จากผู้ที่ปฏิเสธและต่อต้านงานปักผ้าของชนเผ่าอาข่ามาโดยตลอด เพราะคิดว่าจะให้มาก้มหน้าก้มปักผ้าตามวัฒนธรรมของชนเผ่าที่ให้เด็กผู้หญิงต้องปักผ้าเป็น เธอกลับมองว่างานแบบนี้เสียเวลามาก น่าจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า แต่สุดท้ายเธอก็หนีไม่พ้นเลือกยึดอาชีพจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าของชาวเขาตามดอยต่างๆ มานานกว่า 16 ปี ภายใต้แบรนด์ “ชาลีบามบู” หลังลาออกจากงานประจำมาค้าขายอาหาร และสินค้าอื่นๆ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง
ล้มมาโดยตลอดกับการขอลองเป็นเจ้าของธุรกิจ “วราพร พรฟ้าสถิตวงศ์” ที่วันนี้ผันตัวมาเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์งานผ้า แบรนด์ “ชาลีบามบู” อย่างเต็มตัว และยึดอาชีพนี้มากว่า 16 ปีแล้ว จากที่เคยปฏิเสธมาโดยตลอด
เส้นทางชีวิตของเด็กชาวเขาที่ขอออกนอกกรอบ ไม่ยอมเรียนรู้งานฝีมือที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะงานปักผ้า ที่เด็กผู้หญิงในชนเผ่าจะต้องทำเป็น แต่เธอกลับมองว่าเป็นงานที่เสียเวลาจึงต่อต้าน เลือกไปเป็นลูกจ้าง หวังนำความรู้และประสบการณ์มาต่อยอดเป็นธุรกิจของตัวเอง แต่จนแล้วจนรอดทุกธุรกิจกลับล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็น ร้านข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว ขายเสื้อผ้า ทุกอย่างเจ๊งหมด ต้องกลับไปเป็นลูกจ้างอีกครั้ง กระทั่งถูกมารดาปรามาสว่า 'ทำอะไรก็เจ๊งหมด แล้วอย่างนี้จะไปทำอะไรกิน' พร้อมให้ตะกร้าที่บรรจุงานปัก ให้นำไปขายให้นักท่องเที่ยว ก็มองเห็นโอกาสจากงานเหล่านี้อีกครั้งว่าสามารถเพิ่มมูลค่าได้ นักท่องเที่ยวยอมจ่าย เพราะเป็นงานฝีมือที่ทำขึ้นทีละชิ้น
“เมื่อทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ก็หันกลับมามองสิ่งใกล้ตัวที่เคยมองข้าม แม้จะปักผ้าไม่เป็น แต่ก็ชอบงานศิลปะ และมีประสบการณ์ด้านการค้าขายอยู่บ้าง จึงคิดนำงานของคนในครอบครัว และชนเผ่าอาข่า ขยายตลาดให้ผู้คนรู้จักมากขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เราเห็นมาตั้งแต่เกิด ผู้หญิงทุกคนในหมู่บ้านถ้ามีเวลาว่างจะนั่งปักผ้า ทำให้วิถีเหล่านี้ถูกซึมซับโดยไม่รู้ตัว”
หากย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งเธอ เริ่มนำสินค้าของชาวเขาเผ่าอาข่ามาจำหน่าย โดยลูกค้าหลักจะเป็นชาวญี่ปุ่น ที่เห็นคุณค่างานเหล่านี้ยอมควักเงินซื้อเสื้อจากผ้าฝ้าย ที่ทำด้ายขึ้นเอง ทอมือ ย้อมสีจากธรรมชาติ พร้อมงานปักด้วยมือทั้งตัว ราคาตัวละไม่ต่ำกว่า 5 พันถึง 1 หมื่นบาท ก็ยังขายดี ดังนั้นจึงกลายเป็นการจุดประกายให้เธอเลือกยึดอาชีพนี้
จากการขายปลีกใน จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ก็ขยายตลาดสู่เมืองกรุง บุกตลาดนัดสวนจตุจักรโครงการ 19 ซอย 6/7 ขายมา 16 ปีแล้ว ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าต่างชาติ อาทิ อุรุกวัย ชิลีบราซิล แม็กซิโก คอสตาริกา อาร์เจนตินา โปรตุเกส โคลัมเบีย ส่วนประเทศในแถบเอเชียก็มีการส่งไปจำหน่ายด้วยเช่นกัน ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้ส่งไปจำหน่ายในภาคใต้ให้นักท่องเที่ยว แม้ช่วงนี้ตลาดจะซบเซาบ้างตามภาวะเศรษฐกิจ แต่เธอก็ยังต้องสต็อกวัตถุดิบ เพื่อผลิตสินค้ารองรับออเดอร์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจาก “ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Development Bank” ให้เงินทุนสินเชื่อจำนวน 500,000 บาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน พร้อมเติมทุนด้านความรู้ให้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องการผลิต การออกแบบ รวมถึงช่องทางจำหน่าย
ปัจจุบันสินค้าในร้านชาลีบามบู ไม่ได้มีเพียงงานผ้าของชนเผ่าอาข่าเท่านั้น ยังมีของเผ่าม้ง ลีซอ เย้า ซึ่งแต่ละเผ่าจะมีเอกลักษณ์ของงานผ้าที่แตกต่างกัน ทำให้สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น ผู้สนใจสามารถไปซื้อหากันได้ที่ ตลาดนัดสวนจตุจักรโครงการ 19 ซอย 6/7 หรือโทร.089-875-0775 Line ID / What App : 0898750775 และ Facebook : Chaleebamboo
