กระแสยังไม่ตกสำหรับธุรกิจเบเกอรี่ ที่แม้กระแสคนรักสุขภาพจะมา แต่ชีวิตก็ขาดหวานไม่ได้ ทำให้ “ปังเนยโส๊ดโสด ฮอกไกโด” ผลผลิตจากโรงงานสุดติ่งกระดิ่งแมว มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ สินค้าไม่พอจำหน่าย และล่าสุดเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตรองรับตลาดต่างประเทศ และบุกห้างดังในไทย
ครูอัณ หรือ อัณณ์ชญา สิริโชติพัชญ์ เจ้าของโรงงานเบเกอรี่สุดติ่งกระดิ่งแมว ผลิต “ปังเนยโส๊ดโสด ฮอกไกโด” ออกมาสร้างกระแสให้คนไม่กลัวอ้วน และหลงรักในเนยสดรสละมุนได้ลิ้มลอง ทำให้คนในโลกโซเชียลต่างโหยหา และสั่งซื้อจากโรงงานโดยตรง และตัวแทนจำหน่าย ถึงขั้นผลิตไม่พอจำหน่าย กระแสเหล่านี้เรียกว่าเกิดจากความไม่หยุดคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ของครูอัณ ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากความเป็นครูสอนเบเกอรี่ แต่ผันตัวมาจากอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ใน จ.นครพนม ที่ต้องการหารายได้พิเศษ ด้วยการรับขนมมาขายตามตลาดนัดหลังเลิกงาน และรู้สึกหลงใหลในการเป็นแม่ค้า ประกอบกับในช่วงนั้นเธอถูกย้ายให้ไปทำงานในสาขาที่อยู่ไกลบ้าน จึงตัดสินใจลาออกมาเป็นแม่ค้าเต็มตัว
เริ่มจากการไปเรียนทำขนมปัง และเปิดร้านเล็กๆ ที่ จ.สกลนคร เน้นทำขนมปังไส้ทะลัก ขายชิ้นละ 20 บาท และขยายสาขาไปที่ จ.ศรีสะเกษ และสุรินทร์ หลังจากนั้นก็มีโอกาสมาเปิดร้านที่กรุงเทพฯ ย่านตลาดรามอินทรา กม.2 ยอดราคาก็ไม่เปรี้ยงปร้างมากนัก แต่ยอดขายในเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า 'โรงงานเบเกอรี่สุดติ่งกระดิ่งแมว' กลับมีแนวโน้มที่ดี จากการทำ “ขนมเค้กหน้านิ่ม” ขายในราคาส่งเพียง 14 บาท/ถ้วย มีคนรับไปขายต่อจำนวนมาก ทำให้ต้องเช่าโกดังเพื่อทำเป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานขึ้น
หลังจากนั้นเธอก็พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นเพิ่มเติม ตามความนิยมของผู้บริโภคและตลาดในช่วงนั้นๆ เช่น ขนมปังเนยหนึบ และล่าสุดที่สร้างกระแสในโลกโซเชียลอย่างถล่มทลาย คือ “ปังเนยโส๊ดโสด ฮอกไกโด” จากกระแสของลูกค้าที่ได้ลิ้มลองต่างติดใจในรสชาติ และคุณภาพวัตถุดิบที่รู้เลยว่าเจ้าของธุรกิจนี้ใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะครูอัณ จะเลือกสรรวัตถุดิบอย่างดี เหมือนทำให้คนในครอบครัวรับประทาน ต้องให้ของดีและรสชาติอร่อย ดังนั้นเธอจึงเลือกใช้เนยสดอย่างดีเน้นสุขภาพ ไข่ไก่สดใหม่ และเร็วๆ นี้จะลดน้ำตาลลง 2% อีกด้วย
“ความอร่อยจะมาเป็นอันดับ 1 ที่ลูกค้าชื่นชอบและเกิดการบอกปากต่อปาก ซึ่งในเรื่องของรสชาตินั้น เราทำเบเกอรี่มานานทำให้รู้ว่ารสชาติไหน ลูกค้าจะชอบ ดังนั้นจึงปรับสูตรกันไม่นาน รวมถึงเราโตมากับการทำตลาดในโซเชียลมีเดีย จึงรู้ว่ารูปภาพ และข้อความในการที่จะสื่อไปถึงลูกค้า เพื่อตัดสินใจซื้อนั้นต้องทำอย่างไร ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว”
นอกจากความอร่อยและคุณภาพสินค้าที่มัดใจลูกค้าได้อยู่หมัดแล้ว ปณิธานที่ทางร้านยึดถือ คือ ต้องการสร้างรายได้ให้แม่บ้าน คนในชุมชน หรือพนักงานประจำที่ต้องการมีรายได้เสริม สามารถรับขนมจากโรงงานไปขายต่อได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ขนมจากโรงงานเบเกอรี่สุดติ่งกระดิ่งแมว จะมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และกลายเป็นสินค้าขายดีที่ใครก็อยากลิ้มลอง ถึงขั้นมีคนนำแบรนด์ไปแอบอ้างผลิตสินค้าลอกเลียนแบบขึ้น สำหรับราคาขายปลีกปังเนยโส๊ดโสด อยู่ที่กล่องละ 100 บาท นูเทลลา 150 บาท (1 ถาด มี 6 ชิ้นเล็ก) ขณะที่ราคาขายส่ง อยู่ที่ลังละ 2,450 บาท (บรรจุ 36 กล่อง) จัดส่งฟรีทั่วประเทศ
ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ปังเนยโส๊ดโสดฮอกไกโด นูเทลล่า” เป็นการนำเอาวัตถุดิบที่มีชื่อเสียงมาสร้างจุดขายใหม่ ลดความจำเจ และเป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้า โดยในแต่ละเดือนจะมีขนมออกใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการตลาดในไทย และประเทศเพื่อนบ้าน จากเดิมสามารถผลิตได้ 2,600 กล่อง/วัน จะเพิ่มเป็น 3,600 กล่อง/วัน และภายในเดือน มี.ค.62 จะผลิตได้สูงสุดถึงวันละ 15,000 ชิ้น เลยทีเดียว โดยสัดส่วนการผลิตขณะนี้ 95% เป็นปังเนยโส๊ดโสด และ 5% เป็นขนมในกลุ่มเค้ก
ส่วนแผนในอนาคตนอกจากจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อขยายไปยังตลาดต่างประเทศแล้ว ครูอัณ ยังมีแผนสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยการเปิดป๊อบอัพ สโตร์ (Pop up Store) ขนาดเล็ก ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีนี้ และจะเพิ่มเมนูขนมหวาน อย่าง บิงซูทุเรียน ที่เคยสร้างกระแสในโลกโซเชียลมาแล้ว สำหรับการนั่งรับประทานในร้านเพิ่มเติม และไม่ใช่เธอจะขายเบเกอรี่อย่างเดียว แต่ครูอัณ ยังเปิดเพจสอนทำขนม ชื่อว่า “ทำขนมกับครูอัณ” (Bake with Aun) เป็นการสอนทำขนมง่ายๆ ให้คนทำขายกลายเป็นอาชีพ โดยเธอใช้พื้นที่ในโรงงานเป็นสตูดิโออีกด้วย
***ติดต่อ 061-8247711 Facebook : โรงงานเบเกอรี่สุดติ่งกระดิ่งแมว***