xs
xsm
sm
md
lg

เอ็นไอเอเฟ้นหา 3 แพลตฟอร์ม พลิกคุณภาพชนบท-สังคมเมืองผ่าน “ธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เจ้าภาพขับเคลื่อนธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมผ่านโครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชน หรือ City & Community Innovation Challenge ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อเฟ้นหาโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาและประเด็นท้าทายที่เกิดขึ้นในสังคม โดยโจทย์ที่สำคัญในปีนี้แบ่งเป็น 3 หัวข้อ ได้แก่ นวัตกรรมการจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติ นวัตกรรมบริการสาธารณะ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบาง

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า NIA เดินหน้าโครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชน หรือ City & Community Innovation Challenge ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งเป็นแนวคิดในการทำงานร่วมกัน หรือเรียกว่า “การร่วมรังสรรค์” ระหว่างหน่วยงานด้านการปกครอง องค์กรเอกชน องค์กรภาคสังคม ภาคการศึกษา และภาคประชาชน โดยจะมุ่งเฟ้นหาโครงการที่สามารถผลักดันไปสู่การใช้งานจริง เพื่อแก้ไขปัญหาและประเด็นท้าทายที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งโจทย์ที่สำคัญในปีนี้แบ่งเป็น 3 หัวข้อ ได้แก่

• นวัตกรรมการจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติ (Innovation for Disaster Risk Management) ซึ่งมุ่งเน้นการป้องกันและลดผลกระทบความเสี่ยงภัยพิบัติ การเตรียมความพร้อมต่อการเผชิญภัยพิบัติ การรับมือและตอบสนองต่อสถานการณ์ การบรรเทาทุกข์และให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น การฟื้นฟู (การซ่อมสร้าง หรือการฟื้นคืนวิถีชีวิต)

นวัตกรรมบริการสาธารณะ (Public Service Innovation) มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีพลเมืองในการมีส่วนร่วมของประชาชน การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน การจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อภาครัฐ ความโปร่งใสในการดำเนินงาน การเข้าถึงบริการสาธารณะ การแก้ปัญหาต่างๆ ในเมืองและชุมชน การสื่อสารระหว่างภาครัฐกับประชาชน

การยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบาง (Enhancing Livelihoods of Vulnerable Groups) โดยให้ความสำคัญต่อการลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม การเข้าถึงการบริการด้านต่างๆ ของผู้สูงอายุ ความเท่าเทียมทางเพศ นวัตกรรมสำหรับผู้พิการ ความเท่าเทียมด้านการศึกษา การจัดการระบบสุขภาพ และนวัตกรรมสำหรับผู้ด้อยโอกาส

ทั้งนี้ ทั้ง 3 หัวข้อพิจารณาหลักเกณฑ์ 4 ด้าน ได้แก่ ระดับความเป็นนวัตกรรม เป้าหมายและผลกระทบของโครงการ โอกาสในการขยายผล และความร่วมมือกับเมืองและชุมชน ซึ่งโครงการที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนเงินทุนสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท พร้อมนำไปดำเนินการจริงในพื้นที่ตามหลักเกณฑ์ที่ NIA กำหนดภายในระยะเวลา 12 เดือน และขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ดร.พันธุ์อาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งภาคเอกชนหลายๆ แห่ง เช่น มูลนิธิ สหกรณ์ องค์กรการกุศล รวมถึงวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ซึ่งองค์กรเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ในการสร้างระบบและแพลตฟอร์มเพื่อการขจัดอุปสรรคต่างๆ ทั้งปัญหาความยากจน สุขภาวะความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และมุ่งผลประโยชน์เพื่อสังคมและสาธารณะเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม แม้องค์กรเอกชนหลายๆ แห่งจะหันมาให้ความสำคัญ แต่ยังขาดการส่งเสริมปัจจัยที่จำเป็นจากหน่วยงานภาครัฐในระดับที่เพียงพอ เช่น การสนับสนุนเงินทุน การลดหย่อนภาษี รวมถึงการเสริมสร้างศักยภาพองค์กรให้สามารถพัฒนานวัตกรรมให้เกิดการขยายผลสู่กลุ่มเป้าหมายได้

สำหรับโครงการนวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชนอยู่ระหว่างการเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2562 สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2017-5555 และ www.nia.or.th/citychallenge


กำลังโหลดความคิดเห็น