xs
xsm
sm
md
lg

“ไฉไล เฉาก๊วย” เคี้ยวหนึบ ขายส่งหมื่นถ้วยต่อเดือน เปิดใจวัยรุ่นลิ้มลองหวานเย็นสไตล์ไทย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมื่อคนชอบความเหนียวหนึบของไข่มุกเมนูฮิตจากต่างแดน แล้วทำไมจะทำเฉาก๊วยหนึบของไทยขึ้นมาไม่ได้บ้าง ทำให้อดีตครูประถม ลองทำเฉาก๊วยด้วยตัวเองสรรหาวัตถุดิบอย่างดีมาลองผิดลองถูก จนได้เฉาก๊วยหนึบสมใจ แถมพัฒนาต่อยอดเป็นชานมเฉาก๊วยหนึบ มาช่วงชิงตลาดชานมไข่มุกจากไต้หวัน

“เห็นเป็นสีดำๆ เหมือนกัน ดังนั้น เฉาก๊วยก็น่าจะนำมาเป็นไข่มุกได้” แนวคิดนี้เป็นของ 'นันทิยา อัจฉราวรรณ' อดีตครูประถม ที่เพียงต้องการหาสินค้ามาขายหน้าร้านของชำของครอบครัว แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรขายดี ก็เหลือบไปเห็นตู้แช่ ก็คิดจะทำเครื่องดื่มเย็นจำหน่าย นึกไปถึงกระแสชานมไข่มุก ที่ยังแรงไม่ตก แม้ต้องนำเข้าไข่มุกมาจากไต้หวัน ซึ่งเฉาก๊วยของไทยก็น่าจะนำมาต่อยอดทำเป็นเฉาก๊วยหนึบได้ไม่ยาก
นันทิยา อัจฉราวรรณ เจ้าของผลิตภัณฑ์ ไฉไลเฉาก๊วย




เธอเริ่มทำเฉาก๊วยด้วยตัวเอง โดยหาวิธีทำจากยูทูป (Youtube) ศึกษาไปถึงต้นเฉาก๊วย ถึงขนาดคิดจะนำเข้าต้นเฉาก๊วยเข้ามาปลูกเลยทีเดียว แต่ทุกอย่างก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ยังไม่ได้เฉาก๊วยหนึบ กระทั่งพี่ชายเดินทางไปยังประเทศเวียดนาม ได้นำใบเฉาก๊วยมาให้ 1 ถัง จึงลองสกัดเอาน้ำยางออกมา ปรากฏว่าได้ผลดีแม้จะทำทิ้งไปเป็นจำนวนมากก็ตาม

เมื่อได้เฉาก๊วย เนื้อหนึบตามต้องการ ต่อไปก็คิดต้องลองทำ “ชา” ซึ่งเธอจะเน้นที่กลิ่นของชาเป็นสำคัญ จึงคัดสรรใบชาอย่างดี กลายเป็นเมนู “เฉาก๊วยชาไทย” แต่ก็มีเสียงเรียกร้องจากเด็กๆ ว่าไม่สามารถดื่มชาไทย เธอจึงเพิ่มเมนูเป็นนมสด ซึ่งทั้งสองเมนูนี้ ครองตลาดมาพร้อมๆ กัน ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ไฉไล เฉาก๊วย” ความพิเศษอยู่ที่เนื้อเฉาก๊วย กับเครื่องดื่มรสชาติต่างๆ จะไม่ผสมรวมกัน จนกว่าผู้บริโภคจะเปิดฝาเพื่อรับประทาน ซึ่งเธอมีเทคนิค คือ นำวุ้นเคลือบไว้บางๆ แยกชั้นของเนื้อเฉาก๊วยและน้ำ ราดคาราเมล เพื่อคงความสวยงามระหว่างการขนส่ง และสามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น






“เป็นความตั้งใจของเราที่ต้องการให้ลูกค้ารับประทานได้สะดวก จบในถ้วยเดียว จึงให้ความสำคัญเรื่องแพคเกจจิ้งด้วย เป็นการประยุกต์ขนมที่คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยนิยม อย่าง เฉาก๊วย มาเป็นขนมร่วมสมัย แข่งกับชานมไข่มุก เครื่องดื่มฮิตกระแสแรงไม่ตก แต่การที่จะทำให้คนรุ่นใหม่ หันมารับประทานเฉาก๊วย เรื่องบรรจุภัณฑ์จะต้องดึงดูดและน่าสนใจ ซึ่งก็ได้ผลดีเกินคาด คนรุ่นใหม่กล้าลองชิม และกลายเป็นลูกค้าประจำ จากการลองวางขายที่หน้าร้านของชำของครอบครัว”




เธอเน้นทำการตลาดในช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด และยังเป็นการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงมีการฝากวางตามร้านอาหารทั่วไปด้วย ทำให้ปัจจุบันเริ่มมีตัวแทนจำหน่ายที่ภาคใต้ ขนส่งทางรถไฟใช้เวลาประมาณ 1 วัน แพคในกล่องโฟมมีน้ำแข็งให้ความเย็นตลอดเวลา ส่วนใน กทม. จะจัดส่งผ่านไลน์แมน (line man) โดยขายปลีกในราคาแก้วละ 25-30 บาท แต่ถ้ามารับซื้อแบบขายส่งหน้าโรงงานจะอยู่ที่ 15 บาท/แก้ว กำหนดการสั่งซื้อขั้นต่ำ 1 ลัง บรรจุ 48 ถ้วย คละได้ 5 รสชาติ ได้แก่ นมสด (ขายดี) ชาไทย ชาเขียว โกโก้ และนมชมพู สามารถเก็บได้นาน 10 วัน ในตู้เย็นอุณหภูมิประมาณ 3-4 องศาเซลเซียส ปราศจากสารกันบูด กันเสีย เป็นการผลิตแบบโฮมเมดทั้งหมด รับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องใส่น้ำแข็ง




ปัจจุบัน “ไฉไล เฉาก๊วย” มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 500 ถ้วย/วัน และเตรียมขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นภายในปีนี้ จากเดิมยังใช้พื้นในบริเวณบ้านที่แยกออกมาเป็นโรงงานผลิตเล็กๆ หวังรองรับการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคต่างๆ รวมถึงเปิดรับออเดอร์ สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อไปตามงานพิธีต่างๆ เช่น งานแต่ง งานบวช และงานศพ รวมถึงงานอบรม สัมมนา ขององค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน

ส่วนแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เธอต้องการให้เฉาก๊วยเป็นเทรนด์ฮิตติดกระแสไม่แพ้ไข่มุก จึงเตรียมต่อยอดเป็น 'เฉาก๊วยดูดได้' เน้นความแปลกใหม่ และสะดวกในการรับประทาน แต่ยังคงยึดหลักในเรื่องของราคาและคุณภาพเป็นสำคัญ เพราะต้องการเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มในราคาที่จับต้องได้ และเร็วๆ นี้ เตรียมนำสินค้าวางจำหน่ายที่ไอคอนสยาม ในโซนตู้กับข้าว ให้ลูกค้าได้รู้จักแบรนด์และเปิดใจลิ้มลอง

***ติดต่อ 099-4297441 หรือที่ Facebook และ Line ID : chailaichaoguay***



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *







กำลังโหลดความคิดเห็น