หลังจากทะเลไทยได้รับการฟื้นฟู เครื่องมือทำลายล้างในการทำประมงที่ผิดกฏหมาย ถูกควบคุมมิให้นำมาใช้เพื่อจับสัตว์น้ำขนาดเล็ก ทำให้ท้องทะเลกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งเกิดเป็นธุรกิจในชุมชนที่ชื่อว่า “ร้านคนจับปลา” แหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ ไร้ฟอร์มาลีนส่งตรงถึงครัวทุกบ้านสามารถสั่งจองได้ตั้งแต่บนเรือประมง
‘ร้านคนจับปลา’ แค่ชื่อก็บ่งบอกได้ถึงความสด ของวัตถุดิบจากท้องทะเลที่มาจากชาวประมงนำขึ้นมาจำหน่ายให้รับประทานกันอย่างสดใหม่ไร้ฟอร์มาลีน แต่กว่าจะก่อเกิดเป็นธุรกิจดังกล่าวได้ ชาวประมงพื้นบ้านต้องฟันฝ่าวิกฤตสัตว์น้ำในท้องทะเลร่อยหรอถึงขนาดออกไปจับปลาเจอแต่น้ำโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย
วิกฤตดังกล่าวชาวบ้านเริ่มเห็นถึงความผิดปกติและความหายนะของท้องทะเลที่ใกล้ตัวพวกเขามากขึ้น ดังนั้นจึงต้องหาวิธีเพื่อสร้างความยั่งยืนและความอุดมสมบูรณ์ให้กลับมาดังเดิมโดย “คุณจินดา จิตตะนัง” หนึ่งในสมาชิกร้านคนจับปลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของชาวประมงชายฝั่งขนาดเล็ก 24 สมาคมในนามสมาพันธ์สมาคมประมงพื้นบ้านแห่งประเทศ เผยถึง แนวทางในการแก้ปัญหาเหล่านี้ว่า เพื่อเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับคืนสู่ท้องทะเลอีกครั้ง ชาวประมงต้องช่วยกันแก้ปัญหา ที่แต่เดิมสัตว์ทะเลอุดมสมบูรณ์กว่านี้มากตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจำนวนปูม้าที่จากเดิมต้องใช้เวลาในการปลดปูออกจากอวน ตั้งแต่เช้าถึงเย็นก็ยังไม่หมดต้องให้เพื่อนบ้านเข้ามาช่วย แต่หลังจากนั้นเมื่อมีการใช้เครื่องมือในการ คราดหอย ใช้อวนลาก และมีเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่เข้ามาจับสัตว์ทะเล จำนวนสัตว์ทะเลก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่ชาวบ้านจะต้องรวมตัวกันเพื่อฟื้นความอุดมสมบูรณ์แห่งท้องทะเลให้กลับคืนมา
เริ่มจากการไปศึกษาดูงานตามสถานที่ต่างๆและนำมาปรับใช้ในท้องถิ่นของตนเอง เช่น การทำธนาคารปูที่เริ่มทำกันมาตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งวิธีการที่ใช้ของชาวบ้านคือเมื่อได้ปูไข่นอกกระดองหรือแม่ปูที่ใกล้วางไข่ ก็จะนำมาบริจาคที่ธนาคารปูและจะนำปูไปปล่อยในกระชังที่เลี้ยงอยู่ในทะเล ส่งผลให้ในแต่ละวันจะมีชาวบ้าน นำปูมาบริจาคไม่ต่ำกว่า 10 ตัว ซึ่งแม่ปูจะให้ไข่ได้ประมาณ 3-4 แสนตัว ซึ่งชาวบ้านก็พึงพอใจแม้โอกาสรอดจะมีเพียง 1% เท่านั้น แต่นั่นก็หมายถึงปริมาณลูกปูที่กลับคืนสู่ท้องทะเลได้เป็น 1,000 ตัว
“เห็นได้ชัดหลังจากที่เราเริ่มทำธนาคารปูปริมาณปูในท้องทะเลที่จับได้เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งถือเป็นความสำเร็จจากการศึกษาดูงานและการรวมตัวรวมกลุ่มของชาวบ้านนอกจากนี้ยังมีสัตว์น้ำชนิดอื่นๆเพิ่มมากขึ้นด้วยหลังจากที่ทางหน่วยงานภาครัฐไม่ให้เรือประมงขนาดใหญ่เข้ามาจับ สัตว์น้ำแล้วให้เหลือไว้เพียงประมงพื้นบ้านเท่านั้น สัตว์น้ำที่เพิ่มขึ้น คือ ปลากะพง ปลาเต๋าเต้ย ปลาจาระเม็ด ปลากุเลา ปลาอินทรีย์ และกั้งตั๊กแตนเป็นต้น”
เมื่อผลผลิตเพิ่มมากขึ้น พวกเขาก็เริ่มใช้ช่องทางจำหน่ายผ่านเฟซบุก โดยเฉพาะการไลฟ์สดตั้งแต่การนำเรือออกไปจากกลางทะเลที่ลูกค้าสามารถสั่งจองได้กลางทะเลด้วยเช่นกันและหลังจากนั้นภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงก็สามารถส่งตรงถึงที่บ้านได้ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่น่าสนใจและทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้นรวมถึงขณะนี้ชาวประมงที่จำหน่ายอาหารทะเลในตลาดก็มีการใช้เฟซบุกเข้ามาช่วยทำตลาดด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Development Bank ก็ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ โดยมีหัวเรือใหญ่ “นายมงคล ลีลาธรรม” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารฯ ให้ความสำคัญ โดยมองว่า ประเทศไทยมีทุนของแผ่นดินจำนวนมากแต่กลับมีการใช้อย่างฟุ่มเฟือยและเอาเปรียบธรรมชาติมากเกินไปทำให้ไม่มีความยั่งยืนซึ่งการเปลี่ยนวิธีคิดและการคืนอำนาจให้กลับมาสู่คนตัวเล็กที่รู้จักการบริหารจัดการรวมถึงมีการรวมตัวกันก็จะสามารถสร้างห่วงโซ่อาหารและกลับมาแข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืน เห็นได้ชัดจากการไลฟ์สดผ่านเฟซบุกให้ลูกค้าสามารถสั่งจองอาหารทะเลได้ตั้งแต่อยู่บนเรือและการสร้างธนาคารปูก็ถือเป็นการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยังยืนควบคู่ไปกับการรักษาธรรมชาติให้คงอยู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปได้
ติดต่อ 08-6952-5258, 08-8489-6638
Facebook : ร้านคนจับนครศรีธรรมราช
Line ID : 0869525258
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *