xs
xsm
sm
md
lg

สวทช.นำผลงานวิจัยพร้อมใช้จริงสัญจรครั้งที่ 2 เสริมแกร่ง จ.อุดรฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงานประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการพร้อมแสดงผลงานวิจัยใช้ได้จริง ในงาน “สวทช.-วิทย์สัญจร” ครั้งที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและตอนกลาง จังหวัดอุดรธานี ภายใต้แนวคิด “วิจัยเข้มแข็ง เสริมแกร่งภูมิภาค” ประชาชนภาคอีสานกว่า 500 คนเข้าร่วมงานพร้อมมอบโล่เชิดชูเกียรติ “วิทย์แปงบ้านอีสานแปงเมือง” หนุนให้ชาวอีสานนำไปเป็นต้นแบบการประยุกต์ใช้นวัตกรรมที่เหมาะสมกับพื้นที่

นางสาววิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และผู้อำนวยการสถาบันจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) กล่าวว่า กระทรวงฯ ดำเนินงานโครงการ “บิ๊กร็อค” หรือโครงการที่มีผลกระทบสูงต่อประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ ด้วยการนำ วทน.ไปสู่ทุกกลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงและพัฒนาศักยภาพในสาขาอาชีพของตนเองทั้งวิทย์เพื่อธุรกิจ วิทย์เพื่อชุมชน และวิทย์สร้างคน โดยมีผลงานสำคัญในรอบปี ได้แก่ การถ่ายทอดเทคโนโลยีจากงานวิจัยสู่เกษตรกร เช่น เทคโนโลยีโรงเรือนพลาสติกและการบริหารจัดการแบบครบวงจรให้กับเกษตรกรแล้วกว่า 300 ครัวเรือน พร้อมคัดเลือกชุมชนต้นแบบเป็นจุดสาธิตใน 4 จังหวัด

นอกจากนี้ สวทช.สนับสนุน SMEs ผ่านโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ ITAP จำนวน 142 โครงการ คิดเป็น 14% ของโครงการทั่วประเทศ มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 86 ล้านบาท โดยปีนี้เกิดผลกระทบจากโครงการในภาคอีสานที่ผ่านมาแล้วกว่า 780 ล้านบาท
นางสาววิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)


ด้านการพัฒนากำลังคน สวทช.มอบทุนการศึกษาวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาให้แก่นักศึกษาในภาคอีสานทั้งสิ้น 47 ทุน คิดเป็น 18% ของทุนทั้งหมดทั่วประเทศ รวมทั้งพัฒนาการเรียนการสอนด้านสะเต็มศึกษาให้แก่ครูผู้สอนในโรงเรียน 31 แห่ง มีการจัดค่ายให้กับโรงเรียน ในโครงงานค่ายสิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัวและสร้างชิ้นงาน 3 มิติ ด้วย 3D Printer

ดำเนินโครงการโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม (Fabrication Lab) เพื่อพัฒนาทักษะความเป็นนวัตกรแก่เด็กและเยาวชนไทยให้กับ 28 โรงเรียน คิดเป็น 19% ของโรงเรียนที่ได้ดำเนินการทั่วประเทศ และโครงการสื่อการสอนโปรแกรมมิ่งในโรงเรียน (Coding at School Powered by KidBright) ให้กับโรงเรียนในภาคอีสานจำนวน 283 แห่ง คิดเป็น 36.5% ของจำนวนโรงเรียนทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ

นอกจากนี้ยังมีการลงนามความร่วมมือการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจในภูมิภาค ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและตอนกลาง รวม 12 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู เลย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และ กาฬสินธุ์



พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีได้มอบรางวัล “วิทย์แปงบ้าน อีสานแปงเมือง” เชิดชูเกียรติบุคคลที่ใช้ วทน. เพื่อการพัฒนาชุมชน-ธุรกิจ โดยมีผู้เข้ารับรางวัลจำนวน 2 สาขา คือ สาขาพัฒนาสังคม จำนวน 1 คน ได้แก่ นางสาวกัลยณัฏฐ์ พระศรีนาม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร บ้านบ่อเหมืองน้อย อ.นาแห้ว จ.เลย ผู้นำเกษตรกรที่เข้มแข็งเรียนรู้การปลูกสตรอว์เบอร์รีร่วมกับศูนย์ไบโอเทค สวทช. และมหาวิทยาเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ผลิตสตรอว์เบอร์รีขายด้วยตนเอง พร้อมทั้งบุกเบิกด้านการตลาดจนทำให้ชุมชนสามารถผลิตสตรอว์เบอร์รีขายเกิดรายได้หมุนเวียนในชุมชน 1.4 ล้านต่อปี จนเป็นที่มาของคำว่า “สตรอว์เบอร์รีแดนอีสาน”

และสาขาพัฒนาเศรษฐกิจ จำนวน 2 คน ได้แก่ นายเลอศักดิ์ เนื่องจำนงค์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ควอลิตี้ คอมโพเน้นท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ประกอบกิจการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สนับสนุนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงมากกว่า 10 ปี ได้เข้าร่วมโครงการกับ ITAP มาแล้วกว่า 21 โครงการ

บริษัทได้ขยายธุรกิจเพื่อผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่มอเตอร์ไซค์ที่มีคุณภาพและนำมาผลิตในสเกลระดับอุตสาหกรรมโดยใช้แบรนด์ตนเองให้เป็นทางเลือกใหม่แก่ผู้ใช้ยานพาหนะ ส่งขายยังตลาดล่างทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 10 ล้านบาท



นายสุนทร ไกรตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาร์เปท เมกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการผลิตพรมทอมือ และพรมทอเครื่อง จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ จากความตั้งใจของผู้บริหารที่ต้องการจะพัฒนาท้องถิ่นในส่วนภูมิภาคและช่วยให้คนในชุมชนมีงานทำ จึงมาเปิดบริษัทที่จังหวัดขอนแก่น ด้วยการพัฒนาและนำวิทยาศาสตร์เข้าไปใช้ในบริษัท จึงขอรับการสนับสนุนจาก ITAP ตั้งแต่ปี 2548 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้นประมาณ 7 โครงการ

ทั้งนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัท ตั้งแต่บริษัทมีพนักงาน 7 คน และพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันสามารถสร้างงานให้คนในท้องถิ่นได้มากถึง 700 คน และทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มโรงแรมใหญ่ๆ และพระราชวังทั่วโลก



อย่างไรก็ตาม กิจกรรมประชุมวิชาการ “สวทช.-วิทย์สัญจร” ครั้งที่ 2 จังหวัดอุดรธานีครั้งนี้ ยังมีการแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจเพื่อนำเสนอผลงานสำคัญของ สวทช. โดยแบ่งเป็น 3 โซน คือ วิทย์เพื่อธุรกิจ การบรรยาย “เทคนิคสู้ชีวิต ทำธุรกิจให้ติดปีก” โดยนายกสมาคมการค้าซอฟต์แวร์และธุรกิจนวัตกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ชมการสาธิตนวัตกรรมกี่ทอยกดอก 12 ตะกอ แบบไม่ใช้ไฟฟ้า ใช้ระบบบังคับการยกตะกอด้วยไม้ลายทำให้เกิดลวดลายโดยไม่ต้องท่องจำ อีกทั้งยังได้ลายผ้ารูปทรงเรขาคณิตที่มีความสม่ำเสมองดงามและร่วมสมัย

การอบรมเชิงปฏิบัติการเพิ่มคุณภาพผ้าทอพื้นเมือง ด้วยนวัตกรรมเอนไซม์ ENZease (เอนอีส) ที่ช่วยลอกแป้งและกำจัดสิ่งสกปรกบนผ้าฝ้ายไว้ในขั้นตอนเดียว การเพิ่มมูลค่าผ้าทอพื้นเมืองด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี และวิทย์เพื่อพัฒนาคน อาทิ โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากร สะเต็ม (STEM) เพื่อการวิจัยและพัฒนาสำหรับภาคอุตสาหกรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น