หลายคนคงพอจะได้รู้จักมะม่วงที่มีสีสันต่างๆ ที่นำเข้าจากไต้หวัน กันมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ ว่าเกษตรกรไทยหันมาปลูกมะม่วง สายพันธุ์ไต้หวัน กันมาหลายปีแล้ว เพราะด้วยหน้าตาและสีสันทำให้ได้รับความสนใจ จากทั้งผู้ปลูก เกษตกรกรยุคใหม่ และผู้บริโภค วันนี้ พามารู้จักกับ เกษตรกรที่คว่ำหวอด อยู่กับ มะม่วงไต้หวัน เบอร์ต้นของเมืองไทย มีชื่อว่า “นายเสน่ห์ ลมสถิตย์” หรือ ลุงเล็ก
ลุงเล็ก ทำมะม่วงไต้หวัน มาตั้งแต่ปี 2553 โดยได้มาจาก เพื่อนชาวไต้หวัน ตอนนั้น ลุงเปิดร้านขายกิ่งพันธุ์ต้นไม้อยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร และได้รู้จักเพื่อนชาวไต้หวันนำกิ่งพันธุ์มะม่วงไต้หวัน มาให้จำหน่าย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จัก พอลุงเล็กได้กิ่งพันธุ์มา ได้นำมาดูแลฟูมฟักจนได้กิ่งพันธุ์แข็งแรง แล้วจึงนำไปจำหน่ายให้กับเจ้าของสวน และเจ้าของร้านขายกิ่งพันธุ์หลายแห่ง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หลังจากนั้น มะม่วงแปลกๆผลสีแดงสดได้ปรากฏให้คนไทยรู้จัก
หลังจากนั้น เพื่อนชาวไต้หวันคนนี้ ยังได้นำมะม่วงไต้หวันสายพันธุ์อื่นๆ มาให้ลุงทำการขยายพันธุ์ และจำหน่ายอีกหลายชนิด ซึ่งก่อนจะนำออกขายทุกครั้ง ลุงเล็ก จะต้องทดลองชิมผล และทดลองปลูก เพื่อดูว่าเหมาะกับสภาพอากาศและพื้นดินบ้านเราหรือไม่ จนถึงปัจจุบัน มีมะม่วงสายพันธุ์ใหม่ที่ลุงเล็กนำเข้ามาจำหน่ายจำนวนมาก แค่เฉพาะพันธุ์ไต้หวันอย่างเดียว มากถึง 30 สายพันธุ์ ได้แก่
1.พันธุ์หงหลงหรือมังกรแดง เป็นพันธุ์แรกๆที่นำเข้ามา ผลค่อนข้างเล็กรูปไข่เรียวยาว น้ำหนักอยู่ระหว่าง 400-500 กรัม ผิวสีแดงส้มบ้างหรือสีชมพูแดงบ้าง เนื้อละเอียดมีเสี้ยนน้อย เมล็ดเล็กความหวานพอดี 2.หงเซียงหยา หรือ งาช้างแดง ผลยาว ส่วนปลายโค้งคล้ายงาช้าง ด้านที่ถูกแดดผิวเป็นสีชมพูเข้มออกแดง น้ำหนักระหว่าง 400-750 กรัม ดูแลดีน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 2 กิโลกรัม เนื้อละเอียด เส้นใยน้อย 3.หงไค่เท่อหรือเคียท์แดง ผลใหญ่กลมรูปหัวใจสีแดงปลายผลจะมีงอยปากเล็กน้อย น้ำหนักได้ถึง1 กิโลกรัม
และ สายพันธุ์ที่ 4.เกาสงเบอร์สาม ผลขนาดกลาง ผิวสีเขียว ผลสุกเป็นสีเหลือง รสชาติหวานหอมแต่เสี้ยนมาก 5.อ้ายเหวินหรือเออร์วิน ผลค่อนข้างเล็กสีแดงประสีเลือดเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมและปลูกกันมากในไต้หวัน 6.ซือมี่ (มะม่วงน้ำผึ้งสีม่วง) ผลกลมรูปหัวใจใหญ่ มี น้ำหนัก1-1.5 กิโลกรัม ผิวสีแดงถึงม่วงเข้ม ความหวาน 16-17 องศาบริกซ์
ส่วน 7.หงมี่หวง ผลค่อนข้างเล็กรูปไข่ยาว สีผลไม่แน่นอนผลสีเหลืองส่วนหัวสีแดงบางทีผลเป็นสีเขียว 8.มีหวง พัฒนาสายพันธุ์มาจากอ้ายเหวิน ผลขนาดกลางผลยาวกว่าอ้ายเหวินเล็กน้อยผิวสีเหลืองส้ม ส่วนหัวเป็นสีส้มแดง และ 9มะม่วงสายพันธุ์สุ่ยมี่เถา ผลค่อนข้างเล็กรูปไข่เรียวยาว สีผลไม่แน่นอนเช่นกัน 10.ผิงกัวเหวินหรือแอปเปิ้ลแดง ผลกลมรูปหัวใจผลใหญ่มากผลค่อนข้างกลม น้ำหนัก1-1.5 กิโลกรัม ผิวจะเปลี่ยนจากสีม่วงเข้มเป็นสีแดงเมื่อแก่ ความหวาน 18 องศาบริกซ์
และ 11.ไคเท่อหรือ เคียทท์ ผลใหญ่สีเขียวแก่ช้า มีความหวานน้อยติดเปรี้ยวและกลิ่นแรง 12.ชื่อมะม่วง พันธุ์มะพร้าวปากีสถาน ผิวเปลือกสีเขียว ผลใหญ่ เนื้อกรอบคล้ายเนื้อมะพร้าว ผลขนาดเท่ามะพร้าวน้ำหอม น้ำหนัก1กิโลกรัมขึ้นไป รับประทานได้ทั้งผลแก่และผลสุก ผลแก่มีเนื้อกรอบหวานมัน 13.จินมี่หรือน้ำผึ้งทอง ผลสุกสีเหลืองเข้ม รสชาติหวานมากมีกลิ่นหอม 14.จินซิง ผลใหญ่ ผิวสีแดงสวย แต่ที่ปลายผลมีจะงอยปากเหมือนกับมะม่วงซานหลิน น้ำหนักผลได้ถึง 1 กิโลกรัม 15.ไทนง เบอร์1 ผลคล้ายอ้ายเหวินผลค่อนข้างเล็กน้ำหนักระหว่าง 250-300 กรัม ผิวสีเหลืองส้มความหวานมาก16-21 องศาบริกซ์
16.เฮยเชียง ผลขนาดกลางน้ำหนักระหว่าง 450-460 กรัม ผลผิวเปลือกเขียวเข้มสุกแล้วผิวยังเป็นสีเขียวเนื้อมีกลิ่นหอมคล้ายลำไย ความหวาน 16 องศาบริกซ์ เนื้อสีเหลืองส้ม 17.เซียงเหวิน ผลขนาดกลางผิวเปลือกสีเขียวผลสุกสีเหลืองประสีเขียวมีเสี้ยนน้อย 18.จีตั้นหรือ มะม่วงจิ๋ว มะม่วงไข่ไก่มีขนาดเล็กเท่าไข่ไก่ ผิวเปลือกสีเหลืองส้มส่วนหัวมีสีแดง เมล็ดลีบบางไม่มีส่วนที่จะเจริญเป็นต้นอ่อนอยู่ภายใน เพาะไม่งอก 19.กุ้ยเฟย ผลค่อนข้างยาวผิวสีแดงสดใส น้ำหนักระหว่าง 1-1.2 กิโลกรัม 20.ซีซือหรือไซซี ผลค่อนข้างยาวผิวสีแดงสด
และ 21.หงจูหรือไข่มุกแดง ผลรูปหัวใจขนาดใหญ่น้ำหนัก 1กิโลกรัมขึ้นไป ผิวเปลือกสีแดง เนื้อที่อยู่ใกล้เปลือกยังแข็งและเป็นแป้งความหวานประมาณ 11-13 องศาบริกซ์ 22.หงจินกัง ผลใหญ่กลมรูปหัวใจน้ำหนักถึง 1กิโลกรัม ผิวสีแดงเข้ม 23.ซื่อจี้มี่หรือสี่ฤดูไต้หวัน ผลยาว ผิวสีเขียวผลสุกสีเหลืองสด ความหวานถึง20 องศาบริกซ์ กลิ่นหอมคล้ายน้ำผึ้ง 24.ซานหลิน ผลป้อมค่อนข้างแบน ผลสีส้มแดง มีจะงอยปากที่ปลายผลเห็นเด่นชัด
25.ม่านเหวินหรือม่านอ้ายเหวิน คล้ายอ้ายเหวินผิวสีแดง แก่ช้า 26.หงหลาน ผลคล้ายยู่เหวินผิวสีแดง รสหวาน เนื้อหนา เมล็ดบาง 27.จินอี้ มาใหม่ ผลขนาดกลาง ผลป้อมค่อนข้างยาวผิวสีแดงส้ม 28.จินเต๋อหลง มาใหม่ มะม่วงจากจีนแผ่นดินใหญ่ค่อนยาวผิวสีแดงส้ม 29.ชิวเซียง มาใหม่ผลหนักประมาณครึ่งกิโลกรัมผิวสีส้มส่วนหัวสีแดง และ30.หวงจินซือจือหรือลูกพลับทอง มาใหม่ มะม่วงมีผลต่างจากมะม่วงอื่นที่มีผลแบนคล้ายลูกพลับ ผลสุกมีสีเหลืองเรื่อๆฉ่ำน้ำหวานกลิ่นน้ำผึ้ง
สำหรับลุงเล็ก ถือได้ว่า เป็นผู้รวบรวมและขยายพันธุ์มะม่วงจากไต้หวันไว้มากที่สุดคนหนึ่งในขณะนี้ แต่ผู้ที่รู้เรื่องมะม่วงไต้หวัน ดีมีอยู่ท่านหนึ่งคือ ดร.กาญจนา สุทธิกุลอาจารย์ จบจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติจงชิง สาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) มีความเชี่ยวชาญเรื่องมะม่วงไต้หวัน อาจารย์ได้เขียนตำราเกี่ยวกับมะม่วงไว้หลายเล่ม ดังนั้นผู้ที่รู้เรื่องราวของมะม่วงไต้หวันก็คือดร.กาญจนา สุทธิกุล ส่วนผู้ที่รวบรวมมะม่วงไต้หวันไว้มากคือ ลุงเล็ก
ลุงเล็ก เล่าว่า เดิมตนเอง ทำมาหลายอาชีพ และมาจบที่ การปลูกมะม่วง เพราะเป็นไม้ยืนต้นที่ปลูกง่าย แต่ถ้าปลูกเหมือนคนอื่นๆ ก็คงจะขายไม่ได้ ไม่ใช่เฉพาะมะม่วง อะไรก็ตาม ที่ทำตามๆกัน ผลผลิตออกมามากขายไม่ได้ทั้งนั้น เดิมลุงเองก็ทำกิ่งพันธุ์มะม่วงไทยไปขาย ก็ขายได้แค่ 25 บาท 30 บาท ทำให้ต้องพยายามเรียนรู้ และแสวงหาสายพันธุ์มะม่วง หรือ ผลไม้อื่นๆ มาขาย จนทำให้จากราคากิ่งพันธุ์ 25-30 บาท ปรับขึ้นมาเป็น300, 500 เป็น 1000 และ 1,500 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า
ปัจจุบัน ที่สวนของลุงเล็ก มีกิ่งพันธุ์ผลไม้ไหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ชมพู มะขาม และ ที่ทำให้รายได้อย่างงามให้กับลุงในช่วง 1-2 ปีนี้ คือ ฝรั่ง สายพันธุ์จากไต้หวัน ลุงเล็กปลูกไว้เพียง 6 ต้น แต่วันนี้ ทำรายได้มากถึง หลักล้านบาท มาจากการขายกิ่งพันธุ์ราคาต้นละ 500 บาท และราคาฝรั่งกิโลกรัมละ 120 บาท
ความพิเศษฝรั่งชนิดนี้ ลุงเล็กบอก ต้องชิมเอง ใครได้ชิม ก็ต้องยากได้ไปปลูก เช่นเดียวกับมะม่วง จนถึงปัจจุบัน ลุงเล็กก็ยังคงนำเข้าสายพันธุ์มะม่วงใหม่ตลอด ไม่เฉพาะไต้หวันยังมีการนำเข้าจากประเทศแถบยุโรป อย่าง สเปน ออสเตรเลีย หรือ ใกล้ๆ บ้านเราอย่าง พม่า ฟิลลิปปินส์ และอินเดีย ฯลฯ
สำหรับลูกค้า ของสวนลุงเล็ก จะมีทั้งลูกค้าคนไทย และลูกค้าต่างชาติ ที่ผ่านมา ลุงเล็กได้ส่งออกกิ่งพันธุ์ผลไม้ ชนิดต่างๆไปต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้าในประเทศแถบตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ สนใจ และซื้อกิ่งพันธุ์มะม่วง ไปเป็นจำนวนมาก หรือ ที่ประเทศลาว พม่า อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฯลฯ สายพันธุ์มะม่วงที่ส่งไปส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ไต้หวัน อย่างที่ลุงเล็กถนัด
ลุงเล็ก เล่าว่า ปัจจุบัน ครอบครัว มีอาชีพเกษตกรรม แต่ต่างจากเกษตรกรคนอื่นๆ เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนชอบทำอะไร ไม่เหมือนคนอื่นๆ และด้วยความที่ชอบพันธุ์ไม้แปลก ทำให้ลุงมีรายได้มากพอที่จะซื้อที่ดินเพิ่ม โดยไม่ต้องเป็นหนี้ หรือ เจอปัญหาขาดทุนจากราคาพืชผลที่ตกต่ำ ซึ่งบนที่ดิน เพียง 10 กว่าไร่ แต่สามารถทำรายได้หลักล้านบาทต่อปี และที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการขายในประเทศ เพราะสามารถส่งขายต่างประเทศได้ แม้ว่าจะเป็นผู้นำเข้า แต่ก็เป็นผุู้ส่งออกได้ เช่นกัน
สนใจ โทร. 08-1445-8792 และ 09-9050-8009
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *