xs
xsm
sm
md
lg

สารพัดน้ำจิ้ม แบรนด์ 'แม่ยุพา' สร้างชื่อแดนอีสาน เตรียมทะยานทั่วไทย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมื่อมีสูตรน้ำจิ้มสุกี้แสนอร่อยสูตรโบราณใช้เต้าหู้ยี้เป็นส่วนผสมหลัก ถูกถ่ายทอดจากรุ่นอาม่า มาสู่คุณแม่ ทำให้หนุ่มวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ อดีตพนักงานประจำ ตัดสินใจนำสูตรเด็ดมาต่อยอดเป็นธุรกิจ กับแบรนด์ที่ชื่อว่า “น้ำจิ้มแม่ยุพา” เริ่มจากห้องแถวเล็กๆ จนสามารถสร้างโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน เตรียมจำหน่ายทั่วประเทศ

ก็คงเหมือนพนักงานประจำทั่วไปที่เมื่อถึงจุดอิ่มตัวก็อยากออกมาทำธุรกิจของตัวเอง สำหรับนาย “อัฏฐพล ธยากรพิสิทธิ์ หรือ คุณบอย” ที่เรียนจบมาทางด้านวิศวะ สาขาคอมพิวเตอร์ ทำงานในสถาบันการเงินหลายแหล่ง เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และทำงานในโรงงานกะทิชาวเกาะ จากนั้นก็ผันตัวเองมาทำงานธุรกิจของตัวเองรับติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมกับเรียนเสริมอาชีพที่วิทยาลัยสารพัดช่างด้านอลูมิเนียมควบคู่ไปด้วย เพื่อค้นหาสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ แต่ทุกอย่างที่ทำเขาก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ใช่ตัวเอง





จึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่ จ.นครราชสีมา เห็นคุณแม่ทำน้ำจิ้มสูตรอาม่า รสชาติอร่อยเป็นน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ ก็นำมาต่อยอดพร้อมกับทำงานวิจัยเพื่อให้เก็บได้นานขึ้น เริ่มจากการบรรจุลงขวดเองภายในห้องแถวเล็กๆ ของแม่ ขณะที่การทำฉลากก็ออกแบบเอง ถ่ายรูปเอง เพราะเรียนมาทางด้านคอมพิวเตอร์ ผลิตประมาณ 6-10 โหล/วัน ขายขวดละ 45 บาท โดยในช่วงแรกของปี 2553 ที่เริ่มต้นธุรกิจ ยังไม่มีมาตรฐาน อย. มารับรอง แต่เมื่อยอดขายเพิ่มมากขึ้นก็สร้างโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน และพัฒนาน้ำจิ้มอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น น้ำจิ้มหมูกระทะ ซอสหมัก น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มลูกชิ้น





“ตอนที่เราตั้งใจจะทำน้ำจิ้มก็คิดจะทำมาตรฐาน จึงเข้าไปขอคำปรึกษาที่ศูนย์อุตสาหกรรมภาคที่ 6 และเข้าเรียนหลักสูตรผู้ประกอบการใหม่ (NEC) พร้อมทำงานวิจัยควบคู่ไปกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีด้วย เพราะผมเชื่อว่าการทำน้ำจิ้มถ้ามีงานวิจัยมารองรับจะไปได้ไกล เน้นการเก็บรักษาให้นานขึ้น โดยไม่ใส่สารกันบูด กันเสีย หรือสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย”


'น้ำจิ้มแม่ยุพา' ได้สร้างโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน และขยายโรงงานให้ใหญ่ขึ้นในปี 2559 หลังแตกไลน์ผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มที่หลากหลาย และส่งจำหน่ายตามโมเดิร์นเทรด และท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาในภาคอีสานเท่านั้น ได้แก่ น้ำจิ้มลูกชิ้น น้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มย่างเกาหลี น้ำยำ และน้ำจิ้มไก่

โดยจุดเด่นของแม่ยุพา เรียกได้ว่าแต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัวหาใครลอกเลียนแบบได้ยาก เริ่มจาก น้ำจิ้มสุกี้สูตรเต้าหู้ยี้ จะมีกลิ่นของเต้าหู้ยี้ชัดเจน รสจัดจ้าน กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นคนวัย 35-40 ปีขึ้นไป ส่วนน้ำจิ้มไก่ จะใช้สับปะรดมาเชื่อมก่อนใช้แทนน้ำตาล จะได้ความหวานของสับปะรด และมีเนื้อปนมาเล็กน้อย มีกากใยสูง ถือเป็นเจ้าแรกที่ทำน้ำจิ้มไก่ลักษณะนี้ โดยสับปะรดก็เลือกใช้ในท้องถิ่นเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร รวมถึงพริกขี้หนูสายพันธุ์จินดา เนื้อพริกจะมีรสชาติหวาน มีความกรอบ เผ็ดกลางๆ และปลอดสารพิษ ก็รับซื้อจากชาวบ้านในละแวกนี้ด้วยเช่นกัน ขณะที่น้ำจิ้มลูกชิ้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด มีกำลังการผลิตสูงสุด 3 ตัน/วัน เน้นรสชาติเปรี้ยว หวาน และใช้น้ำมะขามเป็นวัตถุดิบหลัก






















ส่วนการทำตลาดในต่างประเทศ ที่ผ่านมามีการไปออกบูธที่ สปป.ลาว, กับพูชา และเวียดนาม ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี ซึ่งในแต่ละประเทศ จะชื่นชอบรสชาติน้ำจิ้มที่แตกต่างกัน คือ เวียดนามไม่ชอบรสเผ็ด ลาวชอบรับประทานหมูกระทะ ส่วนเวียดนาม ชอบรสชาติคล้ายคนไทย และเผ็ดน้อยกว่า

“เรายังไม่ได้ทำตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง มีจำหน่ายไปยังประเทศเพื่อนบ้านบ้าง อย่าง น้ำจิ้มลูกชิ้น ก็ส่งไปยัง จ.มุกดาหาร ประมาณ 3% ซึ่งจริงๆ เราอยากส่งไปขายในจีน เมืองกวางโจว ซึ่งชอบรสชาติคล้ายๆ คนไทย”

ปัจจุบันน้ำจิ้มแม่ยุพา มีกำลังการผลิตประมาณ 3 ตัน/วัน เป็นน้ำจิ้มลูกชิ้นประมาณ 80% หากเป็นช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เนื่องจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าลูกชิ้นทอดซื้อเป็นน้ำจิ้มของที่ร้าน ไม่จำเป็นต้องทำเอง และใช้ในงานเลี้ยงสังสรรค์ได้

ความสำเร็จและการเติบโตอย่างรวดเร็ว ล้วนต้องใช้เงินทุนเป็นปัจจัยสำคัญ ดังนั้นน้ำจิ้มแม่ยุพา จึงได้ขอสินเชื่อจากทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Development Bank มาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ และยังมีการเติมเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของธุรกิจ ส่วนใหญ่จะลงทุนในเรื่องของเครื่องจักร ล่าสุดได้สินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ดอกเบี้ย 1% เพื่อนำมาเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และรองรับการวางจำหน่ายทั่วประเทศ







นอกจากนี้แบรนด์แม่ยุพา ยังรับจ้างผลิตน้ำจิ้มให้แบรนด์อื่นด้วย ทั้งนำสูตรมาให้ผลิต หรือใช้สูตรเดียวกับแม่ยุพา ซึ่งน้ำจิ้มทุกตัวภายใต้แบรนด์แม่ยุพา ได้จดเครื่องหมายการค้าไว้เรียบร้อยแล้ว และบรรจุภัณฑ์ก็มีให้เลือกตามความเหมาะสมของการนำไปใช้งาน เช่น น้ำจิ้มลูกชิ้นแบบแกลลอน, น้ำจิ้มสุกี้มีให้เลือกทั้งขวดแก้วและขวดพลาสติก เจาะลูกค้าคนละกลุ่ม สามารถเก็บได้นานโดยเฉลี่ย ประมาณ 1-2 ปี





นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับพนักงานประจำที่ตัดสินใจลาออก ด้วยเล็งเห็นสูตรน้ำจิ้มสุกี้ของครอบครัวรสชาติดี เห็นอย่างนี้แล้วบ้านใครมีสูตรเด็ดอะไรลองเฟ้นหาและพัฒนากันดู ไม่แน่อาจจะเป็นเถ้าแก่แบบไม่รู้ตัว






***ติดต่อ 089-110-1230 หรือที่ http://www.koratsauce.com/" CLASS="innerlink" TARGET="_blank">www.koratsauce.com , Facebook : https://web.facebook.com/MaeYupha/" CLASS="innerlink" TARGET="_blank">MaeYupha***




** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *

SMEsmanager







กำลังโหลดความคิดเห็น