ใครจะคิดว่าคนที่ชอบปลูกต้นไม้ ต่อมาจะกลายเป็นผู้ประกอบการที่สร้างรายได้จากการปลูกและแปรรูปต้นไผ่ เขาคนนั้นคือ ดร.กิตติศักดิ์ โชติกิติพัฒน์ ที่นอกจากจะเป็นอาจารย์ ประจำสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศธุรกิจ (Business IT) มหาวิทยาลัยราชมงคลรัตนโกสินทร์ เขายังเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์จากถ่านไม้ไผ่ (Bamboo Charcoal) แบรนด์ 'Bamboo Reform' ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้ เกิดการสร้างป่า สร้างรายได้ และสร้างสุขอย่างแท้จริง
โดยเขานำศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ว่า 'ปลูกต้นไม้ 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง' มาประยุกต์ใช้ เริ่มต้นจากการปลูกต้นไผ่ พืชเศรษฐกิจที่ให้ประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นให้ออกซิเจนมากกว่าต้นไม้อื่นๆ 35% กิ่ง ก้าน ใบ แปรรูปเป็นงานหัตถกรรม ใบที่ร่วงหล่นทำเป็น Particle Board และ Wood Pallet ส่วนลำต้นและหน่อก็ใช้ประโยชน์ได้ไม่รู้จบ เขาไม่เพียงลงแรงปลูกไผ่เอง แต่ยังได้ชักชวนเกษตรกรในเขต อ.ชะอำ มาช่วยกันปลูกอีกหลายๆ แรงด้วย
"ตอนนั้นมีคำถามตามมามากมาย ปลูกแล้วจะเอาไปขายให้ใคร? ผมก็ลงมือทำให้เห็นเป็นรูปธรรม ด้วยการแปรรูปต้นไผ่อย่างง่ายๆ โดยได้ไอเดียจากการนั่งสมาธิร่วมกับพระอาจารย์ท่านหนึ่งท่านสอนว่า “ลมหายใจสำคัญที่สุด” เลยคิดผลิต 'ถ่านไม้ไ ผ่' เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรก ที่มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับสารพิษและฟอกอากาศโดยธรรมชาติ ทำให้เราสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด ส่งผลให้สมองดี มีสมาธิที่ดี พระพุทธเจ้าเองก็บรรลุทางธรรมที่ป่าเวฬุวัน ซึ่งก็คือป่าไผ่นั่นเอง"
กว่าจะได้มาซึ่งถ่านไม้ไผ่ ภายใต้แบรนด์ Bamboo Reform ดร.กิตติศักดิ์ จะต้องนำลำต้นไผ่มาแปรรูปเป็นถ่านไม้ไผ่ โดยการเผาที่อุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส จนได้ถ่านไม้ไผ่ที่มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษ และปล่อยประจุลบ (Negative Ions) ที่ดีต่อสุขภาพออกมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เขาได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปตรวจที่กรมวิทยาศาตร์บริการ เพื่อรับรองว่าถ่านไม้ไผ่ที่เขาผลิตขึ้นมานั้นสามารถกรองสารพิษ กรองอากาศ และกรองน้ำได้ตามมาตฐาน ด้วยถ่านไม้ไผ่ที่มีรูพรุนมาก กว่าถ่านปกติทั่วไป จึงมีความสามารถในการดูดกลิ่น ดูดซับสารพิษได้ดีกว่ามาตรฐานถึง 2 เท่า
เมื่อได้คุณสมบัติตามที่ต้องการ เขาจึงนำเกล็ดถ่านไม้ไผ่มาประยุกต์ทำผลิตภัณฑ์สารพัด เช่น หมอนหนุน หมอนอิง และตุ๊กตาชาร์โคลรูปสัตว์ สำหรับใช้วางตามจุดต่างๆ ของบ้านหรือรถยนต์ นอกจากตั้งโชว์ตกแต่งเพื่อความสวยงาม และให้อารมณ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์จากถ่านไม้ไผ่ยังช่วยดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ชะงัดนัก ส่วนผงถ่านดีไซน์ทำเป็นถุงถ่านดับกลิ่น สำหรับถ่านไม้ไผ่ทรงกระบอกสามารถใส่ลงในตู้ปลาสวยงามได้ ทั้งนี้ ถ่านไม้ไผ่จะให้ประสิทธิภาพดีที่สุดนาน 2 ปีเต็ม
"สำหรับหมอนเราดีไซน์ให้มีคุณสมบัติ Refill เมื่อใช้งานครบ 2 ปี สามารถถอดไส้หมอนเพื่อเปลี่ยนถ่านชุดใหม่ใส่เข้าไปได้ ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของเราคือ น้ำสกัดจากใบไผ่ เราสร้างความแตกต่างด้วยการผสมใบไผ่เข้ากับใบเตย และชะเอมเทศ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของเราเอง นอกจากนี้ เรายังนำใบไผ่มาทำเป็นผง เพื่อผลิตเป็นครีมลดฝ้าและรอยเหี่ยวย่น ไม้ไผ่สดยังเพิ่มมูลค่า ออกแบบเป็นตุ๊กตามวยไทย ในอนาคตเราคิดจะนำน้ำส้มควันไม้อันเป็นผลพลอยได้ มาทำเป็นลูกกลิ้งดับกลิ่นกาย สเปรย์ระงับกลิ่นเท้าด้วย"
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ Bamboo Reform มีจำหน่ายที่ประจวบพาวิลเลี่ยน ศูนย์กระจายสิน ค้าของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร้านกอไผ่ ร้านในซอยชะอำ 28 แต่ช่องทางออนไลน์อย่างไลน์ และเพจเฟสบุ๊ค กลับมาแรงกว่า โดยสินค้าที่ขายดีคือ ตุ๊กตาชาร์โคล ที่ได้ออเดอร์หลั่งไหลจากหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งลูกค้าทั่วไปที่นิยมซื้อเป็นของฝากของขวัญ ความสำเร็จในวันนี้ นอกจากการทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจ ให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานสินค้า เพื่อความยั่งยืนในการทำธุรกิจ หัวใจที่ไม่นึกถึงไม่ได้ ดร.กิตติศักดิ์ บอกว่าคือ บสย. เพราะถ้าไม่ได้ บสย. ช่วยเหลือในวันนั้น ก็คงไม่มี Bamboo Reform ในวันนี้
"ตอนปี 2559 บสย. ช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้ในโครงการ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 5 ปรับปรุงใหม่ (PGS 5 ปรับปรุงใหม่) ทำให้เราได้เงินมาพัฒนาธุรกิจจำนวน 2 ล้านบาท เราใช้ไปกับการปรับปรุงพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นป่ารกร้าง โดยทำการเดินไฟฟ้าเข้าไป ทำถนน ปรับระบบน้ำ ลงกล้าพันธุ์ และสร้างโรงงานเล็กๆ ขึ้นมา เงินที่ได้มา ถือว่าเราใช้ไปอย่างคุ้มค่าสุดๆ"
เมื่อถามถึงอุปสรรคสำคัญในเวลานี้ ดร.หัวใจเกษตร บอกว่าเป็นเรื่องปริมาณวัตถุดิบที่ยังคงงมีอยู่อย่างจำกัด และการผลิตสเกลเล็กที่ไม่สามารถสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างเพียงพอ แต่คนทำธุรกิจที่มีความรอบคอบ ก็ได้คิดเตรียมทางออกไว้เรียบร้อยแล้ว
"ทุกวันนี้เราปลูกต้นไผ่ที่อำเภอชะอำ และรอยต่อระหว่างชะอำกับหัวหิน โดยส่วนตัวปลูกเองประมาณ 4-5 ไร่ แต่มีเป้าหมายร่วมกับเกษตรกรจำนวน 30 ราย ขยายพื้นที่ปลูกอีก 300 ไร่ เพื่อสร้างเป็นเกษตรแปลงใหญ่ หรือใครที่ไม่มีที่ทาง แต่มีเงินทุน เราก็ช่วยหาแหล่งปลูกให้ได้ ส่วนใครมีที่และมีทุนเราจะให้ไอเดียให้ความรู้ไปปลูก แล้วเรายินดีรับซื้อไผ่ นอกจากนี้ เรายังคิดผลิตเตาอิวาเตะขนาด 2.5 ตัน จำนวน 2 เตา เพื่อรองรับกำลังการผลิตถ่านก้อน 20 ตันต่อเดือน และผลพลอยได้ของการเผาไม้ไผ่แต่ละครั้งคือ น้ำส้มควันไม้ 2,000-4,000 ลิตรต่อเดือน ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าได้เดือนละหลายแสนบาท
ผมมองว่าเราโชคดีที่เกิดมาเป็นคนไทย เมืองไทยมีภูมิประเทศ ภูมิอากาศดี เอื้อต่อการปลูกพืชพรรณธัญญาหารต่างๆ เรามีโอกาสที่ดี เพียงแต่เราต้องรู้จักเติมโนวฮาว เพิ่มมูลค่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป้าหมายต่อไป เราจะเดินตามสโลแกน 'สร้างป่า สร้างรายได้ สร้างสุข' โดยพยายามสร้างกิจกรรมในชุมชน รณรงค์ให้เกษตรกรหันมาปลูกต้นไผ่มากขึ้น แล้วคุณจะพบว่าต้นไผ่สามารถแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่มได้เกินคาด ทั้งของกินและของใช้ ไล่ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง อาหารและน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ส่วนน้ำส้มควันไม้ก็ใช้ ได้ในหลายอุตสาหกรรม ขอเพียงเจอพันธมิตรธุรกิจที่มีแนวคิดตรงกัน ทุกอย่างเป็นไปได้หมดครับ" ดร.กิตติศักดิ์ กล่าว
ติดต่อ 082-245-2450 / 099-365-4240 เลขที่ 754/30 ถนนเกาะกะล่อม ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี www.bambooreform.com, www.facebook.com/bambooreform
บทความโดย: บรรษัทประกันสินเชื่ ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) (Click Link : www.tcg.or.th)
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager