xs
xsm
sm
md
lg

บทพิสูจน์ทายาทรุ่น 3 “วรพร” สานตำนานมะม่วงแปรรูปเงินล้าน โตเหนือกาลเวลา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




คำกล่าวที่ว่า "ธุรกิจครอบครัว มักต้องจบลงในรุ่น 3" สำหรับ “ชัยพร โสธรนพบุตร” ทายาทธุรกิจรุ่น 3 ของผลิตภัณฑ์มะม่วงแปรรูป แบรนด์ “วรพร” ถือเป็นความท้าทายให้ต้องพิสูจน์ว่า เขาสามารถจะสานต่อ และต่อยอดธุรกิจเก่าแก่ของตระกูลให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้ ท่ามกลางการแข่งขันของโลกธุรกิจยุคใหม่อันเข้มข้นและเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

ชัยพร โสธรนพบุตร หรือแชมป์ หนุ่มวัย 33 ปี ทายาทธุรกิจรุ่น 3


ธุรกิจมะม่วงแปรรูป “วรพร” เริ่มต้นเมื่อกว่า 60 ปีที่แล้วจากร้านเล็กๆ ใน จ.ฉะเชิงเทรา ดองมะม่วงใส่โหลแก้วขายหน้าบ้าน ก่อนจะเติบโตอย่างมาก ในรุ่น 2 ภายใต้การนำของ “คุณชัยรัตน์ โสธรนพบุตร” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลไม้แปรรูปวรพร จำกัด นำมะม่วงแช่อิ่มสูตรโบราณของครอบครัวมายกระดับบรรจุซอง ผลิตภายใต้มาตรฐานโรงงานระบบปิด ส่งขายผ่านร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง ถือเป็นผู้ผลิตเจ้าแรกของประเทศที่นำมะม่วงแช่อิ่มมายกระดับ จนสินค้าเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ
ทุกวันนี้ ชัยพร โสธรนพบุตร หรือแชมป์ หนุ่มวัย 33 ปี ทายาทธุรกิจรุ่น 3 เข้ามารับช่วงดูแลธุรกิจครอบครัว โดยสิ่งที่แบรนด์ “วรพร” ในมือของรุ่น 3 พัฒนาไปอย่างชัดเจนที่สุด คือ รูปโฉมบรรจุภัณฑ์ใหม่ สวยงามทันสมัย มาพร้อมกับความสะดวก มะม่วงแช่อิ่มถูกตัดเป็นชิ้นพอดีคำ สามารถกินได้ง่าย แถมมีไม้จิ้ม และพริกเกลือ มุ่งขยายตลาดไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ พลิกภาพมะม่วงแช่อิ่มจากเมนูโบราณสู่ขนมกินเล่นสำหรับคนทุกเพศวัย




ชัยพร โสธรนพบุตร เผยแนวคิดในการต่อยอดสินค้า ว่า “ผมนำเสียงจากลูกค้ามาปรับปรุง ซึ่งลูกค้ามักบอกว่า อยากได้ความสะดวก ความง่าย และซื้อกินทันทีไม่ต้องเก็บ นอกจากนั้น ผมอยากให้สินค้า ตอบความต้องการเชิงอารมณ์ ฉะนั้น สินค้าจะอยู่ในบรรจุภัณฑ์ใส สามารถมองเห็นสินค้าภายในได้ ลูกค้าอาจไม่ได้ตั้งใจจะซื้อมาก่อน แต่พอมองเห็นแล้วดูน่ากินก็อยากซื้อขึ้นมา”

บริษัท ผลไม้แปรรูปวรพร จำกัด มียอดรับซื้อมะม่วงจากเกษตรกรกว่า 5 ล้านกิโลกรัมต่อปี สัดส่วนตลาดกว่า 80% ขายในประเทศ และ 20% ส่งออกไปกว่า 15 ประเทศทั่วโลก มีผลิตภัณฑ์มะม่วงแปรรูป และอื่นๆ มากกว่า 10 รายการ นับเป็นเจ้าตลาดของสินค้าประเภทนี้มาต่อเนื่องหลายสิบปี




อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสุดๆ ในฐานะผู้ต้องมารับช่วงต่อธุรกิจครอบครัวที่ยืนหยัดมาแล้วกว่า 60 ปีนั้น เขาชี้ไปที่การมุ่งสร้างแบรนด์วรพรให้ยืนอยู่ในตลาดต่อไปได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง ในฐานะสินค้าที่อยู่เหนือกาลเวลา

นอกจากนี้ ธุรกิจเติบโตมาได้จากการเป็นผู้บุกเบิกมะม่วงแช่อิ่มที่มีมาตรฐาน และขยายตามการเพิ่มขึ้นของร้านสะดวกซื้อ แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก การทำสินค้าที่มีมาตรฐานไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป ส่วนร้านสะดวกซื้อก็ขยายสาขาจนใกล้จะเต็มตลาดแล้ว มันจึงอันตรายมากที่จะทำธุรกิจแบบเดิมๆ เท่านั้น ดังนั้น แนวคิดจึง มุ่งจะสร้างแบรนด์วรพร ให้เป็นแบรนด์ยั่งยืน เราไม่ต้องการจะเป็นสินค้าแฟชั่นที่ขายดีเป็นครั้งคราว แต่อยากให้เป็นสินค้าที่มีฐานลูกค้าประจำซื้อซ้ำเรื่อยๆ นึกขึ้นเราได้เสมอยามอยากกินมะม่วงแช่อิ่ม




นอกจากนั้น เขาได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปอื่นๆ และเริ่มรุกตลาดต่างประเทศ เพื่อขยายการส่งออกเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ส่งไปแล้วกว่า 15 ประเทศทั่วโลก เน้นตลาดในโซนเอเชียตะวันออก ซึ่งคุ้นเคยกับสินค้าประเภทนี้ดีอยู่แล้ว และเพื่อจะเจาะตลาดเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง บริษัท ผลไม้แปรรูปวรพร จำกัด ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ให้ได้รับสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ดอกเบี้ย 1% นำไปใช้ซื้อเครื่องจักร ให้สามารถผลิตได้รวดเร็วขึ้น ต้นทุนลดลง รวมถึง ซื้อรถขนส่งที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ทำให้สินค้าคุณภาพดียิ่งขึ้นเมื่อไปถึงมือลูกค้า

อีกทั้งกองทุนประชารัฐ ช่วยลดภาระการเงินให้แก่เรา และมาในจังหวะที่เรากำลังต้องการขยายขีดความสามารถในการผลิตพอดี และเนื่องจากกองทุนนี้ เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ ในมุมของผู้ประกอบการ ผมคิดว่าเป็นการสนับสนุนเอสเอ็มอีที่ดีมาก และอยากให้กองทุนนี้เข้าถึงเอสเอ็มอีที่ต้องการเงินทุนไปพัฒนาธุรกิจได้อย่างทั่วถึง




บริษัท ผลไม้แปรรูปวรพร จำกัด ผูกพันกับ SME D Bank มายาวนานนับ 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ยุคที่ต้องการปรุงปรับโรงงานให้ได้มาตรฐาน ทาง SME D Bank ได้เข้ามาเติมทุนจนสำเร็จตามที่คิดไว้ นอกจากนั้น ธนาคารยังเติมความรู้ พาไปอบรม และพบเจรจาคู่ค้า สร้างโอกาสทางการตลาด รวมถึง ส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษา ความรู้สึกที่มี SME D Bank นั้น จึงไม่เป็นเพียงธนาคารที่สนับสนุนด้านเงินทุนเท่านั้น แต่เป็นเสมือนผู้ช่วยพัฒนาธุรกิจให้ด้วย

ทั้งนี้ หนึ่งในคำสอนจากรุ่นพ่อ ที่ทายาทธุรกิจวัย 33 ปี จำจดและยึดใช้เพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัวตลอดมาและจะตลอดไป คือ เลือกสิ่งดีที่สุดให้แก่ลูกค้า เมื่อลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว จะกลายเป็นขาประจำ ช่วยให้ธุรกิจเกิดยั่งยืน "พ่อจะบอกตลอดว่า เราต้องให้เกียรติลูกค้า ทั้งที่ซื้อสินค้าเราไปขายต่อ และซื้อไปรับประทาน เราคิดไว้ในใจเสมอว่า ลูกค้าฉลาดที่สุด ลูกค้ารู้ดีที่สุด ลูกค้าจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตัวของเขาเอง ดังนั้น เมื่อเราจะผลิตสินค้าอะไรก็ตาม ถ้าเราคิดแบบนี้ เราจะทำของที่ดี เราจะไม่กล้าใส่ของที่ไม่ดีให้แก่ลูกค้า และเมื่อคนที่ฉลาดที่สุด เลือกสินค้าของเรา ธุรกิจเราก็จะยั่งยืนได้" หนุ่มวัย 35 ปี กล่าวในตอนท้าย
ด้วยแนวคิดและวิธีดังกล่าว เชื่อได้ว่า แบรนด์ “วรพร” ภายใต้การนำของรุ่น 3 จะสามารถนำพาธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน เหนือกาลเวลา


ติดต่อโทร.038 813 444 ,

เว็บไซต์ : www.woraporn.com
Facebook :วรพร ผลไม้แปรรูป




*** ย้อนเส้นทาง “วรพร” ต้นตำรับมะม่วงแช่อิ่มเกรดพรีเมียม

ตำนานมะม่วงดองเจ้าดังต้องย้อนไปเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ “นายไต่ไห้ แซ่โค้ว” อพยพมาจากเมืองซัวเถา ประเทศจีน หอบเสื่อผืนหมอนใบทำมาหากินที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยพกภูมิปัญญาแปรรูปผักผลไม้ติดตัวมาด้วย ซึ่งแปดริ้วมีมะม่วงอยู่จำนวนมาก เลยเปิดร้านเล็กๆ ดองมะม่วงใส่โหลแก้วขาย สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว


จนถึงรุ่น 2 “ชัยรัตน์ โสธรนพบุตร” นำความรู้จากรุ่นพ่อมาหารายได้เสริมจากงานประจำเป็นครูสอนวิชาเคมี โดยใช้วันหยุดทำมะม่วงดอง แล้วตระเวนส่งขายตามร้านค้าต่างๆ ในเมืองแปดริ้ว


จากยอดขายที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เขาตัดสินใจนำเงินเก็บมาเปิดโรงงานเพื่อขยายการผลิตและปรับกระบวนการผลิตยกระดับมะม่วงแช่อิ่มขายตามรถเข็นสู่ผลไม้แปรรูปเกรดพรีเมียม ส่งขายร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง ทำให้มะม่วงแช่อิ่มของแบรนด์ “วรพร” เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ สร้างยอดขายเติบโตก้าวกระโดด และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น