xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวราดแกง จานละ 5 บาท (ยังมีอยู่จริง) ยืนหยัดราคาเดียวมากว่า 50 ปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วันนี้ จะหาข้าวแกง กินสักจาน ต้องมีเงินในกระเป๋า ไม่น้อยกว่า 30-50 บาท เรื่องข้าวแกง 5-10 บาท คงไม่ต้องพูดถึง แต่สำหรับร้านนี้ เขายังคงยืนหยัด ราคา จาน ละ 5 บาท 10 บาท แบบนี้ มาตั้งแต่เริ่มต้นขาย มาถึง วันนี้ ผ่านมาเกือบ 50ปี และเชื่อว่า น่าจะเป็น ร้านเดียวในกรุงเทพฯ ที่ยังเหลืออยู่

และฉายา ร้านข้าวแกง 5 บาท ที่เราพูดถึงในครั้งนี้ หลายคนที่อยู่ในแถว ฝั่งธน คงจะรู้จักกันดี เพราะเปิดมายาวนาน และขายราคาเดียวแบบนี้มาตลอด ร้านนี้ตั้งอยู่ ถนนลาดหญ้า ซอย 9 เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เจ้าของร้าน คือ คุณสมจิตร์ อดุลย์เจริญ หรือ เจ๊เนี๊ยว

เจ๊เนี๊ยว เจ้าของร้านในวัย 57 ปี เล่าว่า ตนเองขายข้าวแกงมาตั้งแต่เด็ก ในสมัยก่อน รุ่นที่แม่ขาย ราคาข้าวราดกับข้าว 1 อย่าง 5 บาท 2 อย่าง 10 บาท กับข้าว 3 อย่าง ราคา 15 บาท หากสั่งเป็นกับข้าวใส่ถ้วย ราคาถ้วยละ 7 บาท เมนูมัดใจ พะแนงเนื้อ แกงจืดเลือดหมู ผัดเผ็ดปลาดุก ผัดกะเพราไก่ หมูทอด ผัดเครื่องในไก่ ผัดหน่อไม้ กุนเชียงทอด



ส่วนราคาขายปัจจุบัน ก็ยังคงราคาเดิม คือ จานละ 5 บาท สำหรับข้าวแกง 1 อย่าง ส่วนกับข้าวตักแยก ใส่ถ้วยขายถ้วยละ 10 บาท และใส่ถุงกลับบ้าน ก็ 10 บาท พอฟังราคาหลายคนถึงกับงง ว่า ขายได้อย่างไร

“ดิฉันช่วยแม่ขายข้าวแกงตั้งแต่เด็กๆ ขายกันสองคนแม่ลูก สมัยตอนอายุ 10 กว่าขวบ แม่ขายข้าวเปล่าจานละ 2 บาท แกงถ้วยละ 7 บาท ข้าวราดแกง 1 อย่าง 5 บาท พออายุได้ 20 ปี อาสารับช่วงต่อจากแม่ เพราะแม่อายุเยอะแล้ว ปัจจุบันเพิ่มเมนูมากขึ้น แต่ยังขายราคาเดิม มีเพียงข้าวเปล่าจานละ 5 บาท ไข่พะโล้ 20 บาท”

เจ๊เนี๊ยว เล่าต่อว่า สมัยรุ่นแม่มีกับข้าวไม่เยอะ 6-7 อย่าง เมนูเด็ด แกงจืด ไข่พะโล้ ผัดผัก ผัดผักกาดดอง ผัดกะเพรา ร้านอยู่ข้างโรงแรมธนบุรีโฮเต็ล ฝั่งตรงข้ามเป็นธนบุรีคาเฟ่ สมัยก่อนร้านเปิด 22.30 น. ถึง 05.00 น. เจาะกลุ่มลูกค้าเที่ยวกลางคืน ทำงานกะกลางคืนในย่านฝั่งธนฯ ฉะนั้น ลูกค้าเด็กๆ จะไม่ค่อยมี กระทั่งหลังปี 2557 ปรับเวลาขายเร็วขึ้น เปิดร้าน 20.30 น. ปิด 00.00 น. หรือขายหมดก็ปิดร้าน ลูกค้ามีทุกวัย ทั้งเด็ก วัยรุ่น วันทำงาน กลุ่มครอบครัว

“สมัยก่อนคนเที่ยวกลางคืนเยอะ พอหลังปี 2557 รัฐประหาร สถานบันเทิงปิดเร็ว คนเที่ยวกลางคืนลดลง ดิฉันเลยเปิดร้านเร็วขึ้น ขยายกลุ่มลูกค้าเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มครอบครัว เพิ่มเมนูเยอะขึ้นด้วย”



แม้เวลาจะผ่านไปร่วม 30 ปี แต่เจ๊เนี๊ยวก็ยังยึดขายอาหารราคาเดิม โดยเธอย้ำว่า เป็นความตั้งใจตั้งแต่รุ่นแม่ที่อยากให้คนในย่านฝั่งธนฯ ได้กินของถูกและมีคุณภาพ โดยเน้นขายในปริมาณมาก เอากำไรน้อย เลี้ยงลูกน้องตอนนี้มีอยู่ 8 คนได้

สำหรับปริมาณข้าวที่หุงต่อวัน ประมาณ 20 กิโลกรัม เน้นเมนูที่ใช้เนื้อสัตว์ อาทิ พะแนงเนื้อ ไข่พะโล้หมู 3 ชั้น หมูทอด แกงจืดเลือดหมู แกงฟักใส่ไก่ ผัดเผ็ดปลาดุก ผัดเครื่องในไก่ ผัดหน่อไม้ไก่ ผัดกะเพราไก่ กุนเชียงทอด อาหารทุกอย่างขายหมดทุกวัน ไม่มีเหลือ

“คนชอบคิดว่าขายถูก ต้องใช้ของไม่มีคุณภาพ แต่จริงๆ แล้วทางร้านใช้ของดี ของสด ซื้อวันต่อวันที่ตลาดแถววงเวียนใหญ่ เครื่องปรุงรสใช้ยี่ห้อดัง ผัก เนื้อสัตว์ ล้างสะอาด ไข่ไก่ใช้ไข่เบอร์ 0 ปรุงจากบ้าน พอถึงเวลา 17.00 น. เวลาขายใส่ภาชนะไปที่ร้านเทใส่ถาด เมนูแกงและต้มจืดมีเตาแก๊สอุ่นร้อนตลอดเวลา”



การที่จะขายอาหารราคานี้ได้ เจ้าของร้าน เผยว่า ส่วนตัวไม่มีหนี้สิน มีเงินเก็บ มีเงินจ่ายลูกน้อง ไม่ผลักภาระให้ลูกค้าต้องจ่ายแพง เรียกว่าลูกค้ามี 20 บาทก็อิ่มได้ ซึ่งลูกค้าที่มากิน โดยเฉลี่ย 1 คนจะสั่งกับข้าว 3 อย่าง ข้าวเปล่า 2 จาน รวมเป็นเงิน 40 บาท

เจ๊เนี๊ยว ย้ำว่า อาหารที่ขายตัวเองก็กินด้วย ฉะนั้นต้องสะอาด ส่วนปริมาณกับข้าวที่ทำในแต่ละวัน อาศัยความชำนาญ รู้ว่าต้องซื้ออะไรเท่าไหร่ โดยหน้าที่ซื้อของสดจะไม่ใช้ลูกน้อง จะไปซื้อเอง ซื้อของสดในช่วงเช้าเพื่อปรุงในตอนเย็น

ส่วนลูกค้า หลากหลายมาก มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย วัยรุ่น วัยทำงาน กลุ่มครอบครัว คนขับรถหรู ขับแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ชวนกันมาเป็นแก๊ง บางคนเดินทางมาไกลเพื่อพิสูจน์ว่าราคานี้มีขายด้วยเหรอ ร้านนี้เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น