คำตอบ คือ ปากน้ำปราณบุรี ผลผลิตที่ได้จากการแปรรูปอาหารทะเลด้วยกรรมวิธีแบบคนบ้านๆ ภูมิปัญญาที่สามารถสร้างรายได้หล่อเลี้ยงหลากหลายชีวิตตามวิถีคนประมง
ความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรทางทะเล กอปรกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวประมงที่ยังคงมีอยู่ เป็นจุดขายการท่องเที่ยว ให้กับปากน้ำปราณบุรี เมืองก้นถุง ที่นักท่องเที่ยวล้วนตั้งใจไปเยือนไม่ใช่แค่ทางผ่านดังเดิม
นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เน้นธรรมชาติและเชิงสุขภาพเป็นหลัก ตามโครงการของรัฐบาล “ไทยแลนด์ริเวียร่า” ซึ่งในปีที่ผ่านมาสร้างรายได้ประมาณ 36,359 ล้านบาท มีอัตรานักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.35 และคาดว่าในปีนี้เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5-7
โดยเฉพาะปราณบุรีมีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเลทั้งปลา กุ้ง ปลาหมึก เป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารทะเลที่สำคัญ เนื่องจากมีการทำประมงทั้งประมงน้ำลึกและประมงน้ำตื้นหรือประมงพื้นบ้าน ประกอบกับในพื้นที่มีศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลนสิรินาถราชินี มีการจัดการเพาะพันธุ์และอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของคนในพื้นที่ สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องให้กับประชากรในพื้นที่
นายพะนอ เดชวัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ปากน้ำปราณบุรี กล่าวว่า ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม เป็นฤดูกาลที่ปลา ปลาหมึกจะมาหาแพลงตอนบริเวณหน้าอ่าวปากน้ำปราณบุรีจำนวนมาก สร้างอาชีพให้กับชาวประมงเรือไดร์หมึกกว่า 100 ลำ และกลุ่มผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์สร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนผ่าหมึก ตากหมึก ลอก หมึก เพราะเมื่อได้วัตถุดิบมาต้องรีบทำให้ทันเวลาเพื่อคงความสด รสชาติอร่อย
“ถามว่าที่นี่เป็นแหล่งผลิตใหญ่สุดไหมก็ไม่แน่ครับ เราก็ไม่เคยไปสัมผัสตรงอื่น แต่ถามว่าหมึกที่นี่อร่อยแน่นอน เพราะ ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ที่ร่องน้ำจืดไปบรรจบกับน้ำเค็มทำให้มีแพลงตอนมาก เลยได้เปรียบตรงนี้ ฤดูนี้นักท่องเที่ยวจะเห็นบรรยากาศที่เรือประมงจอดลอยลำอยู่ในทะเล เขาเรียกว่าจอดเฝ้าดอน แสดงว่าบริเวณนั้นมีปลาหมึก พอมืดเขาก็จะติดไฟสีเขียวล่อปลาหมึก ตลอดแนวชายหาดจะเหมือนตลาดนัดเลย เหมือนตลาดน้ำในทะเล ไฟจะติดสวยมาก”
ปากน้ำปราณบุรีห่างจากหัวหินประมาณ 15 กิโลเมตร คนที่รักความสงบจะไหลมาปากน้ำปราณฯทั้งหมด เพราะเราเน้นอาหารสด อร่อย และราคาถูกกว่าหัวหินมากเกือบเท่าตัว ตลอดจนที่พักก็ถูกกว่าและเงียบสงบ
นายสำราญ งดงาม ผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปลาหมึกแดดเดียวภายใต้ชื่อร้านน้องหญิง เล่าว่า ตนประกอบกิจการแปรรูปอาหารจากทะเลมา 18 ปี ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นตลาดต่างจังหวัด อาทิ อ่างศิลา แหลมฉบัง ชลบุรี เพราะที่ปากน้ำปราณฯ เป็นแหล่ง ลูกค้าจะสั่งซื้อไปเข้าร้านอาหาร ในจังหวัดต่างๆ แม้แต่ในภาคตะวันออกต้องมาเอาจากปากน้ำปราณครับ
“เพราะเป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่ วัตถุดิบคือที่นี่ครับ เรือไดร์เยอะที่สุด ไม่ว่าจะเป็นของสด ของแห้ง เราต้องไปส่งเขาที่นู้นครับ เช่นปลาหมึกสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้หลากหลาย โดยเฉพาะปลาหมึกแดดเดียวจากปากน้ำปราณได้รับความนิยมจากร้านอาหารทั้งในพื้นที่และจังหวัดต่างๆ เป็นอย่างมากรวมทั้งทางชลบุรีและระยองก็ส่งไปจากปากน้ำปราณฯ จำหน่ายกิโลกรัมละ 400-500 บาท นำไปทำอาหารต่างๆ ได้หลากหลายรายการ”
“เวลาเรือไดร์หมึกเข้าฝั่ง จะไปคัดขนาดปลาหมึกจากแพปลา โดยจะใช้ปลาหมึกกล้วยขนาดน้ำหนักประมาณ 3-4 ตัวต่อกิโลกรัม เมื่อได้มาจากเรือจากแพสดๆ แล้วมาลอกหนัง ผ่าทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย แขวนตากแดด 45 นาที นำไปแพ็คแล้วแช่ช่องแข็งพร้อมจำหน่ายได้เลย ถ้าไม่ตากแดดเวลาทอดเนื้อจะไม่ฟู เน้นความอร่อย ถ้าไม่ตากแดด แล้วนำไปทอดมันจะเป็นน้ำแล้วไม่อร่อย มันต้องตากแดดก่อน ไม่ต้องใส่เกลือเป็นรสชาติธรรมชาติ จะได้น้ำจากตัวหมึกหวานๆ จากทะเลเลย”
ส่วนปริมาณวัตถุดิบ เราทำสัญญาไม่ได้ ของในทะเลเราไม่รู้ ถ้ามีวัตถุดิบเยอะเราก็สามารถผลิตได้เป็นพันกิโล แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง สั่งที่ 60 - 70 กิโล แต่ละเจ้าต่อสัปดาห์ หมดก็สั่งมาเอาใหม่ สินค้าสามารถเก็บได้เป็นปีถ้าแช่แข็งไว้ ไม่ได้ส่งออกนอก ถ้าลูกค้าสั่ง อาทิ ไปชลบุรี เราก็แช่แข็งใส่กล่องโฟมไม่ต้องอัดน้ำแข็ง อยู่ได้ 13 ชั่วโมง การไดร์หมึกจากปากน้ำปราณฯ เราได้จากเรือไดร์หมึกล้วนๆ จะไม่ปนกับปลา ไม่เน่าทำให้เราได้วัตถุดิบที่ดีตามธรรมชาติ เนื้อหนา รสชาติอร่อย
ด้านนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายอำเภอปราณบุรี กล่าวว่าอำเภอปราณบุรีได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำปราณ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงาน “เทศกาลกินหมึกแดดเดียวและอาหารทะเล ปากน้ำปราณ ครั้งที่ 5” ประจำปี 2561 ขึ้นในวันที่ 21 – 22 กันยายน ที่จะถึงนี้ ณ ลานกิจกรรมสโมสรมหาราช ริมชายหาดปราณบุรี
การจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากร้านอาหารและผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ ร่วมกันนำผลิตภัณฑ์มาให้นักท่องเที่ยวได้ชิมและเลือกซื้อหา พร้อมกิจกรรมประกวดอาหารจากปลาหมึกแดดเดียว และอาหารทะเล นอกจากนี้ยังมีมินิคอนเสิริต์จากศิลปิน โรส ศิรินทิพย์ และสุชาติ จากเดอะ วอยซ์ และดนตรีสไตล์บอสซ่า เพื่อประชาสัมพันธ์ปากน้ำปราณให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวและการกระจายรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นอีกทางหนึ่งด้วย