เปิดตัวได้อย่างงดงามกับผลิตภัณฑ์แรก “หน่อไม้ฝรั่งผง” ที่มีคุณประโยชน์สูง ช่วยชะลอวัยผิวพรรณเปล่งปลั่ง สร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ แถมยังบำรุงสมอง ด้วยสรรพคุณผงละเอียดสูงสามารถละลายน้ำได้ทันที และร่างกายดูดซึมได้ภายใน 5 นาที ได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภค ภายใต้ไอเดียของ “ธีระวัฒน์ วิไลรัตน์ หรือคุณเบส” ผู้บริหารผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร USmile 101
จุดเริ่มต้นนี้มาจากการที่คุณเบส ผู้คลุกคลีอยู่กับเกษตรกรผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่งมานาน 10 ปี ทำให้รู้วงจรของพืชเกษตรชนิดนี้ตั้งแต่ต้นน้ำว่าเกษตรกรปลูกกันอย่างไร และต้องดูแลกันเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นพืชที่ค่อนข้างเสียง่ายและเมื่อ 10 ปีที่แล้วคนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก ดังนั้นตลาดส่งออกจึงเป็นทางออกที่สำคัญและจากจุดนี้เองทำให้เขารู้ว่าหน่อไม้ฝรั่งเป็นที่ต้องการของชาวญี่ปุ่น เนื่องจากมีสรรพคุณช่วยในเรื่องของผิวพรรณ บำรุงสมอง คลายเครียด ขณะที่ชาวไต้หวัน นิยมรับประทานเป็นยาเพราะเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ
จากสรรพคุณที่โดดเด่นที่ทำให้เขาสนใจในหน่อไม้ฝรั่งมากขึ้น เริ่มจากการนำมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น เริ่มจากการนำไปอบกรอบ และปั่นเป็นน้ำ แต่สุดท้ายก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่เพราะความบังเอิญจากการนำหน่อไม้ฝรั่งอบกรอบไปเข้าเครื่องปั่นและนำไปชงกับน้ำก็พบว่าผงหน่อไม้ฝรั่งที่ได้คล้ายชาเขียว แต่ความละเอียดยังไม่เหมือนอย่างในปัจจุบัน แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์หน่อไม้ผง
สำหรับข้อดีของหน่อไม้ผงคือสามารถดูดซึมได้ง่าย ยังคงคุณค่าของไฟเบอร์ เกลือแร่ และวิตามินที่อยู่ในหน่อไม้ฝรั่งไว้ได้อย่างครบถ้วนเทียบได้กับการรับประทานผักสูงถึง 3 เท่า ในขณะที่วงการแพทย์ จะช่วยผู้ป่วยที่กลืนอาหารยากหรือใส่ในข้าวต้มก็ไม่ทำให้เสียรสชาติสามารถรับประทานในเชิงปริมาณได้
ล่าสุดเขาได้ต่อยอดด้วยการนำขิง และบล็อกโคลี แปรรูปเป็นผงด้วยเช่นกัน โดยพืชพรรณทุกอย่างล้วนอยู่ในผืนแผ่นดินไทยจากสองมือเกษตรกรที่คอยโอบอุ้มทะนุถนอมให้เติบโตกลายเป็นพืชผักคุณภาพมาตรฐานส่งออก
แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ทุกอย่างต้องใช้เงินทุน แต่ใครจะเชื่อว่าเพียงแค่มีแนวคิดในการเริ่มต้นทำธุรกิจนี้แล้วนำไปเสนอให้กับ “ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Development Bank” เพียง 1 สัปดาห์ ก็ได้รับเงินทุนในการเริ่มต้นธุรกิจที่ทุกอย่างมาจากศูนย์ พร้อมยังได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดออกบูธ ทำให้ปัจจุบันสามารถส่งออกไปได้หลายประเทศ อาทิ สปป.ลาว ญี่ปุ่น และไต้หวัน
อนาคตเขาจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ แต่จะนำพืชผลทางการเกษตรมาต่อยอดต่อไป พร้อมคงคอนเซ็ปท์ต้องปลูกบนผืนแผ่นดินไทย และจากสองมือเกษตรกรไทยเท่านั้น
สนใจติดต่อ : 096-662-8966
