ทีมงาน POSITIONING ผู้จัดการ 360 ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม KING POWER บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด CP ALL ,INTOUCH ,TSI ,BEACON จัดเวทีเสวนา ในหัวข้อ สตาร์ทอัพจับต้องได้(2) สตาร์ทอัพแบบไหนถูกใจขาใหญ่ ซึ่งจัดขึ้น (5 กันยายน 2561) ณ โรงละครอักษรา คิง พาวเวอร์
โดยเวทีเสวนาในครั้งนี้ ได้มีผู้ร่วมเสวนา และมีสาระสำคัญ ดังนี้
NIA สนับสนุนสตาร์ทอัพ ไอเดียดี มีทุน 75% เงินลงทุน
ดร.กริชผกา บุญเฟือง รองผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) ด้านระบบนวัตกรรม (NIA) กล่าวว่า สำหรับสตาร์ทอัพ เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะอยู่ที่ประเทศไหน ก็จะมีสตาร์ทอัพ ซึ่งประเทศไทยเองจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ ต้องมีสตาร์ทอัพ และการส่งเสริมสตาร์ทอัพ คือ การส่งเสริมด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรง ของ NIA
โดยภาพรวมสตาร์ทอัพ ในต่างประเทศ อย่างสหรัฐอเมริกา มีสตาร์ทอัพมานานกว่า 10 ปี หรือ อิสลาแอล ก็มีสตาร์ทอัพที่มีหลากหลาย หรือ แม้แต่ในเอเชียเอง ก็จะมีประเทศสิงคโปร์ ที่มีสตาร์ทอัพ ที่มีความแข็งแกร่ง และมีความโดดเด่น ในหลายๆ แพลตฟอร์ม และยังเป็นประเทศแถวหน้าที่มีสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพระดับโลก แม้ว่า เขาจะไม่มี ความหลากหลายทางด้านอุตสาหกรรมหรือ การเกษตร เลยก็ตาม
ในขณะที่ประเทศไทยมีศักยภาพ ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านอุตสาหกรรม การเกษตร หรือ ท่องเที่ยว แต่สตาร์ทอัพในประเทศไทย ยังไม่สามารถแข่งขันกับสิงคโปร์ หรือ อีกหลายๆ ประเทศ โดยในปีที่ผ่านมา(2560) ไทยมีจำนวนสตาร์ทอัพ ถึง 1700 ราย วงจรการเกิดสตาร์ทอัพ และการเลิกมีในสัดส่วนที่มากพอๆ กัน คือ เกิด 10 ราย และอยู่รอดเพียง 2 ราย ถือว่าประสบความสำเร็จ สตาร์ทอัพที่เลิกก็จะเริ่มใหม่ เป็นแบบนี้เหมือนกันทุกประเทศ บางราย เริ่มใหม่แบบนี้เป็น10 ครั้ง ก็มี ดังนั้น การเป็นสตาร์ทอัพ ไม่ต้องกลัวการเริ่มต้นใหม่
สำหรับในส่วนของ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) มีหน่วยงาน และเงินทุนที่พร้อมจะช่วยเหลือ สตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรม และมีไอเดียดี ต้องการจะเริ่มต้นธุรกิจ เพียงแค่ติดต่อเข้ามา ผ่านทางช่องทางต่างๆ ของ NIA ถ้าไอเดียของคุณ ดีจริง และเราเห็นว่า มีความเป็นไปได้ ทางNIA มีเงินทุนสนับสนุน ถึง 75% ของเงินลงทุน ทั้งหมด และถ้ากิจการ ไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ไม่ได้เอาเงินคืน
บีคอนเวนเจอร์ แคปิทัล แหล่งทุนจาก ธ.กสิกร
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด กล่าวว่า บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด คือบริษัท ที่มาจากธนาคารกสิกรไทย จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นหน่วยงานที่ร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพ และยังให้คำแนะนำสำหรับสตาร์
สำหรับบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด คือบริษัท ที่มาจากธนาคารกสิกรไทย จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นหน่วยงานที่ร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพ และยังให้คำแนะนำสำหรับสตาร์ทอัพ ซึ่งเวทีเสวนา ครั้งนี้ พูดถึง สตาร์ทอัพแบบไหนที่คาดว่าจะเข้าทาง VC และสามารถร่วมลงทุนได้ คำตอบ คือ สตาร์ทอัพนั้นๆตลาดมีความต้องการสินค้ามากน้อย แค่ไหน รวมถึงความต้องการของลูกค้าว่าสินค้าของสตาร์ทอัพรายนั้นมีกี่รายที่ให้ความสนใจอยากใช้งาน หรืออยากซื้อ และสามารถใช้งานได้จริงๆ และแน่นอนว่าในตลาดอาจจะมีคู่แข่ง เริ่มสร้างแบรนด์สินค้าขึ้นมาแข่ง สตาร์ทอัพก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าสินค้าที่มีอยู่นั้นดีกว่าอย่างไร และมีวิธีการทำอย่างไรให้ธุรกิจสามารถเติบโตกว่ารายอื่นๆ รวมถึงด้านโมเดลธุรกิจสามารถที่จะเติบโตได้จริงในตลาดการแข่งขันหรือไม่
บมจ.อินทัช โฮลดิ้ง ตัวช่วยสตาร์ทอัพ ด้านบัญชี กฎหมาย
ดร. ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล หัวหน้าโครงการ บริษัทร่วมทุน อินเว้นท์ (InVent) บมจ. อินทัช โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า บริษัท ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยี โดยการถือหุ้น และเข้าไปบริหารงาน และมุ่งเน้นสนับสนุนสตาร์ทอัพให้โต รวมถึงให้คำปรึกษาในด้าน บัญชี, กฎหมาย และการจัดการ และในตอนนี้ก็ลงทุนไปแล้วกว่า 15 ธุรกิจ เช่น Ookbee, Wongnai, Evenpop, digio, Shopback เป็นต้น
ข้อแนะนำสำหรับสตาร์ทอัพ “Key takeaways for Startup” ที่จะต้องมี Business Model โมเดลของธุรกิจที่ดี มี Strategy (กลยุทธ์) ที่เป็นของตัวเอง และต้องมีความชัดเจน เพราะสตาร์ทอัพของแต่ละรายมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันอยู่แล้ว Use of fund (การใช้เงินทุน) ทางผู้ลงทุนเป็นห่วงเรื่องของการใช้เงิน กลัวว่าจะนำเงินไปเก็บไว้และไม่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราฉะนั้นต้องทำไปตามกระบวนการที่ได้วางแผนไว้ในตอนแรก
ในส่วนของ Team (ทีม) จะต้องมีกี่บริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสุดท้าย Founder ต้องมอง 2 ด้าน คือธุรกิจปัจจุบัน กับธุรกิจในอนาคต ต้องมีการชั่งน้ำหนักให้ทั้ง 2 ด้านเท่ากัน เพราะถ้าหากว่ามองเพียงด้านใดด้านหนึ่งธุรกิจอาจจะไม่เติบโตได้
กองทุน 500 Tuktuks เจาะสตาร์ทอัพ ระดับ seed stage
นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้จัดการกองทุน 500 Tuktuks และ Ookbee กล่าวว่า ในตอนเริ่มต้นก็เคยเป็นสตาร์ทอัพมาก่อน เมื่อปี 2012 ที่เคยเป็นสตาร์ทอัพอีบุ๊ค จึงมาทำบริษัทใหม่ เป็น กองทุน 500 Tuktuks เพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพเมืองไทยระดับ seed stage (รับเงินลงทุนก้อนแรก)
สำหรับ สตาร์ทอัพที่มองหาคือคนที่ยังไม่ได้รับเงินลงทุนแม้แต่ก้อนเดียว แต่ถ้าคิดว่าธุรกิจสตาร์ทอัพนั้นๆ พร้อม และมีทีมงานก็สามารถมาร่วมงานกับทาง กองทุน 500 Tuktuks ได้ และในอนาคต วางแผนจะเปิด กองทุน 500 Tuktuks 2 ที่จะร่วมลงทุนทั้งในระดับ seed stage (รับเงินลงทุนก้อนแรก) และ series A สตาร์ทอัพที่เคยรับเงินลงทุนก้อนแรกมาแล้ว อีกทั้งยังได้ให้คำแนะนำสำหรับสตาร์ทอัพ คือ เรื่องที่สำคัญที่สุดคือต้องหาผู้ร่วมลงทุนที่สามารถเข้ากันได้ในระดับที่ดี เพื่อที่การทำงานจะสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ทรูอินคิวส์ ชี้สตาร์ทอัพลงทุนกับเรา เหมือนลงทุนกับซีพีกรุ๊ป
นายกวี โพคะรัตน์ศิริ Senior Bussiness Development Excusive True Incube กล่าวถึงแนวทางการลงทุนของสตาร์ทอัพ ว่า แบบไหนที่นักลงทุน หรือ VC มองหา ซึ่งในส่วนของ True Incube นั้น เป็นบริษัททีเกิดจากวิสัยทัศน์ ของ คุณธนินทร เจียรวนนท์ ประธานกลุ่มบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เล็งเห็นถึงการเติบโตของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จึงได้ตั้งทรูอินคิวส์ ขึ้นมา ส่วนหนึ่งต้องการจะมีส่วนช่วยในการสนับสนุนกิจการสตาร์ทอัพ ของคนไทย แต่ถ้ามีโอกาส ต้องการจะเรียนรู้กิจการสตาร์ทอัพของต่างประเทศด้วย จึงได้เป็นที่มาของการเข้าร่วมลงทุนกิจการ กับสตาร์ทอัพทั้งของไทยและต่างประเทศหลายราย
สำหรับ หลักการทำงานของ ทรูอินคิวส์ ยึดแนวคิด I 4 ตัว คือ Inspriry คือ ทำให้สตาร์ทอัพเกิดเป็นรูปธรรมก่อน และ ตามด้วย Innovate คือ ทำการบ่มเพาะ แบบมีพี่เลี้ยง ต่อมา Incubate ร่วมเดินทางและเป็นพาสเนอร์ และสุดท้าย Invest การร่วมลงทุน ไม่ใช่เฉพาะ การลงทุนในส่วนของทรูฯ เท่านั้นแต่เป็นการลงทุน ในนามของซีพี กรุ๊ป การเป็นพาสเนอร์กับเราไม่ได้มีแค่ช่องทางออนไลน์บริษัทในเครือของเรา แต่มีช่องทาง มาร์เก็ตชาแนลอื่นๆ อีกหลายช่องทาง มาช่วยซัพพร็อตกิจการสตาร์ทอัพ
คุณกวี ได้กล่าวถึง สตาร์ทอัพว่า เหมือนกับลูกม้า ที่วิ่งไม่ถนัด และพร้อมจะล้มได้ตลอดเวลา ซึ่งยินดีที่จะสอนให้ลูกค้า ได้เติบโต และแข็งแรง เพียงแค่คุณมีไอเดียดี และเรามีวิธีการที่สอนลูกม้าให้สามารถวิ่งได้ และเติบโตแข็งแรงไปพร้อมกับเรา ซึ่งเราจะเป็นพี่เลี้ยงคอยให้ความรู้ พาไปเรียนรู้ และหาประสบการณ์ในต่างประเทศ สร้างระบบนิเวศน์ใหม่ให้กับสตาร์ทอัพ โดยที่ผ่านมา เคยพาสตาร์ทอัพที่เป็นพาสเนอร์ กับเรา ทั้ง 5 ราย ไปโรดโชว์ ที่ สิงคโปร์ จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ทำให้สตาร์ทอัพ เหล่านี้ ได้รู้จักระบบนิเวศน์ สตาร์ทอัพของแต่ละประเทศ อาทิเช่น กิจการ Huawai, Google และ Alibaba
สำหรับ สตาร์ทอัพที่บริษัท ได้ร่วมลงทุน เช่น ผู้ผลิตเกม สตาร์ทอัพ จากแคนาดา และจีน Media Tech ประเทศไทย SME SOLUTION ประเทศไทย Geo location data analytic /AI จาก สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ส่วนสตาร์ทอัพที่สนใจร่วมลงทุน กับทาง ทรูอินคิวส์ มี Invest MANDATE มีบัดเจทให้ เริ่มต้น 500 K ถึง 3 ล้านเหรียญสหรัฐ คุณสมบัติสตาร์ทอัพ ที่จะเข้าร่วมกับเรา ที่สำคัญ ต้องมี ซินเนอร์จี้ (การทำงานร่วมกันให้ได้ก่อน ) ซึ่งโฟกัส ที่ 3 กลุ่ม คือ B2B B2C และ B2B2C
ทั้งนี้ คุณกวี ยังบอกอีกว่า ทำไมสตาร์ทอัพ ถึงต้องเลือกลงทุนกับ ทรูอินคิวส์ ประการแรก คือ เรามีทีม เทรนเนอร์ ช่วยสอนทุกขั้นตอนในการทำธุรกิจ และ มีCO WORKING SPACE พื้นที่ให้ทุกคนได้ทำงาน ใจกลางเมือง อย่างสยามเซ็นเตอร์ และยังมีเงินทุนให้กว่า 30 ล้านบาท และยังมีช่องทางมีเดีย อีกหลายช่องทาง โปรโมทกิจการสตาร์ทอัพ ให้เป็นที่รู้จัก
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
