ถูกใจสายหวาน เครื่องประดับเซรามิก “RA FU CHAA” ราคาเริ่มที่ 100 บาท

เริ่มต้นจากความชอบ ต่อยอดสู่งานศิลปะร่วมสมัย เติบโตด้วยการสร้างธุรกิจ สำหรับเครื่องประดับเซรามิกแบรนด์ RA FU CHAA ที่สร้างสรรค์ผลงานลายสีน้ำลงบนดินเผาเซรามิก ที่แต่งแต้มความสวยงามเองกับมือ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานผ้าไหม ผ้าฝ้าย และงานสีน้ำ

ชัชชญา หิรัญปุณณดา เจ้าของธุรกิจเครื่องประดับเซรามิก ร่วมสมัยแบรนด์ RA FU CHAA เล่าว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบงานศิลปะจำพวก งานปั้นดินเซรามิก งานผ้าไหม ผ้าฝ้าย และงานสีน้ำ เป็นทุนเดิม และมีโอกาสได้ศึกษาเกี่ยวกับงานเหล่านี้ จึงมีแนวคิดอยากจะสร้างผลงานขึ้นมา โดยเริ่มจากลองทำเป็นงานอดิเรกแล้วนำมาขายในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีคนชอบผลงานมากพอสมควร จึงได้พัฒนาต่อยอดโดยการสร้างแบรนด์เป็นของตนเองขึ้นมา เริ่มจากทำเป็นชิ้นเล็กๆ ที่พอทำได้ ใช้ความชอบในลายผ้า ลายดอกไม้ แนวการ์ตูนญี่ปุ่น และรูปสัตว์ มาสร้างสรรค์บนชิ้นงาน

ปัจจุบันเริ่มทำธุรกิจมาได้ประมาณ 2 ปี เริ่มมีการพัฒนาเอาวัสดุอื่นๆ เข้ามาผสมผสาน เช่น งานถัก งานสาน มาผสมเข้ากับงานเซรามิก เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ ส่วนมากสินค้าที่ถูกผลิตออกมาจะเป็นสินค้าที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ต่างหู สร้อย และแหวน โดยชิ้นงานเหล่านี้ตนเป็นคนออกแบบลายเองทั้งหมด รวมถึง ปั้น ลงสี เพ้นท์ลาย ต่างๆ

สำหรับลวดลายต่างๆ ที่ถูกแต่งแต้มลงบนชิ้นงานตนได้แนวคิดมาจากการศึกษาหาความรู้จากผลงานสีน้ำต่างๆ แล้วนำมาปรับให้เข้ากับผลงานตัวเอง ซึ่งเทคนิคที่ใช้ คือ การลงสีไตรเคลือบ พอเพ้นท์ออกมาแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับสีน้ำ พอได้แนวคิดนี้มาก็เอาลงเพ้นท์ลงบนจาน ชาม ที่รองแก้ว แก้ว เข็มกลัด เป็นต้น

ช่องทางที่จำหน่าย ในช่วงแรกได้มีการลงจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ชื่อดัง อย่าง Pinkoi เป็นเว็บไซต์ซื้อขายงานดีไซน์ขนาดใหญ่ ต่อมาได้ลงจำหน่ายกับห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง ไอคอนสยาม และจำหน่ายตามการออกงานหรืออกบูธต่างๆ นอกจากนี้ยังมีช่องทางโซเชียลอย่าง เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม ให้ลูกค้าได้เข้ามาดูผลงานและเลือกซื้อได้อย่างสะดวกสบาย

ด้านผลตอบรับอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีทั้งลูกค้าคนไทยและลูกค้าต่างชาติ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าผู้หญิง เพราะชิ้นงานของทางร้านจะเป็นเครื่องประดับเหมาะสำหรับผู้หญิงมากกว่า ส่วนลูกค้าผู้ชายมีเข้ามาดูบ้าง ที่เลือกซื้อก็จะมีงานที่เป็นสีคราม สีดำ หรือลายญี่ปุ่น และซื้อเป็นของฝากให้คนรัก

การผลิตใน 1 ครั้งลูกค้าจะสั่งเข้ามาเป็นออเดอร์ใช้เวลาในการผลิตทั้งหมด 1 เดือน เพราะมีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลามากพอสมควร ลวดลายก็ไม่ซ้ำ แต่หากลูกค้ามีความต้องการอยากลวดลายที่ซ้ำกัน ทางร้านจะบอกกับลูกค้าว่า ทำซ้ำให้ได้แต่ความเหมือนจะต่างกัน เนื่องจากน้ำหนักในการลงสี การวาดลวดลาย อาจจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป กรณีนี้ลูกค้าให้การยอมรับได้

ทั้งนี้การตลาดที่ทางร้านมองไว้ คือ อยากจะสร้างผลงานออกมาเพื่อให้คนรู้จักกับงานศิลปะมากขึ้นไม่เพียงแค่เป็นงานในอดีตแต่สามารถนำมาปรับใช้ให้ร่วมสมัยได้ เช่น งานสานของไทยนำมาผสมกับงานเซรามิก ก็จะทำให้เกิดผลงานที่แปลกใหม่ รวมถึงอยากให้ชาวต่างชาติให้เห็นถึงความเป็นไทยที่ถูกถ่ายทอดจากงานศิลปะเครื่องประดับ งานหัตกรรมของไทย สำหรับลูกค้าต่างชาติคิดเป็น 30-40% ในการตัดสินใจซื้อสินค้าของทางร้าน

ในส่วนของราคาเริ่มต้นที่ 100 บาทขึ้นไปถึง 550 บาท และมีอีกหลากหลายราคา สินค้าที่คนให้ความนิยมมากที่สุดคือ เครื่องประดับประเภท ต่างหู แหวน เป็นต้น ในแต่ละชิ้นจะมีลวดลายที่ไม่ซ้ำกัน ต้นทุนในการผลิตอยู่ในระดับไม่สูงมาก พยายามเลือกใช้วัสดุจำพวก เงิน หรือแบบที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้ในระยะยาว และจำหน่ายในราคาที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้

นอกจากนี้การวางแผนพัฒนาผลงานในอนาคตจะพยายามพัฒนาในส่วนของรูปลักษณ์และแพ็คเกจให้มีความสากลมากยิ่งขึ้น ให้ชาวต่างชาติเห็นแล้วทราบได้ทันทีว่าสินค้าประเภทนี้เป็นของไทย และพัฒนาฝีมือด้านการสร้างสรรค์ลวดลายให้หลากหลายยิ่งขึ้น