xs
xsm
sm
md
lg

“เคเปอร์”ช้อปต่อไม่รอแล้ว รถเข็นAIไม่ต้องพึ่งแคชเชียร์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รถเข็นอัจฉริยะของเคเปอร์ (ภาพจากเคเปอร์)
เทคโนโลยีการช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตปฏิวัติตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งตั้งแต่ร้านไร้แคชเชียร์ “แอมะซอน โก” จนถึงรถส่งอาหารไร้คนขับของวอลมาร์ท จุดโฟกัสคือความเร็วและความสะดวกสบาย ล่าสุดคือนวัตกรรมจากสตาร์ทอัพโนเนมที่ใช้รถเข็น AI เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวจ่ายเงิน

เคเปอร์ก่อตั้งโดยลินดอน โก ที่สร้างสตาร์ทอัพแห่งแรกในธุรกิจเกมตั้งแต่อายุ 14 ปี ห้าปีต่อมาเขาเปิดตัวบริษัทเครื่องประดับที่ยังอยู่มาถึงตอนนี้ หลังจากนั้นเขาไปทำงานเป็นวาณิชธนกรให้โกลด์แมน แซคส์ และเจพี มอร์แกนจนมั่นใจว่า งานถนัดของตัวเองคือการปลุกปั้นสตาร์ทอัพ

สำหรับเคเปอร์นั้น โกบอกว่า กว่าจะได้รถเข็นอัจฉริยะ เขาตระเวนคุยกับผู้ค้า 150 รายเพื่อให้รู้ว่า คนเหล่านั้นต้องการอะไร

รถเข็นอัจฉริยะของเคเปอร์ติดตั้งหน้าจอระบบอินเทอร์แอกทีฟ เครื่องสแกนบาร์โค้ด และเครื่องรูดบัตรเครดิต เพื่อให้ลูกค้าสแกนบาร์โค้ดก่อนวางสินค้าลงในรถและรูดบัตรจ่ายเงินด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเข้าคิวรอจ่ายกับแคชเชียร์

หน้าจอรถเข็น AI ของเคเปอร์แสดงข้อมูลต่างๆ รวมถึงโปรโมชันของสินค้าตลอดทางที่รถเข็นผ่าน แนะนำผลิตภัณฑ์ สูตรอาหาร และโชว์แผนที่ในซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อนำทางลูกค้าไปยังผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ สตาร์ทอัพแห่งนี้กำลังยกระดับอัลกอริทึมการเรียนรู้เพื่อให้รถเข็นสามารถระบุสินค้าด้วยกล้องจดจำภาพ โดยทุกครั้งที่สแกน ระบบจะถ่ายภาพสินค้า 120 ภาพ และเซ็นเซอร์ชั่งน้ำหนักสินค้า

เคเปอร์ยังรู้ดีว่า รถเข็นต้องทนทานต่อความร้อน การสั่นสะเทือน รวมถึงฝน จึงสร้างรถเข็นที่แข็งแรงทนทานระดับน้องๆ รถถัง

จุดขายของเคเปอร์คือ โซลูชันที่ขยายได้และราคารับไหวสำหรับธุรกิจที่กำลังมองหาลู่ทางเข้าสู่วงการช้อปปิ้งอัตโนมัติ แม้สตาร์ทอัพแห่งนี้ไม่ได้เปิดเผยราคารถเข็นอัจฉริยะแต่บอกคร่าวๆ ว่า แพงกว่ารถเข็นทั่วไปไม่มาก แต่ถูกกว่าการติดตั้งเซ็นเซอร์และกล้องแบบแอมะซอน โก เคเปอร์ยังอวดว่า ลูกค้าของเชนซูเปอร์มาร์เก็ต 2 แห่งในนิวยอร์กซิตี้ที่ใช้รถเข็นของบริษัท ซื้อของเพิ่มขึ้น 18% ทุกครั้งที่ไปช้อป

รถเข็นอัจฉริยะของเคเปอร์มีข้อดีสามข้อหลักๆ คือ ช่วยให้ซูเปอร์มาร์เก็ตโอนย้ายแคชเชียร์ไปทำหน้าที่อื่น เช่น ให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ลูกค้าจับจ่ายเพิ่มขึ้น และดูแลไม่ให้สินค้าบนชั้นพร่อง ข้อดีที่สอง การเปลี่ยนมาใช้รถเข็นอัจฉริยะไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนและต้นทุนไม่แพงจนเกินไป ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตได้ทุนคืนและมีรายได้เพิ่ม สุดท้ายคือการแบ่งปันข้อมูลที่รถเข็นเก็บรวบรวม เช่น ชั้นวางสินค้าที่ลูกค้าแวะเวียนเป็นประจำเพื่อให้ซูเปอร์มาร์เก็ตปรับปรุงแผนผังให้เหมาะสมที่สุด

สตาร์ทอัพแห่งนี้ระดมทุนได้จนถึงขณะนี้ 3.5 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุน อาทิ วาย คอมบิเนเตอร์, เฟิร์สต์ ราวด์ แคปิตอล ฯลฯ และมีแผนนำเงินทุนที่ได้ไปผลิตรถเข็นเพิ่มสำหรับซูเปอร์มาร์เก็ต 150 สาขาในปีนี้ รวมทั้งพัฒนาตะกร้าชอปปิ้งอัจฉริยะ

ปัจจุบัน การแข่งขันนำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไม่ต้องพึ่งแคชเชียร์กำลังทวีความดุเดือด นอกจากแอมะซอน โกที่เตรียมขยายสาขาแล้ว ยังมีสตาร์ทอัพ “กราแบงโก” ที่เป็นพันธมิตรกับห้างค้าปลีก 4 แห่ง, “ซิปปิน” และ “อิโนกิโอ” ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนใช้ระบบกล้องติดบนเพดานและบนชั้นวางสินค้า

สัปดาห์ที่ผ่านมายังเป็นเวลาทองสำหรับสตาร์ทอัพในธุรกิจนี้ โดยกราแบงโก ผู้พัฒนาโซลูชันแบบขยายได้ที่ใช้กล้องขนาดเท่าสมาร์ทโฟนจำนวนมากติดตั้งบนเพดาน เผยว่าระดมทุนได้ 12 ล้านดอลลาร์ ขณะที่สแตนดาร์ด ค็อกนิชัน เจ้าของโซลูชันค้าปลีกอัตโนมัติ ระดมทุนได้ 40 ล้านดอลลาร์


กำลังโหลดความคิดเห็น