สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 สาวๆ ยังคงให้ความสนใจกับการแต่งตัวแบบไทยๆ โดยเฉพาะชุดไทยกับเด็กๆ ดูเหมือนจะถูกใจพ่อแม่เป็นอย่างมาก หรือสาววัยรุ่นเองก็สนใจ ต่งชุดไทยไปเล่นสงกรานต์ ดูได้จากตลาดออนไลน์ มีชุดไทยห่มสไบออกมาจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในนัั้นเป็นร้านชุดไทยเด็กเล็ก ปีนี้ (2562) ก็ยังคงนำชุดไทยเด็กในแบบต่างๆ ออกมาจำหน่าย รวมถึง ชุดห่มสไบ ของแม่ชบา จากละครหมอยาท่าโฉลง ออกมาจำหน่ายให้เด็กๆ ได้ใส่ด้วย
ภัทรภร เศรษฐ์พิศาลศิลป์ หรือ "แพท" เจ้าของร้านชุดไทยเด็กเล็ก เล่าว่า การออกแบบชุดไทยเด็กในระยะหลังได้รับกระแสจากละครค่อนข้างมาก เช่น บุพเพสันนิวาส และก็ตามมาด้วยละครเรื่อง ทองเอกหมอยาท่าโฉลง "ชุดนางเอกแม่ชบา" ก็จะได้รับความสนใจ แต่กระแสก็ยังไม่เท่ากับละครบุพเพสันนิวาส ซึ่งกระแสจากละครทำให้คนเริ่มหันมาสนใจใส่ชุดไทยในทุกๆ งานสำคัญ เช่น เทศกาลสงกรานต์ ใส่ไปทำบุญ งานบวช งานแต่งงาน งานโรงเรียน ประกอบกับโรงเรียนรณรงค์ให้นักเรียนสวมชุดไทยทุกวันศุกร์ ส่งผลให้ชุดไทยเด็กของเรามียอดขายเพิ่มมากขึ้น โดยทางร้านมีชุดให้เด็กอายุตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 10 ขวบ
"จากกระแสละครช่วยกระตุ้นยอดขายของร้านเราได้เยอะมาก ช่วงละครเรื่องบุพเพสันนิวาสออนแอร์สงกรานต์ปี 2561 ที่ผ่านมา ทำให้เราถึงขนาดต้องปิดโรงงานตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน เพราะสินค้าหมดโรงงาน แต่ปีนี้ (2562) กระแสจากเรื่องละครทองเอก หมอยาท่าโฉลง ผลตอบรับดีมากในระดับหนึ่ง แต่ไม่เท่าบุพเพสันนิวาส ส่วนลูกค้าก็จะเป็นลูกค้ากลุ่มที่ซื้อซ้ำเป็นส่วนมาก พอลูกโตขึ้นก็ซื้อใหม่ ส่วนลูกค้ารายใหม่ เกิดมาจากการเห็นโพสต์ของคุณแม่ที่โชว์รูปลูกๆ หลานๆ ใส่ชุดไทย ก็มาซื้อให้ลูกๆ หลานๆ ใส่บ้าง"
นอกจากนี้ ในส่วนกลุ่มลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศทางร้านก็มีการส่งสินค้าไปจำหน่ายทุกปี เช่น เทศกาลสงกรานต์ไทยในออสเตรเลีย ทางร้านได้รับการสนับสนุนจากสถานทูตไทยในออสเตรเลีย หรือกลุ่มสมาคมคนไทยในต่างประเทศ ติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อชุดไทยนำไปใช้ในงานประกวด และล่าสุดมีเด็กไทยได้รับรางวัลชุดต่างประเทศสวยงาม ก็เป็นชุดไทยที่ได้รับรางวัลมา
สำหรับจุดขายอย่างหนึ่งของร้านเรา คือ ให้บริการแบบยุโรป คือลูกค้าสามารถคืนสินค้าได้ และขอคืนเงินได้หากสินค้าไม่ตรงตามต้องการ ทั้งผิดสี ผิดขนาด สั่งและส่งให้ลูกค้าทันที ในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้รับสินค้าก็สามารถขอเงินคืน หรือเปลี่ยนสินค้าจากทางร้านได้เช่นเดียวกัน นอกจากการบริการแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพของสินค้า ทางร้านจะเลือกใช้ผ้าที่ได้คุณภาพ เช่น เนื้อผ้าของสไบก็จะคัดเลือกมาอย่างดี
ส่วนราคาก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ชุดละ 100 บาทสำหรับเด็กแรกเกิด ทั้งขายปลีกและขายส่ง หรือชุดไทย ร.๕ ที่เริ่มต้นตัดชุดละ 600 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถือว่าเมื่อเทียบกับร้านเช่าชุดไทยไม่ได้แตกต่างมากนัก และสามารถใส่ซ้ำได้หลายครั้ง หรือลูกค้าจะนำไปขายต่อก็ได้เมื่อไม่ใส่แล้ว ส่วนราคาชุดสั่งตัดอื่นๆ ราคาสูงสุดจะอยู่ที่ ชุดละ 2,500 บาท แต่การสั่งตัดจะต้องมียอดสั่งซื้อขั้นต่ำซึ่งแล้วแต่แบบของชุดนั้นๆ เพราะทางร้านจะต้องสร้างพิมพ์ขึ้นมาใหม่เสมอ ปัจจุบันทางร้านมียอดขายต่อเดือนอยู่ที่หลักแสน แต่ช่วงเทศกาลก็จะได้มากกว่าหลายเท่าตัว
“การวางแผนระยะยาวของทางร้านที่จะเน้นมากๆ คือเรื่องคุณภาพของสินค้าที่จะต้องมีมาตรฐานที่ดีตลอด วัสดุที่ใช้ก็จะเลือกใช้เป็นวัสดุอย่างดี เช่น ผ้าไหม ผ้าซาติน โดยเลือกและดูแลเองทุกขั้นตอน ส่วนแบบของชุดก็จะมีตั้งแต่ชุดไทยแฟชั่น เช่นสายเดี่ยว คอกระเช้า โจงกระเบนขาสั้น และขาจัมป์ ราชปะแตน ผ้าสไบ ชุดท่านขุน ชุดพี่หมื่นในละครบุพเพสันนิวาสก็มีให้ลูกค้าเลือกครบทุกสี ไปจนถึงชุดไทยโบราณ เป็นต้น สร้างความหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือก”
นอกจากนี้ ในอนาคตหากเป็นไปได้ต้องการติดต่อสถานทูตในเรื่องของกิจกรรมที่จะต้องมีชุดไทยเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรม เนื่องจากมีสถานทูตประเทศไทยอยู่ในต่างประเทศหลายที่ หากมีความต้องการทางร้านก็สามารถลดราคาให้พิเศษเพื่อกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย อนุรักษ์ชุดไทยให้คงอยู่ต่อไป หากชุดไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากขึ้น ทางร้านชุดไทยเด็กเล็กก็พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
ภัทรภรเล่าว่า ที่มาของการทำชุดไทยเด็กครั้งนี้เริ่มมาจาก เดิมเคยอาศัยอยู่ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา และทำธุรกิจส่งออกชุดไทยไปด้วย เป็นยูนิฟอร์มของพนักงานร้านอาหารไทย และร้านสปาไทย ทำมาแล้วประมาณ 20 ปี ปัจจุบันก็ยังมียอดสั่งซื้อเข้ามาเรื่อยๆ ก่อนที่จะเริ่มมาทำชุดไทยเด็กเล็ก ก็เริ่มมาจากตัดชุดไทยให้ลูกชายใส่ก่อน ก็ถ่ายรูปลูกชายลงออนไลน์ ผลตอบรับไม่ดีนักเพราะแฟชั่นเด็กผู้ชายได้รับความสนใจน้อย หลังจากนั้นจึงเริ่มมาทำของลูกสาว ตัดให้ลูกสาวใส่ตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถ่ายรูปลงออนไลน์ ปรากฏว่าได้รับความสนใจมาก ซึ่งชุดเด็กใช้เป็นเศษผ้าที่เหลือจากการตัดชุดผู้ใหญ่ หลังจากนั้นเริ่มได้รับการตอบรับดีขึ้น ก็เพิ่มการโปรโมตทางออนไลน์มากขึ้น และติดต่อไปยังนิตยสารต่างๆ เพื่อลงรูปโปรโมตเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ถัดมาปีที่ 2 จึงเป็นที่รู้จักทั่วไป จนถึงตอนนี้ทำมาแล้ว 9 ปี
สนใจติดต่อ เฟซบุ๊ก : ร้านชุดไทยเด็กเล็ก หรือโทร. 06-2326-2659
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
