xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจหนุ่มจ. พะเยา ผลิต “ปุ๋ยจากปลานิล” ติด 1 ใน 5 มาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์น้ำไทย(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นักธุรกิจหนุ่มใหญ่จากจังหวัดพะเยา เจ้าของฟาร์ม "ใบธง" ได้คิดค้นสูตร ปุ๋ยน้ำอินทรีย์ ที่ผลิตจากปลานิล ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขึ้นทำเนียบเป็นผุู้ผลิตปุ๋ยน้ำอินทรีย์ ที่มีคุณภาพดี ติด 1 ใน 5 ยืนยันใช้แล้วผักสด นานขึ้น ผลไม้หวานขึ้น เพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรในวิถีเกษตรอินทรีย์
นายหัสนัย แก้วกุล

“นายหัสนัย แก้วกุล” อดีตประธานหอการค้าจังหวัดพะเยา เจ้าของไร่ใบธงฟาร์ม - บริษัท ใบธง จำกัด กล่าวว่า ตนเองเป็นหนึ่งในผู้เลี้ยงปลานิลรายใหญ่ของจังหวัด และนอกเหนือจากธุรกิจการเกษตร โดยการปลูกพืชเศรษฐกิจแบบผสมผสาน ซึ่งเป็นรายได้หลัก และด้วยแนวคิดการปลูกพืชแนวเกษตรอินทรีย์ ผมจึงได้ต่อยอด การทำธุรกิจการเกษตร ใบธงฟาร์มด้วยการทำปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ที่ได้มาจาก ปลานิล ที่เลี้ยงไว้


สำหรับการผลิต ปุ๋ยอินทรีย์ ปลานิล ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนด้านเงินกู้ จาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank หรือ ธพว.) โดยเงินกู้ที่ได้รับนำมาขยายธุรกิจเกษตรอินทรีย์ รองรับการเป็นผู้ผลิต “ปุ๋ยจากปลานิล-ปุ๋ยอินทรีย์น้ำเจ้าเดียวในประเทศไทย”

"ในช่วงที่เป็นประธานหอการค้าฯ ก็มีโอกาสรู้จักแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย แต่หลังจากศึกษานโยบายแล้ว เห็นว่า SME Development Bank เป็นแหล่งทุนที่เหมาะสมกับธุรกิจที่ทำอยู่ เมื่อผู้บริหารของทางธนาคารลงพื้นพะเยา ก็ได้พบปะและหารือกันจนมองเห็นแนวทางในการทำธุรกิจ ซึ่งขณะนั้นก็ทราบถึงนโยบายที่ชัดเจนของธนาคาร และมีความเหมาะสมกว่าแหล่งการเงินอื่นๆ จึงตัดสินใจเป็นลูกค้ารายแรกของจังหวัดพะเยา"

โดยยื่นกู้ในขณะนั้นด้วยวงเงิน 3 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยตามโครงการ ร้อยละ 1 ทางธนาคารได้อำนวยความสะดวกดีมาก คอยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่นักลงทุน ไม่ว่าลูกค้าท่านใดจะมีธุรกิจเกี่ยวกับด้านใดก็ตาม ถ้าเราพร้อม-แบงก์ก็พร้อม ทุกอย่างราบรื่น และใช้เวลาไม่นานก็ได้รับการอนุมัติจากธนาคาร

และเมื่อได้เงินกู้จากธนาคาร ก็เริ่มนำมาต่อยอดขยายธุรกิจปลูกพืชผักอินทรีย์ตามความต้องการของตลาด ไม่ปลูกมากเกินไปจนเกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาด มีการนำปลานิลมาเลี้ยงเพิ่ม และทำปุ๋ยสูตรปลานิลขึ้นภายใต้วัตถุดิบที่มีอยู่ คือนำปลานิลที่เลี้ยงมาทำเป็นปุ๋ยภายใต้ชื่อ “ปุ๋ยอินทรีย์ใบธง” โดยจะคัดเฉพาะปลานิลสดที่ตัวโตเต็มไวได้มาตรฐานเท่านั้น เพราะจะทำให้ได้ปุ๋ยที่มีคุณภาพดี ตรงตามความต้องการ

โดยในขณะนี้ได้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใบธง หรือปุ๋ยปลานิล ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานปัจจัยผลิตทางการเกษตรพัฒนาที่ดิน และได้ขึ้นทะเบียนเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำ 1 ใน 5 ของไทยด้วย คือ 1. ปุ๋ยอินทรีย์ใบธง ใช้สำหรับฉีดพ่นใบ 2. สปีด 1 ปรับปรุงดินและเร่งการเจริญเติบโตของพืช 3. สปีด 2 บำรุง ดอก ผล ขยายขนาดพืชลงหัว 4. คอลโทล 1 ป้องกันแมลง – ศัตรูพืช
5. ไบโอ-เบส ปรับสภาพดินก่อนลงกล้าพืช โดยมีการส่งจำหน่ายโดยทั่วไป มีตัวแทนการขายทั้งใน-นอกพื้นที่ และในอนาคตอันใกล้นี้จะขยายช่องการตลาดผ่านทางสื่อออนไลน์ของทางบริษัทด้วย


“ปุ๋ยชนิดนี้จะมีความสะดวกในการใช้ โดยนำมาผสมน้ำแล้วฉีดพ่นพืชผักต่างๆ ปุ๋ยอินทรีย์ใบธง 1 ลิตร ต่อน้ำ 1,000 ลิตร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ ดินก็ไม่เสียไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไส้เดือนไม่ตาย ระบบนิเวศกลับคืนมาดังเดิม ไม่ว่าจะเป็นพืชชนิดไหนก็สามารถใช้ได้”


ทั้งนี้ "หัสนัย" ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาได้นำปุ๋ยอินทรีย์ใบธง หรือปุ๋ยปลานิล ไปใช้จริงกับพืชผักในไร่ที่ปลูกแบบผสมผสาน ไม่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ซึ่งมีสวนยางพารา 60ไร่ ที่เหลือจะเป็นบ่อปลานิล สวนสับปะรดจำปาทอง ข้าวโพดหวาน เสาวรส แตงโม ลำไย รวมไปถึงต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย

“ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ ช่วงฤดูร้อนหรือฤดูแล้ง พืชผักจะแพงกว่าฤดูอื่น เพราะปลูกยากอากาศจะร้อน โตช้า แต่ที่ไร่ใบธง จะมีปุ๋ยอินทรีย์น้ำจากปลานิลมาช่วยเสริม พืชผักทุกชนิดผลผลิตที่ออกมาได้”

"หัสนัย" ยืนยันว่า หากนำปุ๋ยอินทรีย์ใบธง ฉีดพ่นผัก รสชาติของผักจะหวานกรอบ เก็บไว้ในตู้เย็นได้นานกว่า 45 วัน นานกว่าพืชผักที่ใช้ปุ๋ยเคมี 4-5 เท่าตัว ส่วนแตงโม หนึ่งต้นจะเก็บลูกไว้เพียง 1 ลูกเท่านั้น และจะให้มีขนาดลูกละ 2 กิโลกรัม จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 50 บาท , ข้าวโพดหวานจะเก็บไว้เพียง 1 ฝัก ก็จะได้ข้าวโพดหวานขนาด 0.5 กิโลกรัมต่อฝัก จำหน่ายทั้งดิบและสุก

ส่วนเสาวรสเป็นผลไม้ที่ทางไร่ใบธงนำมาแปรรูปเป็นน้ำเสาวรสที่ขึ้นชื่อของจังหวัดพะเยาเลยทีเดียว ขณะที่สับปะรดจำปาทอง ก็มีจำหน่ายเพียงแค่ที่จังหวัดพะเยาเท่านั้น ไม่มีส่งออกขายไปยังที่อื่น หากถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ก็จะมีคนมาจับจองซื้อกันจนหมด

สำหรับผลผลิตจากไร่ใบธง หรือใบธงฟาร์ม จะมีการนำออกจำหน่ายภายในร้าน “ใบธง Healthy” ที่ตั้งอยู่ภายในไร่ ถ.พหลโยธิน พะเยา –เชียงราย ต.ท่าวังทอง อ.เมืองพะเยา ภายในไร่ใบธง ยังมีร้านอาหาร และที่พักเพื่อรองรับแขกที่จะมาเยี่ยมชมไร่ ในอนาคตจะเปิดให้บริการที่พัก-ลานกางเต็นท์ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมไร่ท่ามกลางขุนเขารายล้อม และน้ำตกจำปาทอง ที่มีสายน้ำไหลลงมาผ่านไร่ตลอดทั้งปีไม่มีแห้งด้วย









สนใจ โทร.054-483-030 fb: ไร่ใบธงพะเยา
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น