวกเขาจะขายได้ดี แต่ก็พบว่ามีคู่แข่งเป็นจำนวนมากที่ทำน้ำสมุนไพรขาย จึงคิดหาเมนูอื่น เพื่อมาขายควบคู่กันไป กระทั่งแฟนสาวได้ไปเจอแม่พิมพ์น่องไก่ จึงลองนำมาทำเป็นวุ้นและนึกถึงเมนูบะหมี่น่องไก่ ซึ่งเธอชอบรับประทานเป็นประจำ โดยใช้เวลาไม่นาน เพราะต้องนำวุ้นไปขายที่บูธ จึงใส่ความตั้งใจไปเต็มที่ วุ้นเมนูอาหารคาวชิ้นแรกจึงเป็น “บะหมี่น่องไก่” และได้รับการตอบรับดีเกินคาดจากนั้นเธอจึงทำวุ้นอื่นๆ ออกมา อย่าง วุ้นน้องหมา ก็สร้างความฮือฮาไม่น้อยในโลกโซเชียล แม้จะเริ่มต้นทำวุ้นอย่างจริงจังเมื่อต้นปี 62 ที่ผ่านมา
จากนั้นวุ้นเมนูอาหาร ก็ถูกนำมาโพสต์ในโลกโซเชียลอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ไข่พะโล้ กระเพาะปลา หมูกระทะ หมูชาชู กะเพราไข่ดาว เค้กหน้าผลไม้ น่องไก่และล่าสุด เปิดตัว “ส้มตำถาด” ที่เกิดกระแสการแชร์และบอกต่อกันเป็นจำนวนมากสร้างชื่อให้กับวุ้นน้ำใจได้ไม่น้อย
เห็นรูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้ ใช่ว่าจะมีต้นแบบหรือแม่พิมพ์สำเร็จรูป เพราะทุกอย่างล้วนมาจากฝีมือและประสบการณ์ล้วนๆ ของคุณโบว์ ซึ่งเธอหยิบจับอุปกรณ์ภายในบ้านมาดัดแปลง มาทำบุญเมนูอาหารคาว ทำให้ยากที่จะลอกเลียนแบบ เพราะถือเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไอเดียของแต่ละคนที่จะรังสรรค์ลงไป ดังนั้นในเรื่องของคู่แข่งจึงไม่ได้กังวลมากนัก
ส่วนความยากของการทำธุรกิจนี้อยู่ที่ขั้นตอนการผลิตเริ่มจากสูตรของน้ำกะทิจะไม่เหมือนใคร เพราะเป็นสูตรเฉพาะ ส่วนเรื่องการลงสีก็ถือเป็นเทคนิคที่ยากจะลอกเลียนแบบขึ้นอยู่กับการหมั่นฝึกฝนพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้วุ้นที่ออกมาเหมือนอาหารคาวให้มากที่สุด รวมถึงการเลือกใช้ผงวุ้นที่สร้างความแตกต่างในเรื่องของเนื้อสัมผัส โดยใช้ผงวุ้นนำเข้า ซึ่งมีการเซ็ตตัวดีกว่าและเมื่อลงสีจะทำได้ง่าย ส่วนรสชาติจะไม่มีความหวานแต่มีความกลมกล่อมเป็นสำคัญ ขณะที่รสทุเรียนจะใส่กลิ่นทุเรียนลงไปด้วย รวมถึงกะทิ ก็พิถีพิถันในการอบควันเทียน ขณะที่กลิ่นใบเตยจะชัดเจนมาก เพราะใช้ใบเตยจากธรรมชาติแท้ 100% ทำให้ผู้บริโภคได้รับรู้แทบจะทุกศาสตร์สัมผัสไม่ว่าจะเป็น รูป รส และกลิ่น
ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับดีเกินคาดมีลูกค้าทุกเพศทุกวัยส่วนใหญ่สั่งไปเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์วันเกิด เนื่องจากรูปร่างหน้าตาไม่ซ้ำใครและแปลกใหม่ รวมถึงสั่งทำบุญในลักษณะคัพเค้กเพื่อนำไปทำบุญก็มีเป็นจำนวนมากโดยราคาขายเริ่มต้นที่ 59-650 บาท แต่ทางร้านก็มีบริการรับสั่งทำด้วย แต่ต้องเป็นไอเดียของทางร้านลูกค้าจะไม่สามารถกำหนดรูปร่างหน้าตาของคุณได้ขึ้นต้องมีการอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจก่อนเพราะการทำวุ้นไม่เหมือนเค้ก ดังนั้นบางครั้งการทำวุ้นในลักษณะทรงสูงจะทำได้ยากกว่า
"ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกที่เราทั้งคู่เริ่มทำเป็นการทำ เพื่อความสนุกไม่ได้คิดเรื่องกำไรมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ผลการตอบรับดีเกินคาด ซึ่งช่วงแรกผมมองว่าอาจจะเป็นกระแส แต่เมื่อออเดอร์เริ่มคงที่และมีเพิ่มมากขึ้นในช่วง 3-4 เดือนก็คิดว่า กระแสน่าจะคงที่แล้วทำให้เรามอง ไกลขึ้นโดยมีแผนที่จะพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายและ เตรียมเปิดหน้าร้านเร็วๆนี้" นายธนพัชร์ เผย
ส่วนใครที่สนใจและต้องการลองชิมวุ้นแบรนด์น้ำใจ ก็สามารถสั่งได้ในช่องทางออนไลน์ผ่านเฟซบุก ทางร้านจะจัดส่งให้ในกรุงเทพฯและปริมณฑลผ่าน Grab Taxi เท่านั้นมีบริการเก็บเงินปลายทาง ส่วนในต่างจังหวัด ยังไม่มีบริการจัดส่งเพราะเกรงเรื่องความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้สูงมาก
อนาคตพวกเขาวางแผนที่จะมีหน้าร้าน และดำเนินธุรกิจนี้อย่างจริงจัง โดยวิราวรรณ เตรียมปลอดล็อกจากมนุษย์เงินเดือน เดินหน้าสู่การเป็นผู้ประกอบการเต็มตัว เพื่อทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานที่หลงรัก และมีความสุข โดยหน้าร้านที่วาดฝันไว้ จะเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆ มีเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างกาแฟ และชาจำหน่าย พร้อมวางคอนเซ็ปต์ให้เป็นร้านสำหรับคนรักน้องหมา น้องแมว ที่สามารถนำมาในร้านได้ จากการที่เป็นคนรักสัตว์ และดูจากแนวโน้มของผู้คนที่มีการเลี้ยงสัตว์เพื่อคลายเหงากันมากขึ้น ดังนั้นจึงขอเป็นอีกช่องทางหนึ่งเพื่อสร้างความสุขให้คนที่รักสัตว์เหมือนกัน
เมื่อถามต่อว่าเป็นของขนมหวานในลักษณะนี้ในอนาคตจะเป็นอย่างไร นายธนภัทร กล่าวว่า ในประเทศไทยเรื่องของการอนุรักษ์ขนมไทยเริ่มมีมากขึ้นและคนไทยนิยมหันมาบริโภคขนมไทย ทำให้ขนมที่เป็นงานทำมือ ได้รับ อานิสงส์จากกระแสดังกล่าวไปด้วย เพราะวุ้นน้ำใจเป็นทั้งงานแฮนด์เมด และงานศิลปะควบคู่กันไป ซึ่งคนซื้อในครั้งแรกอาจจะไม่ได้คาดหวังในเรื่องของรสชาติ จะหวังในเรื่องของหน้าตาคนสำคัญก่อน แต่เขาก็ใส่ใจในเรื่องของรสชาติที่สร้างความแตกต่างเมื่อได้ลิ้มลองทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมถึงใส่ใจในเรื่องของสุขภาพผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ที่ไม่เน้นความหวาน ซึ่งเขาก็ทำได้ตอบโจทย์ อย่างตรงจุดและคาดว่าธุรกิจนี้จะยังเติบโตในตลาดได้อีกนาน
ติดต่อ : 08-1919-1142 , 09-4628-3888
Line ID : bovy11_99