วันนี้จะพา รู้จักกับ 7 สินค้านวัตกรรมเกษตร สุดว้าว จากโครงการ“สุดยอดนวัตกรรม เซเว่น อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2019” ภายในงาน “Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย” ที่จัดโดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และ 11 องค์กรชั้นนำด้านการส่งเสริมผู้ประกอบการ อาทิ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฯลฯ ที่จัดขึ้น เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดย 7 สุดยอดสินค้าเกษตร ที่แนะนำให้รู้จัก ประกอบด้วย
1. โคโค่เกิร์ต โยเกิร์ตจากมะพร้าวอินทรีย์ หรือ กะทิหมักจุลินทรีย์ เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทางเลือกใหม่ที่เป็น 100 % Vegan Dairy Free Soy Free เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานโยเกิร์ตที่ผลิตจากนมสัตว์และถั่วเหลือง โดยโคโค่เกิร์ตมีคุณประโยชน์จากPrebiotic Fiber และ Vegan Probiotic Cultures ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารและแบคทีเรียชนิดดีที่สามารถช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งมีคุณประโยชน์จากไขมันชนิดดีจากมะพร้าว ไม่มีโคเลสเตอรอล และมีโปรตีนจากมะพร้าวซึ่งเป็นโปรตีนจากพืชที่ย่อยได้ง่าย
2.ผลิตภัณฑ์จากโพรไบโอติกสายพันธุ์ใหม่ป้องกันฟันผุ ซึ่งมาในรูปแบบของนม นมผง นมอัดเม็ด และโยเกิร์ต โดยนวัตกรรมดังกล่าวเป็นการคัดเลือกจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดจากช่องปากของคน (Lactobacillus paracasei SD1) นำมาประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพช่องปาก โดยมีคุณสมบัติทั้งการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Streptococcus mutans และ Streptococcus sobrinus แบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ สามารถเกาะติดเยื่อบุผิวในช่องปากได้ดี สร้างกรดน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับจุลินทรีย์สายพันธุ์อื่นๆ ที่มีความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของฟันผุได้ในระดับที่เท่ากัน
3.ไอศกรีมมะม่วงน้ำดอกไม้พันธุ์สีทองแช่เยือกแข็งพร้อมรับประทาน เป็นการนำผลไม้สดแช่แข็งที่อยู่ในรูปแบบไอศกรีม แต่ยังคง รสชาติความอร่อยที่แท้จริงของมะม่วงน้ำดอกไม้ 100 % มีความสด ใหม่ เพราะผ่านกระบวนการนวัตกรรม Shock Freeze อายุการเก็บรักษา นาน 5 ปี ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว สร้างยอดขายล่วงหน้าในปี 2562 ได้มากกว่า 20 ล้านบาท และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับมะม่วง 10-15 เท่า จากเดิมกิโลกรัมละ 10-120 บาท เป็นราคากิโลกรัมละ 1,000-1,500 บาท ปัจจุบันส่งออกไปยังประเทศจีน เซี่ยงไฮ้ กวางโจว รวมถึงฮ่องกง และมาเก๊า
4.ละอองเย็น Cooling Mist ผลิตภัณฑ์สเปรย์เย็น ฉีดพ่นตามร่างกาย ผลิตจาก สูตรยาสมุนไพรไทยผสมผสานภูมิปัญญาชาวบ้าน ด้วยนวัตกรรม “นาโนเซลลูโลส” สารอินทรีย์ระดับนาโนเมตร จากธรรมชาติ ที่ผสมผสานร่วมกับเกร็ดสะระแหน่ และ น้ำมันหอมระเหยชนิดต่างๆ เพื่อช่วยคลายความร้อน และยังรักษาความเย็นของสเปรย์ให้อยู่กับร่างกายได้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมง ละอองเย็นมีคุณลักษณะเสมือนเป็นฟิล์มใสบาง ๆ เคลือบผิวโดยไม่ทิ้งคราบ สามารถป้องกันยุงและแมลง มีกลิ่นหอมสดชื่นเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องเผชิญกับสภาวะอากาศร้อนของเมืองไทย ปัจจุบัน ได้ขยายตลาดยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศและอุณหภูมิที่คล้ายกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้สมุนไพรไทยเป็นที่รู้จักในตลาดทั่วโลกมากขึ้น
5.กาแฟพริกสูตรเผ็ดให้ความอบอุ่น (พริกค่ะ สไปซี่ คอฟฟี่)” กาแฟ 3 In 1 สูตรแรกของโลก ก ที่มีสารสกัดจากพริกขี้หนูเป็นส่วนผสมรายแรกของโลก ผสานกลิ่นและรสชาติที่อร่อยลงตัว ไม่เติมน้ำตาล ไม่มีไขมันทรานส์ และ ไม่มีโคเลสเตอรอล ซึ่งถือว่าเป็นกาแฟ ทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกแตกต่างจากกาแฟ 3 in 1 ทั่วๆไป ความรู้สึกหลังดื่มที่ให้สัมผัสถึงความเผ็ดและความอบอุ่นสบายท้อง ตอบโจทย์กับผู้ที่อยู่เมืองหนาว ผู้ที่ทำงานในห้องแอร์ อีกทั้งยังเป็นของฝากหรือของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันพริกค่ะสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 30 ล้านบาท/ปี และยังวางแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศในอนาคตอันใกล้
6.“บราวนี่กลูเตนฟรี” บราวนี่ที่มีรสชาติกรอบอร่อย ปราศจากกลูเตน ตอบโจทย์ตลาดอาหารแห่งอนาคต (Future Food) สินค้าดังกล่าวถือได้ว่าเป็นขนมอบกรอบเกรดพรีเมี่ยม เนื้อสัมผัสของขนมนุ่มฟู ไม่แห้งกระด้าง ใช้แป้งข้าวเจ้าไทยสายพันธุ์ดีทดแทนการใช้แป้งสาลี จึงมั่นใจได้ว่าปราศจากกลูเตน ช่วยตอบสนองผู้บริโภคที่ต้องการรับประทานขนมทางเลือกที่อร่อยและไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้แป้งข้าวสาลี สร้างยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศได้หลายล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 ปี ทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับแป้งข้าวเจ้าไทยด้วยการแปรรูป จากกิโลกรัมละ 30 บาท เป็น 1,480 บาท ช่วยก่อให้เกิดการจ้างงาน ช่วยสนับสนุนสินค้าจากชุมชน และการกระจายรายได้เข้าสู่เกษตรกร 100,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ
7.Cleanradex Eyelid ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเปลือกตาและขนตาจากข้าวไทย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเปลือกตา เพราะ หลายปีที่ผ่านมาคนไทยจำนวนมากเป็นโรคตาแห้งกันถึงร้อยละ 70-80 ด้วยเหตุนี้จึงมีการวิจัยและพัฒนาข้าวไทยและน้ำมันมะพร้าวให้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเปลือกตา เพราะในข้าวมีสาร Ricecoside เป็นสารทำความสะอาดหรือ Green Surfactant ช่วยในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกและไขมันบริเวณรอบดวงตา สามารถกำจัดไรขนตาที่เป็นสาเหตุหลักของอาการตาแห้ง นอกจากนี้ยังผ่านกระบวนการเทคโนโลยีสีเขียว ปราศจากสารเคมีอันตราย เหมาะสำหรับการทำความสะอาดที่อ่อนโยน ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทยได้ประมาณ 20 เท่า สร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 25 ล้านบาท/ปี และยังสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรและชุมชนได้อีกด้วย
สนใจติดต่อ ศูนย์นวัตกรรมกลุ่มธุรกิจ ซีพี ออลล์
โทร. 02-677-9782, 02-677-9770
www.7innovationawards.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *