xs
xsm
sm
md
lg

สสว.ร่วม nfi เปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ ดัน ผปก.ธุรกิจอาหาร เพิ่มขีดความสามารถสู่สากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับสถาบันอาหาร เปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ SME ในเครือข่ายธุรกิจอาหาร ด้วยมาตรฐานสากลปี 2562 เพื่อพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ตามแนวทางการดำเนินงานระดับประเทศสู่สากล (Local to Global) ตั้งเป้ายกระดับมาตรฐานการผลิตผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน 250 สถานประกอบการ และพัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง 1,250 ราย

นางลักขณา ตั้งจิตนบ ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลและสารสนเทศ รักษาการแทนผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
นางลักขณา ตั้งจิตนบ ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลและสารสนเทศรักษาการแทนผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว.ในฐานะหน่วยงานหลักในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ของประเทศ ได้ตระหนักว่าผู้ประกอบการธุรกิจอาหารถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการ SME ที่สำคัญของประเทศไทย จึงได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ SME ในเครือข่ายธุรกิจอาหารตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก โดยมีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ พร้อมพัฒนาผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้มีความเข้มแข็ง และสามารถยกระดับธุรกิจจากธุรกิจฐานรากให้สามารถเติบโตเป็นขนาดกลาง

ทั้งนี้ ธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารเป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโตสูง สามารถเข้าสู่ห่วงโซ่ Supply Chain ของโลก การมุ่งเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นจุดแข็งของประเทศจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และภาพลักษณ์ของประเทศ

สำหรับการดำเนินงานในปี 2562 สสว.มุ่งเน้นการสำรวจสภาพการผลิต ณ สถานที่ประกอบการผู้สมัครเพื่อร่วมวิเคราะห์สภาพปัญหาและวางแผน การพัฒนาระบบ เช่น HACCP, BRC, ISO22000 และอื่นๆ เป็นต้นพร้อมทั้งให้คำปรึกษา การพัฒนาศักยภาพ หลักสูตร การประยุกต์ใช้ระบบมาตรฐานในระดับสากลในอุตสาหกรรมอาหารของไทย และการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรในอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ

นอกจากนี้ โครงการนี้เน้นการพัฒนาระบบมาตรฐานตลอด Supply Chain ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกที่ไม่ได้ต้องการเพียงแค่ผู้ส่งออกเท่านั้น ที่พัฒนามาตรฐานการผลิต แต่ผู้ประกอบการที่เป็นห่วงโซ่อุตสาหกรรมก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาคุณภาพอาหารปลอดภัย โดยคาดว่าเมื่อได้ร่วมโครงการแล้วผู้ประกอบการจะมีความสามารถในการส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มไปยังตลาดสากล อันเป็นช่องทางการขยายโอกาสทางการตลาด ส่งผลความมั่นคงทางการค้าระหว่างประเทศ โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก และสามารถอบรมและพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการที่สามารถดำเนินธุรกิจส่งออกได้อย่างยั่งยืนมากกว่า 250 สถานประกอบการ และพัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง 1,250 ราย
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร
ด้าน นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ SME ในเครือข่ายธุรกิจอาหาร ด้วยมาตรฐานสากลปี 2562 สถาบันอาหารได้สนับสนุนผู้ประกอบการในเครือข่าย ในด้านการให้องค์ความรู้ สร้างความเข้าใจ พร้อมหลักในการปรับตัว และเตรียมตัวทั้งในเรื่องของข้อมูลความรู้ และเพื่อให้สามารถเข้าสู่ มาตรฐานสากล พร้อมทั้งพาสร้างแบบประเมินเบื้องต้นเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ประเมินความพร้อมในการประเมินรับมาตรฐาน อีกทั้งยังพาไปศึกษาดูงานอีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิเพื่อสถาบันอาหาร (สถาบันอาหาร) นายณรงค์ฤทธิ์ นรมั่ง อีเมล narongrit@nfi.or.th เบอร์โทรศัพท์ 0-2422-8688 ต่อ 2102 และสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ของ สสว.ได้ทาง application SME CONNEXT และ www.sme.go.th

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น