“ทศพล หิมพานต์” ชื่อนี้ คนไทยรู้จักดี โดยเฉพาะผลงานลูกคอการร้องเพลงแหล่ ทำขวัญนาค เป็นเบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย แต่วันนี้ เขาไม่ได้มาร้องเพลงแหล่อย่างเดียว เพราะนำลูกชิ้นมาแนะนำให้ลูกค้า ในตลาดนัดได้รู้จัก
สำหรับธุรกิจใหม่ ของ เจ้าพ่อเพลงแหล่ “ทศพล หิมพานต์” คือ การทำโรงงานลูกชิ้นหมู และเนื้อ ภายใต้ชื่อ “ลูกชิ้น ทศพล หิมพานต์” จุดขายของเขา คือ ทำตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ เน้นคุณภาพดี ราคาถูก
“ทศพล” เล่าว่า เนื่องจากการแข่งขันในตลาดลูกชิ้นมีสูงมาก ไปในตลาดสดแค่ 1 ตลาดพบลูกชิ้น เป็นหลายสิบยี่ห้อ และถ้าทั่วประเทศ มีหลักร้อย ถึงหลายร้อยยี่ห้อ ดังนั้น การที่เราเป็นรายใหม่ โอกาสที่จะเข้าไปขอแชร์ตลาดลูกชิ้นแค่ในตลาดสด ยังไม่ใช่เรื่องง่าย ผมก็เลย เอาจุดขายเรื่องของราคา และคุณภาพ มาเล่น
สำหรับการทำลูกชิ้นในบ้านเรา จะมี 2 ลักษณะ คือ ใส่แป้ง ไม่ใส่แป้ง แต่ลูกชิ้น ของเราเป็นแบบใส่แป้ง แต่เราใส่แป้งน้อยมาก เนื้อสัตว์ 40 กิโลกรัม ใส่แป้งแค่ 1 กิโลกรัม และเมื่อเทียบราคาคุณภาพเดียวกัน ของในตลาดจะราคาสูงกว่าของเราอยู่หลายบาท ซึ่งราคาลูกชิ้นของผม แบ่งเป็นราคาขายส่งกิโลกรัมละ 65 บาท แต่ถ้าขายปลีกทั่วไปในตลาดจะขายกิโลกรัมละ 80 บาท ส่วนลูกค้าที่ซื้อไปขายต่อ ราคาก็จะแตกต่างกัน บางรายขายกิโลกรัม 80 บาท 90 บาท หรือ บางคนก็สามารถทำราคาได้ ก็ขายถึงกิโลกรัมละ 100 บาท ขึ้นไปก็มี
นอกจากนี้ จุดขายอีกอย่างหนึ่งของ ลูกชิ้นทศพล คือ ลูกค้าสามารถสั่งลูกชิ้นตามขนาดที่ต้องการได้ โดยปัจจุบัน ทำอยู่ 3 ชนาด เล็ก กลาง และใหญ่ และกรณีที่ลูกค้าซื้อ เพื่อนำไปทอดจำหน่าย คุณทศพล ยังได้คิดสูตรน้ำจิ้ม ลูกชิ้นออกมาขายควบคู่ไปด้วย
พอถามถึงยอดขาย คุณทศพล บอกว่า โฃคดี ที่ลูกค้าให้การตอบรับดีมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทำการตลาดเชิงรุกอย่างหนัก เพราะในช่วงแรกที่เริ่มออกตลาด พบว่า ในตลาดมีลูกชิ้นที่ขายกันอยู่หลายแบรนด์มาก พอนำลูกชิ้นของเราไปเสนอ บางคนบอกว่า มีลูกชิ้นขายอยู่แล้ว ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกกังวลมาก และเราจะขายได้ไหม ทำให้ต้องทำการบ้านอย่างหนัก ในการวางแผนการตลาดว่าจะทำกันอย่างไร
"หลังจากนั้น ผมก็ออกตลาดเอง ทั้งออกบูทงานอีเว้นท์ ทั้งในตลาดสด หรือ มีงานที่ไหนผมก็จะไปด้วยตัวเอง ออกไปเปิดบูท ร้องเพลงแหล่ เรียกลูกค้า ทำทุกวิธี ซึ่งก็ได้ผล เพราะหลายคนได้ชิม ส่วนใหญ่จะพอใจ เพราะเป็นลูกชิ้นคุณภาพกลางแต่ราคาถูก ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นสมุทรปราการ ชลบุรี นครปฐม ปทุมธานี ฯลฯ มีแผนที่จะขยายตัวแทนอีกหลายจังหวัด และทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งตัวแทน ผมก็จะไปร่วมออกบูทแนะนำลูกชิ้น ด้วยการร้องเพลงแหล่ด้วยตัวเอง"
ทั้งนี้ การบุกตลาดอย่างหนัก ส่งผลต่อยอดขายเช่นกัน ปัจจุบัน มีออเดอร์ เพิ่มขึ้นจากเดิมขายวันละ 100-200 กิโลกรัม ตอนนี้ บางวันเพิ่มขึ้นไป 500-700-800 กิโลกรัม ซึ่งเพื่อนหลายคนที่อยู่ในวงการทำลูกชิ้น ต่างบอกว่า ประสบความสำเร็จมาก เพราะปกติทั่วไปเปิดตัว 3 เดือนแบบนี้ ขายกันไม่เกินวันละ 100 กิโลกรัม ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว แต่ของเรา เปิดตัวแค่ 3 เดือน ขายได้หลายร้อยกิโลต่อวัน
"ทศพล" บอกว่า ที่หันมาทำลูกชิ้น ครั้งนี้ เกิดมาจากมองว่า การเป็นศิลปิน งานไม่แน่นอน ประกอบกับอยากสร้างอาชีพให้กับลูกชาย ที่เพิ่งเรียนจบมา ซึ่งลูกชายเขาก็อยากค้าขาย โดยผมเองรู้จักเพื่อนทำกิจการโรงงานลูกชิ้น ขายอยู่แล้ว ได้ส่งลูกชายไปเรียนทำลูกชิ้นกับเพื่อน ตอนแรกก็รับเขามาขายก่อน แต่พอเรามีสูตรของตัวเอง ลงทุนทำโรงงานผลิตเอง ซึ่งใช้เงินลงทุนทั้งหมด ทั้งสร้างอาคาร และซื้อเครื่องจักรอยู่ที่ ประมาณ 3 ล้านบาท
ส่วนโอกาสการคืนทุน "คุณทศพล" บอกว่า ไม่ได้ตั้งไว้ แต่เป็นการทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ต้องการสร้างอาชีพแบบยั่งยืน ให้ครอบครัวและลูกชาย ซึ่งในส่วนของโรงงานก็เพิ่งจะทำได้แค่ 3 เดือน ส่วนที่เคยรับมาจำหน่ายก่อนหน้านี้ ทำมาประมาณ 1 ปี การเป็นผู้ผลิตเอง และทำโลโก้ของเราเอง เป็นโอกาสที่ดี ที่สำคัญต้องทำให้ดีด้วย เพราะการเป็นศิลปิน เรามีชื่อเสียง ถ้าทำไม่ดีก็จะเสียมาถึงชื่อเสียง ที่สั่งสมมาได้
สนใจโทร.08-1190-4774 ,08-2355-9594
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *