ระเบียงนา จากมุมสังสรรค์เพื่อน กลายเป็น คาเฟ่ โรงนา ลูกค้าแน่นร้านทุกวัน

ระเบียงนา @ กาญจนบุรี ร้านคาเฟ่ ที่มีวิวเป็นท้องนา และภูเขา และที่ตั้งของคาเฟ่ คือ บ้านไม้หลังเล็ก ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ในแบบ 360 องศา ไม่ว่าหันไมมุมไหนก็จะดื่มด่ำกับธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เพื่อนทีมนักฟุตบอล กาญจนบุรี ยูไนเต็ด หลงรัก และจะแวะเวียนเพื่อมาพบปะสังสรรค์ ดื่ม กิน กัน ที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ

"นายบุญเลิศ สินทำ" เจ้าของ ระเบียงนา @ กาญจนบุรี เล่าว่า ครอบครัวของผมมีอาชีพทำนา ส่วนตัวเองไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ ในทีมฟุตบอลกาญจนบุรี ยูไนเต็ด เวลาที่ไม่มีการแข่งขัน กลุ่มเพื่อนทีมฟุตบอล ก็มักจะชวนกันมาพักผ่อน กินดื่มกันที่บ้านเป็นประจำ จึงเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนพื้นที่ข้างบ้าน สร้างเหมือนเป็นห้องรับแขกเล็กๆ กลางทุ่งนา เป็นที่นั่งเล่นให้เพื่อนได้มาสังสรรค์ และทำอาหารกินกัน ไม่ได้คาดคิดว่าจะเป็นร้านที่มีผู้คนแวะเวียนกันมามากเหมือนอย่างทุกวัน ซึ่งที่มาของร้านระเบียงนา เกิดขึ้น มาจากวันนั้น เพื่อนซึ่งเป็นแขกประจำ มากิน มาเที่ยว มานั่งเล่น และถ่ายรูปเอาไปโพสต์ เกิดการนำไปแชร์ต่อๆ กัน หลายคนเห็น มีทั้งคนที่เรารู้จัก และไม่รู้จัก ต่างก็ชื่นชอบอยากแวะมาบ้าง

เป็นที่มาของ “ร้านระเบียงนา” คาเฟ่เล็กๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ใครหลายคน อยากจะได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ กินอาหารกลางบรรยากาศทุ่งนา และภูเขา ที่สำคัญ คือ เดินทางไปไกลมาก เพราะห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี เพียง 10 กิโลเมตร อยู่ที่ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

คุณบุญเลิศ เล่าถึง เมนูอาหารของทางร้านว่า "ผมเป็นคนชอบทำอาหาร แต่อาหารที่ผมทำส่วนใหญ่จะเป็นเมนู แบบบ้าน ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ- แม่ นำมาประยุกต์ อาทิ ข้าวผัดปลากระป๋อง ซึ่งที่มาของข้าวผัดปลากระป๋อง เกิดมาจาก บ้านของเราอยู่กลางทุ่งนา ไม่มีร้านค้า ไม่มีที่ให้เราไปซื้ออาหาร ของที่บ้าน มีอะไร ก็นำมาปรับและทำเป็นเมนูต่างๆ ทำให้ผมได้ทำเมนูปลากระป๋องบ่อยๆ และเพื่อนชื่นชอบเมนูนี้กันมาก ทุกคนบอกว่า อร่อย ก็เลยนำมาเป็นหนึ่งในเมนูเด่นของทางร้าน ส่วนเมนูอื่นๆ เช่น หมูสเต๊ะ เป็นของพี่สาว ซึ่งทำขายอยู่แล้ว ตามตลาดนัด และยังมีเมนู ไข่กระทะ และ หมูสามชั้นผัดกะปิ หรือ อาหารง่ายอย่าง เฟรนฟรายด์ เป็นต้น

ส่วนเครื่องดื่ม ได้จ้างคนมาสอนการทำเครื่องดื่มให้ ตอนแรก ทำผิดทำถูก ช่วยกันกับพี่ๆน้องๆ ในครอบครัว คือ ครอบครัวของผมเป็นแบบชาวบ้าน ไม่อยากจะทำอะไรที่มันยากเกินไป และการเปิดร้านครั้งนี้ ตั้งแต่แรก ไม่คาดหวังว่า จะมีคนให้ความสนใจ และมากันมากเหมือนเช่นทุกวันนี้ ไม่ใช่พื้นที่ ที่จะมีรถผ่าน ข้างทางก็มีแต่ท้องนา ไม่มีบ้านคน ซึ่งคนที่มาจะต้องตั้งใจ หรือ ปักหมุด มาจริงๆ

"การที่ เราจะต้องลงทุนสร้างอะไรที่มันใหญ่โต เราคงไม่ทำ ผมมีอะไร ก็เอาแบบนั้น แต่บังเอิญสิ่งที่ผมมี อาจจะหาไม่ได้จากในเมืองหลวง หรือ สังคมเมือง คือ ธรรมชาติ เราก็ไม่ได้ไปทำอะไรที่ทำให้รู้สึกว่า โดดเด่นไปกว่าธรรมชาติแบบบ้านที่เรามีอยู่ ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้คนเมือง เขาอยากจะมาสัมผัส บางครั้ง เมนูอาหารของเราก็อาจจะไม่ถูกใจ แต่เชื่อว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้คนเหล่านี้ มา คือ ความได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติหลายคนโหยหามากกว่า"

คุณบุญเลิศ บอกอีกว่า ผมได้ใช้เงินไปกับ การลงทุน ทำร้านระเบียงนา แห่งนี้ไปแค่เพียง 1 หมื่นบาท สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ หาไม้ หรือ สิ่งที่มี รอบๆตัว ไม่ว่า จะเป็นสังกะสี เก่าๆ ไม้เก่าๆ นำมาใช้ได้ทั้งหมด จาน ชาม ก็ไม่ได้ซื้อหาอะไร เพราะเน้นเป็นธรรมชาติ โดยหางานจักสาน อย่างกระด้งในพื้นที่ ราคาไม่แพง มาแทนจาน หรือ การใช้ใบตอง ซึ่งข้างบ้านมีสวนกล้วย ตัดใบตองมาใช้ กลับกลายเป็นสิ่งหลายคนชื่นชอบ เพราะมีความเป็นธรรมชาติ

สำหรับราคาอาหาร นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนพูดถึง ร้านนี้ นอกจากวิว หรือ ธรรมชาติที่เกิน 100 อาหาร ร้านนี้ ขายไม่แพง ราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท ไปจนถึง 60 บาท ส่วนเครื่องดื่ม ราคาแก้วละ 40 บาท เจ้าของร้าน บอกว่า ที่ตั้งราคาไม่แพง เพราะเห็นว่า ทุกคนอาจจะเดินทางมาไกล มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาอยู่แล้ว เราก็ไม่อยากจะตั้งราคาอาหารที่แพงอีก ที่สำคัญ คือ ต้นทุน วัตถุดิบบางอย่าง หาได้จากในพื้นที่ อย่างข้าว ผมก็ปลูกเอง ผักส่วนครัวหลายอย่าง เราก็ปลูกเอง

สำหรับข้าว เป็นข้าวจากที่ท้องนา ซึ่งพี่ชายปลูกข้าวไรท์เบอรี่ เป็นข้าวปลอดสารพิษ จำนวน 6 ไร่ ข้าวที่ได้ นำมาสีเอง ที่โรงสีของชุมชนในหมู่บ้าน และการทำร้านครั้งนี้ เป็นการนำข้าว มาขายหน้าร้าน ลูกค้าที่มองหาข้าวปลอดสารพิษ จะมีอีกช่องทางหนึ่ง ที่สามารถหาซื้อข้าวได้ในราคาที่ไม่สูงมาก จากชาวนาโดยตรง และในอนาคต ถ้าร้านไปได้ดี เจ้าของร้านก็มีแผนที่จะให้ชาวบ้าน ใกล้เคียงที่ปลูกผักปลอดสารพิษ นำพืชผัก หรือ ผลิตภัณฑ์ชุมชนอื่นๆ มาวางขายที่ร้าน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ได้อีกทางหนึ่ง

หลายคนคงสงสัยว่า ในเมื่อร้าน ไม่ได้อยู่ถนน เมนหลัก ไม่มีรถผ่าน แต่ทำไม ถึงมีลูกค้าแวะเวียนไปอุดหนุนกันเป็นจำนวนมาก "คุณบุญเลิศ" บอกเลยว่า มาจากรีวิว ในออนไลน์ เกือบทั้งหมด ตอนนี้เปิดร้านมาได้เพียง 2 เดือน แต่มีคนรู้จัก และเข้ามาใช้บริการ กันวันหนึ่งถึงหลักร้อยคน ถ้าเป็นวันหยุด รถจะจอดกันแน่นร้าน จนมีคนสนใจมาซื้อ หรือ เช่าที่ดิน บริเวณใกล้เคียงเพื่อเปิดร้าน เช่นเดียวกับตน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยให้คนในพื้นที่ได้มีรายได้ และมีคนมาเยอะขึ้น แต่กลัวแค่ว่า การลงทุน มากๆ ทำให้ความสวยงามตามธรรมชาติ แบบเดิมจะหายไป คนที่อยากจะมาสัมผัสความงดงามตามธรรมชาติ พอเขาเจอสิ่งปลูกสร้าง ที่ไม่เอื้อก็อาจจะทำให้ลูกค้าเหล่านั้น ไม่กลับมาอีกก็เป็นได้

โทร. 09-2541-1741 ,fb:ระเบียงนา@กาญจนบุรี