สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ร่วมกับสถาบันอาหาร จัดอบรมสร้างนักรบอุตสาหกรรมอาหารพันธุ์ใหม่ หรือ New Food Warrior 2019 ยกระดับอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ตั้งเป้า 200 ราย เน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรม มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารอนาคต (Future Food) ของอาเซียน
นายอิทธิชัย ยศศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ร่วมสถาบันอาหาร จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร ในหัวข้อ “การเตรียมพร้อมนักรบอุตสาหกรรมอาหารพันธุ์ใหม่ (New Food Warrior 2019)” ในเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งการอบรมดังกล่าวมีผู้เข้าอบรมไม่น้อยกว่า 200 ราย
“การอบรมดังกล่าวถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมอาหารของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องและมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารอนาคต (Future Food) ของอาเซียน และติด 1 ใน 10 ของผู้ส่งออกอาหารของโลกในปี 2565 ด้วยการยกระดับองค์ความรู้ในทุกมิติโดยเน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปรับตัวให้สอดคล้องกับการแข่งขันในยุคดิจิทัล”
แนวทางการพัฒนานักรบอุตสาหกรรมอาหาร ประกอบด้วย การให้คำปรึกษาเชิงลึก In-house Training กิจกรรมอบรมสัมมนา การทำ Workshop การเรียนรู้จากกรณีศึกษา และการเยี่ยมชมโรงงาน เป็นต้น และในปี 2562 มี 2 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมการพัฒนานักรบอุตสาหกรรมอาหารพันธุ์ใหม่ จำแนกออกเป็น 5 หลักสูตร แต่ละหลักสูตรมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป และกิจกรรมการให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ทั้งนี้ จะคัดเลือกผู้ประกอบการสอดคล้องกับเทรนด์ของโลก ได้แก่ กลุ่มอาหารอนาคต (Future food) ประกอบด้วย 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ (Health Food / Functional food) กลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารอินทรีย์ (Organics) กลุ่มผู้ผลิตอาหารทางการแพทย์ (Medical food) และกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสารสกัดสมุนไพร (Food Supplementary & Herb Extract) เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก โดยเน้นด้านการใช้เครื่องมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยในการยกระดับผลิตภาพ (Productivity) ให้กับสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
นางนิตยา พิระภัทรุ่งสุริยา รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวถึงแนวโน้มเทคโนโลยีและนวัตกรรมอาหารปี 2030 ว่า จากการประเมินจำนวนประชากรโลกที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 8.5 พันล้านคน จากปัจจุบัน 7.5 พันล้านคน ส่งผลให้ความต้องการอาหารเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ผลิตภัณฑ์อาหารรูปแบบใหม่ เช่น อาหารที่บริโภคในปริมาณน้อย แต่ให้พลังงานและโปรตีนเพียงพอต่อความต้องการ หรืออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จะเข้ามาแทนที่อาหารในรูปแบบเดิม
โดยจะมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 พันล้านคน คิดเป็นร้อยละ 16.5 หรือประมาณ 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรโลก ซึ่งมีความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพสมวัย รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อช่วยชะลอวัย ทั้งนี้ ร้อยละ 60 ของคนส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในเมือง ดังนั้น ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานและการรับประทานอาหารในร้านอาหารนอกบ้านจึงได้รับความนิยมอย่างมาก
“ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารจึงต้องเลือกใช้เทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร เช่น เทคโนโลยีการแปรรูปอาหารโดยใช้ความดันสูง เทคโนโลยีการฆ่าเชื้อโดยใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูง เทคโนโลยีการปรับคุณภาพของเนื้อสัตว์ โดยใช้คลื่นความดันเชิงกล (Shockwave) ทำให้เนื้อสัตว์นุ่มขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องเคร่งครัดมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร เช่น GMP, HACCP และ HALAL เป็นต้น