ตอนที่ฟองสบู่แตกในปี 2000 ทันยา แวน คอร์ต สูญเงิน 1 ล้านดอลลาร์ในชั่วพริบตาจากหุ้นและออปชั่น วินาทีนั้นเธอบอกตัวเองว่า จะไม่ยอมให้ลูกเผชิญสถานการณ์แบบเดียวกันเด็ดขาด
ห้าปีต่อมา แวน คอร์ตให้กำเนิดลูกสาวชื่อ เกเบรียล ตอนนั้นเธอเป็นรองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิตอลของอีเอสพีเอ็น ก่อนย้ายไปเป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ดิจิตอลสำหรับพ่อแม่และเด็กก่อนวัยเรียนของนิกเคลโลเดียน ปี 2013 แวน คอร์ตรับตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของดิสคัฟเวอรี เอดูเคชัน รับผิดชอบการพัฒนาแบบเรียนดิจิตอลทั่วอเมริกา
แต่ปัจจุบัน เธอก่อตั้งสตาร์ทอัพ “โกลเซ็ตเตอร์” นำเสนอเครื่องมือและแรงบันดาลใจเพื่อให้เด็กรู้จักออมเงิน แบ่งปัน และใช้จ่ายอย่างฉลาด โดยรวมแพล็ตฟอร์มการเก็บออมที่อิงกับเป้าหมายและการลงทะเบียนของขวัญเพื่อดึงดูดพ่อแม่ผู้ปกครองที่เห็นคุณค่าของการอดออมและประสบการณ์มากกว่าข้าวของเครื่องใช้ฟุ่มเฟือย
โกลเซ็ตเตอร์ถือกำเนิดขึ้นตอนที่เกเบรียลอายุ 8 ขวบ และแวน คอร์ตบอกลูกสาวว่า ถ้าเก็บเงินได้ครบ 100 ดอลลาร์ เธอจะเติมให้ในจำนวนเท่ากันเพื่อเป็นเงินลงทุนตั้งต้นของลูก หลังจากเรียนรู้กลไกการทำงานของบัญชีเพื่อการลงทุน เกเบรียลตัดสินใจว่า ของขวัญวันเกิดครบ 9 ขวบ เธออยากได้จักรยานและบัญชีเพื่อการลงทุน
แวน คอร์ตเล่าว่า รู้สึกทึ่งมากที่เด็ก 9 ขวบคิดแบบนั้นได้ แต่สำทับว่า ตอนนั้นเกเบรียลมีของเล่นและของใช้ที่ไม่จำเป็นหรือไม่ได้ต้องการจริงๆ เต็มไปหมด และเธอตระหนักทันทีว่า ลัทธิบริโภคนิยมคืบคลานเข้าสู่ชีวิตคนเราตั้งแต่ยังเป็นแค่เด็กน้อย เพราะคนส่วนใหญ่มักมีข้าวของมากมายและเห็นคุณค่าของสิ่งของเหล่านั้นน้อยมาก
หลังจากพูดคุยกับแม่หลายคน ในที่สุดแวน คอร์ตตกผลึกความคิดกลายมาเป็นโกลเซ็ตเตอร์ แอปพลิเคชันของสตาร์ทอัพแห่งนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือ บัญชีเงินฝากสำหรับเด็ก และศูนย์เพื่อการเรียนรู้ด้านการเงินสำหรับเด็กด้วยคำถามสนุกสนานชวนติดตาม
พ่อแม่ลูกจะต้องสมัครแอปโกลเซ็ตเตอร์ด้วยกัน โดยลูกจะระบุเป้าหมายของตัวเองไว้ เช่น การเข้ามหาวิทยาลัย จักรยานคันใหม่ หรือเครื่องเล่นเกม เด็กๆ จะได้เบี้ยเลี้ยงจากแอป รวมทั้งได้ “โกลการ์ด” แทนบัตรของขวัญจากพ่อแม่และญาติ เพื่อเก็บออมไว้สำหรับเป้าหมายในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้นพ่อแม่ยังสามารถเติมบัตรเดบิตสำหรับเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นของลูก เช่น รถคันแรก รวมทั้งตั้งค่าออมเงินอัตโนมัติเพื่อเก็บเงินเพิ่มเดือนละเล็กๆ น้อยๆ ตามความสมัครใจ
แวน คอร์ตบอกว่า บรรดาแม่ๆ มักรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นลูกมีของเล่นมากเกินไป ดังนั้น ไอเดียในการสอนลูกให้รู้จักเก็บออมจึงถูกใจคนเป็นแม่มาก
โกลเซ็ตเตอร์นำเสนอเกมเพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินสำหรับเด็กตั้งแต่วัยอนุบาลจนจบชั้นมัธยมปลาย ชื่อว่า “It’s LIT” โดยใช้ป๊อปคัลเจอร์มีม เนื้อเพลง ฯลฯ เพื่อดึงดูดให้เด็กเรียนรู้พื้นฐานการเงินส่วนบุคคล และผู้ปกครองสามารถเลือกให้รางวัลเป็นเงินสนับสนุนเป้าหมายเมื่อลูกตอบคำถามแต่ละข้อได้
สตาร์ทอัพแห่งนี้มีแผนขาย “It’s LIT” ในรูปหลักสูตรให้แก่เขตการศึกษาต่างๆ ในอเมริกา
รายได้ของโกลเซ็ตเตอร์ยังมาจากโกลการ์ดที่ส่งผ่านแอป และบริษัทเผยว่า จะบริจาคเงิน 5% ของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมให้มูลนิธิเกี่ยวกับเด็ก รวมทั้งยังมีฟังก์ชันบริจาคเพื่อให้ผู้ใช้ร่วมบริจาคตามกำลังศรัทธา
ปัจจุบันมีผู้ใช้แอปโกลเซ็ตเตอร์กว่า 20,000 ราย และบริษัทระดมทุนได้ทั้งสิ้น 2.1 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนที่รวมถึงมอร์แกน สแตนเลย์, ซีเอฟเอสไอที่มีเจพี มอร์แกน เชสเป็นสปอนเซอร์ ฯลฯ
แวน คอร์ตทิ้งท้ายว่า ภารกิจของโกลเซ็ตเตอร์คือสอนให้เด็กรู้จักคุณค่าที่แท้จริงของเงินที่สามารถนำพาพวกเขาไปสู่เป้าหมายในชีวิต หรือแบ่งปันให้คนที่มีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ