จีเอ็มจัดเต็มชูบล็อกเชนจับโจรไซเบอร์

ธุรกิจไฟแนนซ์ในเครือจีเอ็ม ชวนสปริง แล็บส์ บริษัทบล็อกเชนที่กำลังมาแรง ช่วยจัดการโจรขโมยอัตลักษณ์ที่จะช่วยให้ค่ายรถเบอร์หนึ่งของอเมริกาแห่งนี้ประหยัดเงินได้ปีละหลายล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้เว็บไซต์ซีซีเอ็นรายงานว่า ผู้ผลิตรถยนต์ 95% คาดหวังใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนใน 3 ปีข้างหน้า โดยมีเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) เป็นผู้นำกระแส

จีเอ็มเป็นหนึ่งในบริษัทไม่กี่แห่งในทำเนียบฟอร์จูน 500 ที่ยอมรับบล็อกเชนอย่างจริงจัง ขณะที่จีเอ็ม ไฟแนนเชียลเป็นสมาชิกโปรเจ็กต์ไฮเปอร์เลดเจอร์ ซึ่งเป็นแผนการริเริ่มเพื่อขับเคลื่อนโซลูชันบล็อกเชนในโลกจริง

การเป็นพันธมิตรครั้งนี้จีเอ็ม ไฟแนนเชียลจะเข้าร่วมในสปริง ฟาวดิง อินดัสทรี พาร์ตเนอร์ส โปรแกรมของสปริง แล็บส์ ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมบทบาทบล็อกเชนในการแบ่งปันข้อมูล

ไมค์ คานาริออส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของจีเอ็ม ไฟแนนเชียล ให้สัมภาษณ์นิตยสารฟอร์บส์โดยบอกว่า เขาเชื่อว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนจะนำเสนอระบบที่ดีขึ้น เร็วขึ้น และต้นทุนต่ำลงในการรับมือ identify fraud

ปัจจุบัน จีเอ็ม ไฟแนนเชียลต้องผจญปัญหาใหญ่จาก synthetic identity fraud ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการขโมยอัตลักษณ์ที่กำลังระบาดหนักในอเมริกา โดย synthetic identity fraud คือกระบวนการที่วายร้ายนำข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่นมาผสมรวมกันเพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ซึ่งทำให้ยากต่อการแกะรอย โดยโจรไซเบอร์เหล่านี้อาจทำบัตรเครดิตปลอมขึ้นมาจำนวนมากหรือใช้ตัวตนปลอมกู้เงินซื้อรถ

คานาริออสเพิ่มเติมว่า ในฐานะบริษัทการเงินในเครือจีเอ็มและหนึ่งในผู้จัดหาสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก จีเอ็ม ไฟแนนเชียลจึงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาความสามารถในการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้บริการและปกป้องลูกค้ารวมถึงตัวแทนจำหน่ายอย่างดียิ่งขึ้น

ปัจจุบัน จีเอ็ม ไฟแนนเชียลทำธุรกิจอยู่ในอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และเอเชีย และเป็นเป้าหมายใหญ่ของนักต้มตุ๋น ปีๆ หนึ่งต้องเสียเงินหลายล้านดอลลาร์ในการสู้รบปรบมือกับการขโมยอัตลักษณ์

การติดตามตัวอาชญากรที่สวมรอยเป็นคนอื่นเพื่อทวงเงินคืนแทบเป็นไปไม่ได้เลยในขณะนี้ ทว่า ในอนาคตอันใกล้เทคโนโลยีบล็อกเชนอาจช่วยให้บริษัทระบุและตรวจยืนยันตัวตนลูกค้าก่อนอนุมัติสินเชื่อ

สปริง แล็บส์เป็นสตาร์ทอัพบล็อกเชนที่ระดมทุนได้จนถึงตอนนี้ 15 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันกำลังพัฒนาสปริง โปรโตคอล หรือเครือข่ายบนบล็อกเชนที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ แบ่งปันและตรวจสอบข้อมูลสำคัญ เช่น ประวัติเครดิตของลูกค้าอย่างปลอดภัย และรับประกันว่า จะไม่มีการเปิดเผยที่มาของข้อมูลเหล่านั้น

สปริง แล็บส์ผลักดันการเติบโตด้วยการเชิญชวนสตาร์ทอัพด้านฟินเทคมาร่วมวิจัยและพัฒนาในสปริง ฟาวดิง อินดัสทรี พาร์ตเนอร์ส โปรแกรม ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดในการช่วยให้บริษัทต่างๆ แบ่งปันข้อมูลผ่านสปริง โปรโตคอล เพื่อให้สามารถตรวจพบและสกัดการขโมยอัตลักษณ์ทันท่วงที โดยคาดว่า ผลิตภัณฑ์ล็อตแรกของแผนการริเริ่มนี้จะออกมาในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

อดัม จีวาน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารสปริง แล็บส์ บอกว่า โครงการของบริษัทจะช่วยสถาบันการเงินและสถาบันนอกภาคการเงินในการแบ่งปันข้อมูลอัตลักษณ์ของลูกค้าโดยที่ยังคงสามารถรักษาข้อมูลของลูกค้าเป็นความลับ ทำให้ระบุตัวนักต้มตุ๋นได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นเขายังเชื่อว่า ในอนาคตโปรโตคอลนี้จะมีนัยมากกว่าแค่การปล่อยสินเชื่อ เช่น การจดทะเบียนและระบบชำระเงินบนบล็อกเชน

เดวิด ทรีต กรรมการผู้จัดการและผู้นำด้านบล็อกเชนทั่วโลกของแอ็กเซนเจอร์ เห็นด้วยว่า การใช้บล็อกเชนจะทำให้กิจกรรมต่างๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ตั้งแต่การประกันภัย การควบคุมการจราจร การวางผังเมืองมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น

เช่นเดียวกับแอ็กเซนเจอร์ จีเอ็มเป็นสมาชิก MOBI ที่ทุ่มเทในการสำรวจแนวทางการใช้ประโยชน์จากบล็อกเชน โดยสมาชิกอื่นๆ ยังรวมถึงบีเอ็มดับเบิลยู, ฟอร์ด และเรโนลต์ กรุ๊ป

อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคสำคัญหลายอย่างที่ขัดขวางไม่ให้บล็อกเชนกลายเป็นบรรทัดฐานของอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การที่บริษัทจำเป็นต้องเข้าใจวิธีนำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้ในขอบเขตกว้างขวาง ปฏิบัติตามมาตรฐานที่มีอยู่ และปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า นอกจากนั้น โซลูชันที่อิงกับบล็อกเชนยังไม่ได้ตอบโจทย์ทุกบริษัทเสมอไป