เมื่อย่างฤดูฝน แฟชั่นการแต่งตัวรับหน้าฝน ก็ต้องมา และครั้งนี้ กำลังจะพูดถึง รองเท้าแตะแฟชั่น สีสันสดใส เอาใจวัยรุ่น และเด็กๆโดยเฉพาะ กับแนวคิดที่ไม่ซ้ำใคร โดยให้ลูกค้าได้เลือกออกแบบรองเท้าด้วยตัวเอง
ไอเดียดังกล่าว เป็นของสาวคนนี้ “อัญวีณ์ อิสระชัยนันท์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิสระ ดี.ไอ.วาย.จำกัด เจ้าของ รองเท้าแตะ DIY แบรนด์ Cho-i-ce โชอิเซะ ซึ่งเปิดขายรองเท้าแตะในรูปแบบของแฟรนไชส์ มานานกว่า 8 ปี จุดเด่นของรองเท้า โชอิเซะ คือ ลูกค้าสามารถเลือกพื้นรองเท้า หูรองเท้า หรือ ของตกแต่งด้วยตัวเอง โดยทางร้านจะมีพนักงาน คอยให้บริการนำชิ้นส่วนรองเท้าที่ลูกค้าเลือก ไปประกอบให้ที่ละคู่ จนลูกค้าจะได้รองเท้า ที่ออกแบบด้วยฝีมือของเขาเอง และเป็นแบบที่ไม่ซ้ำใคร แตกต่างจากรองเท้าทั่วไปที่มีขายตามท้องตลาด
ทั้งนี้ ทางร้านจะมีพื้นรองเท้าให้เลือก ตามขนาดเท้า และมีสีให้เลือกมากกว่า 10 สี เช่นเดียวกับหูรองเท้า มีให้เลือก 2 แบบ คือ หูรองเท้าแตะแบบหนีบทั่วไป และ หูรองเท้าแตะหูหนีบแบบอ้อมรัดส้น หูรองเท้ามีสีให้เลือกมากถึง10-15 สี การที่ต้องมีสีให้เลือกเยอะ เพราะลูกค้ามีความชอบแตกต่างกัน อย่างเช่น ช่วงฤดูร้อน สีสันสดใส ก็จะได้รับความนิยม เพราะลูกค้าซื้อไปใส่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวตามชายหาด จะได้รับความนิยมอย่างมาก
ส่วนของพื้นรองเท้า จะเลือกใช้พื้นยางพารา แบบ 100% ซึ่งนอกจากได้ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกยาง ในการนำวัตถุดิบมาแปรรูปแล้ว และข้อดีของพื้นรองเท้าแตะยางพารา คือ มีความยืดหยุนสูง เมื่อสวมใส่จะทำให้นุ่มเท้า ไม่แข็ง เหมือนพื้นที่ทำจากพลาสติก ซึ่งเดิมทางร้านเลือกใช้พื้นรองเท้า ที่ทำจากโฟม แต่พอลูกค้าบอกว่าใส่แล้วเจ็บเท้า ก็เลยเปลี่ยนมาใช้พื้นยางพาราแทน และพื้นยางพารา ยังมีความทนทาน สามารถใช้ได้นาน ส่วนหูรองเท้า เลือกใช้วัสดุที่เป็นพีวีซี เพราะมีความนิ่ม และไม่เสียดสีกับ นิ้วเท้า
โดยกลุ่มลูกค้า ของ รองเท้าแตะ โอซิเซะ ส่วนใหญ่ จะเป็นวัยรุ่น และกลุ่มครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ซึ่งได้ออกคอลเลคชั่นใหม่ เป็นรองเท้าเด็ก มาเพื่อเอาใจ คุณพ่อ คุณแม่ ที่ต้องการหาซื้อรองเท้า เพื่อนำไปสวมใส่ ช่วงซัมเมอร์ ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา รองเท้าเด็กจะขายดีมาก ซึ่งยอดขายต่อวันไม่แน่นอน ส่วนที่ร้านสาขาศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ ยอดขาย วันหนึ่งประมาณ 200-300 คู่ ต่างชาติ 60%
อัญวีณ์ เล่าถึงการทำตลาดว่า สำหรับรองเท้าแตะ โชอิเซะ ปัจจุบันมีสาขากว่า 30-40 สาขากระจายตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และยังได้มีสาขาในต่างประเทศ อีกหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน เวียดนาม กัมพูชา และลาว ฯลฯ โดยการขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ ที่เลือกขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ เกิดมาจาก ลูกค้าที่มาเห็นร้านของเราที่เปิดหน้าร้านอยู่ที่ศูนย์การค้า ยูเนี่ยนมอลล์ ชื่นชอบ ก็ติดต่อขอนำรองเท้าในรูปแบบ DIY ของเราไปเปิดบ้าง
ส่วนลูกค้าในต่างประเทศ เกิดมาจากลูกค้า เช่นกัน ต้องบอกว่า ลูกค้าของเรา ส่วนใหญ่ 60% เป็นชาวต่างชาติ กลุ่มนักท่องเที่ยว เมื่อเห็นสินค้าของเราน่าสนใจ ก็ติดต่อเข้ามาเอง โดยเสนอขายเขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ เพราะส่วนหนึ่ง ต้องการรักษาคอนเซ็ปต์ ของการเป็น DIY เอาไว้ เหมือนกับต้นแบบในประเทศไทย และที่สำคัญ ต้องการสร้างแบรนด์ Cho-i-ce ให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศด้วย
ในส่วนของการผลิต คุณอัญวีณ์ บอกว่า เธอมีโรงงานผลิตรองเท้าอยู่ก่อนหน้าที่จะเปิดแบรนด์ โชอิเซะ เพราะครอบครัวทำส้นรองเท้า ส่งขายให้กับโรงงานผู้ผลิตรองเท้ามาหลายสิบปี โรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม ครอบครัว ไม่ได้คิดจะมาทำรองเท้า หรือ สร้างแบรนด์รองเท้า จนกระทั่ง เรียนจบมาจากต่างประเทศ ต้องมาสานต่อกิจการต่อจากครอบครัว แต่ไม่อยากทำแค่ส้นรองเท้า ต้องการสร้างแบรนด์รองเท้าของเราเอง
โดยอาศัยประสบการณ์ จากการที่ครอบครัวคลุกคลีอยู่กับรองเท้ามาตลอด ทำให้รู้ว่า จะทำรองเท้าแบบไหน ออกมาขาย เลือกทำรองเท้าแตะ เพราะเป็นรองเท้า ที่ต่างชาติเองก็นิยม เวลามาเมืองไทย ชื่นชอบซื้อรองเท้าแตะ โดยเฉพาะคนเอเชีย ส่วนคนยุโรป ไม่นิยมรองเท้าแตะ แต่เวลามาเที่ยวเมืองไทย จะซื้อรองเท้าแตะสวมใส่ เพราะสบายเท้า คนไทยเอง ส่วนใหญ่โดยเฉพาะในต่างจังหวัด นิยมรองเท้าแตะกันมาก ทั้งหมด ก็เป็นเหตุผลที่เลือกทำรองเท้าแตะ
อย่างไรก็ตาม การทำรองเท้าแตะ คู่แข่งค่อนข้างเยอะมาก ดังนั้น ต้องทำอะไรที่มีความแตกต่าง ก็เลยเลือกเปิดร้านรองเท้าแตะที่เป็น DIY ประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก เพราะยังไม่มีใครทำมาก่อน แม้แต่ต่างชาติเอง โดยเฉพาะคนจีน ชื่นชอบกันมาก และที่สำคัญ ตั้งราคาไม่สูงมาก คู่หนึ่งรวมค่าตกแต่งด้วยไม่เกิน 200 บาท ขึ้นอยู่ว่าลูกค้าเลือกของตกแต่งมากน้อยแค่ไหน ราคาของตกแต่งรองเท้าเริ่มต้นที่ชิ้นละ 5 บาท ซึ่งของตกแต่งของเราจะมีดีไซน์ใหม่มาให้ลูกค้าได้เลือกตลอด และของตกแต่งจะมีบางส่วนเป็นงานทำมือ ซึ่งได้จ้างชาวบ้าน ทำให้เขามีรายได้ เพิ่มขี้น เป็นความภาคภูมิใจที่เรามีส่วนในการสร้างงานให้กับชุมชน ด้วย
อัญวีณ์ บอกว่า สำหรับผู้สนใจ ต้องการจะซื้อแฟรนไชส์ ราคาเริ่มต้น ที่ 15,000 บาท ได้รองเท้าไปขายจำนวน 30 คู่ พร้อมของแต่งร้าน โดยราคาแฟรนไชส์ ปรับขึ้นไปตาม รูปแบบและอุปกรณ์การแต่งร้าน หรือ จำนวนรองเท้า และของตกแต่ง เช่น อุปกรณ์หลัก เป็นเครื่องมือที่เป็นลิขสิทธิ์ การทำรองเท้าแตะ ราคา 7,000 บาท เมื่อเลิกกิจการคืนอุปกรณ์ คืนเงินให้ 3,500 บาท อุปกรณ์เสริม ตบแต่งร้านตามมาตรฐานแฟรนไชส์ ลูกค้าเลือก 1,500 3,500 7,000 บาท เซตสินค้า ในการทำรองเท้าแตะ พื้น หู ของตกแต่ง ลูกค้าเลือก มีเซต 3,500 6,500 12,500 บาท คละแบบ คละสี ส่วนผลตอบแทนกำไรต่อคู่ ของแฟรนไชส์ อยู่ที่ 100%
สำหรับที่มาของชื่อ Cho-i-ce หรือ โชอิเซะ มาจากคำว่า Choice ที่แปลว่า เลือกได้ แต่แยกคำให้อ่านออกเสียงแล้วคล้ายภาษาญี่ปุ่น เพราะต้องการให้ชื่อเข้ากับธีมการตกแต่งร้านสไตล์ภาษาญี่ปุ่น นอกเหนือจากรองเท้าแตะแล้ว ทางร้านยังเพิ่มไลน์สินค้าเป็นกระเป๋าออกแบบเองได้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า
ทั้งนี้ จากความสำเร็จ ของรองเท้าแตะ โชอิเซะ เป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการที่กล้าคิด ออกนอกกรอบ และสร้างสิ่งใหม่ ที่แตกต่าง เพื่อหลีกหนีการแข่งขันที่รุนแรงไม่เฉพาะในประเทศ ยังรวมถึงการแข่งขันในต่างประเทศ และที่สำคัญ ต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า ด้วย โดยเลือกที่จะเปลี่ยน วัสดุ จากโฟม หรือ พลาสติกที่ราคาต้นทุนที่ถูกกว่า มาใช้ ยางพารา เพราะรู้ว่า สุดท้าย ลูกค้าต้องเลือกคุณภาพ แต่ถ้ามีทั้งคุณภาพ และดีไซน์ ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
สนใจ โทร.08-1101-3352
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
