N26 ธนาคารบนมือถือที่ไม่มีสาขา แต่มีแบ็คดีระดับเทนเซ็นต์, อลิอันซ์ และผู้ร่วมก่อตั้งเพย์พาล เปิดให้บริการในอังกฤษแล้วเป็นตลาดที่ 18 ก่อนบุกอเมริกาต่อต้นปีหน้า รวมถึงอีกหลายประเทศเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการสร้างธนาคารดิจิตอลระดับโลกที่ใครๆ ก็อยากใช้บริการ
N26 สตาร์ทอัพฟินเทคที่มีฐานอยู่ในเบอร์ลินเผยว่า ในระยะแรกนั้น early adopters หรือกลุ่มคนที่ชอบลองของใหม่จำนวนหนึ่งจะได้สิทธิ์เข้าถึงแอปธนาคารเสมือนของบริษัท ส่วนที่เหลือจากทั้งหมดกว่า 50,000 คนที่ลงชื่อเข้าคิวรอใช้บริการในสหราชอาณาจักร จะใช้บริการได้เร็วๆ นี้ บริษัทยังเตรียมขยายบริการครอบคลุมมากขึ้นในเดือนหน้า
N26 นำเสนอแอปการธนาคารบนมือถือและบัตรเดบิตของมาสเตอร์การ์ดโดยไม่มีสาขาแม้แต่แห่งเดียว ที่สำคัญไม่คิดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม อย่างไรก็ตาม บริษัทจะหักค่าธรรมเนียม 1.7% จากการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มนอกประเทศสำหรับผู้ใช้ในอังกฤษ
สตาร์ทอัพแห่งนี้มีผลิตภัณฑ์หลากหลายบนแพล็ตฟอร์ม ซึ่งรวมถึงบัญชีกระแสรายวันพื้นฐาน บัญชีพรีเมียมในชื่อ “N26 แบล็ก” การเบิกเงินเกินบัญชี และสินเชื่อ
N26 ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 และเป็นหนึ่งใน “แบงก์จอมท้าทาย” ระบบดิจิตอลรุ่นบุกเบิกที่พยายามต่อสู้แข่งขันกับธนาคารขาใหญ่
เมื่อเปิดบัญชีกับ N26 ผู้ใช้จะได้บัญชีเงินฝากจริงและมาสเตอร์การ์ด โดยบัญชีพื้นฐานจะไม่เสียค่าธรรมเนียม นอกจากนั้นเงินฝากของลูกค้ามูลค่าสูงสุด 100,000 ยูโรจะได้รับความคุ้มครองภายใต้กลไกรับประกันเงินฝากของยุโรป หลังจากเปิดบัญชี ผู้ใช้จะสามารถส่งและรับเงิน รวมทั้งจ่ายเงินด้วยมาสเตอร์การ์ด และส่งเงินให้ผู้ใช้ N26 ด้วยกันที่เรียกว่า มันนี่บีม
ในส่วนมาสเตอร์การ์ดจะทำงานเช่นเดียวกับบัตรของธนาคารดิจิตอลอื่นๆ เช่น ทุกครั้งที่ใช้ ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนระบบพุช นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถจำกัดการจ่ายเงินและการถอนเงิน ล็อกบัตรกรณีที่บัตรหาย และรีเซ็ตรหัส PIN ใหม่
N26 คาดหวังขยับขยายขุดทองในอเมริกาไตรมาสแรกปีหน้า อย่างไรก็ตาม แม้มีใบอนุญาตให้บริการการธนาคารในยุโรป แต่สำหรับในแดนอินทรี N26 ต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีเป็นพันธมิตรกับแบงก์ท้องถิ่นแทนซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ
วาเลนติน สตาล์ฟ ประธานบริหารบริษัทบอกว่า แรกเริ่มเดิมที N26 วางแผนเข้าอเมริกาก่อนสิ้นปีนี้ แต่เกิดความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยเกี่ยวกับวงจรการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จึงต้องขยับกรอบเวลาออกไปเป็นไตรมาสแรกปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการเติบโตของอุตสาหกรรมฟินเทค ผู้เล่นมากมายยังแก้ปัญหาไม่ตกเพื่อทำให้ไอเดียที่คิดว่า ดีเลิศและการตั้งราคาที่แข่งขันได้กลายมาเป็นกำไร พูดง่ายๆ ก็คือยังไม่มีแบงก์ดิจิตอลแห่งไหนทำเงินได้ แม้แต่เรโวลุต คู่แข่งของ N26 ที่ถึงจุดคุ้มทุนครั้งแรกเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่เดือนกันยายนที่ผ่านมารายงานว่า ยังขาดทุน 19.3 ล้านดอลลาร์เมื่อปีกลาย
สำหรับ N26 นั้น สตาล์ฟหมายมั่นว่า จะถึงจุดคุ้มทุนไตรมาส 2 ปีหน้าและน่าจะทำกำไรได้หลังจากนั้นไม่นาน
เขายังอวดว่า โมเดลธุรกิจของบริษัท “ล้ำ” กว่าคู่แข่งอื่นๆ และมีโอกาสอย่างมากที่จะมีลูกค้าเพิ่มเป็น 50 ล้านคนหรืออาจเป็น 100 ล้านคนใน 5-10 ปี โดยขณะนี้ N26 มีลูกค้าใหม่สมัครเข้ามาวันละ 5,000-6,000 คน รวมจำนวนผู้ใช้แอปพลิเคชันของบริษัทจนถึงล่าสุดมีทั้งสิ้น 1.5 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 50% จาก 4 เดือนที่แล้ว
สำหรับอังกฤษนั้นเป็นตลาดที่ 18 ที่แอปของสตาร์ทอัพฟินเทคแห่งนี้พร้อมให้บริการ
สตาล์ฟยังเล็งนำหุ้นออกขายแก่สาธารณชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ใน 3-5 ปี
ต้นปีนี้ N26 ระดมทุนได้ 160 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลักคือ เทนเซ็นต์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน เจ้าของเครือข่ายโซเชียล วีแชต และบริการการชำระเงิน วีแชต เพย์ และจากอลิอันซ์ บริษัทประกันภัยของเยอรมนี N26 ยังได้รับการสนับสนุนจากปีเตอร์ ธีล ผู้ร่วมก่อตั้งเพย์พาล รวมเงินทุนที่ระดมได้ทั้งหมดตั้งแต่ต้น 213 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการรับรองความสำเร็จของบริษัทและปูทางสู่การทำไอพีโอในอนาคต
หนึ่งในเป้าหมายของ N26 ยังรวมถึงการบุกตลาดเพิ่ม และเพิ่มผลิตภัณฑ์จากคู่แข่งบนแพล็ตฟอร์มของตนเอง ซึ่งเป็นกุศโลบายเดียวกันกับมอนโซและสตาร์ลิง คู่แข่งในอังกฤษ แต่ที่ต่างจากผู้เล่นอื่นๆ คือดีไซน์สวยงามและอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานง่าย
สตาล์ฟสำทับว่า N26 อาจสยายปีกไกลกว่ายุโรปและอเมริกาภายใน 12-24 เดือน เพื่อทำตามเป้าหมายในการสร้างธนาคารดิจิตอลระดับโลกที่ใครๆ ก็อยากใช้บริการ