xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งเกิด “กาแฟดอยผาหมี” ราคาหลักสิบวิวหลักล้าน ปลุกกระแสท่องเที่ยวชุมชน บูม!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ทำไมกาแฟดอยผาหมี ถึงไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ทั้งที่มีคุณภาพดีมาก" นี่เป็นคำถามที่สร้างแรงบันดาลใจให้ "ผกากานต์ รุ่งประชารัตน์" สาวแกร่งที่เกิดและเติบโตบนดินแดน "ดอยผาหมี" อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อเปิดร้าน "กาแฟดอยผาหมี" เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นร้านกาแฟแห่งแรกในชุมชนแห่งนี้



ผกากานต์ เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นว่า เดิมเคยทำงานประจำอยู่ที่กรุงเทพฯ หลายปี ทว่า มีความฝันอยากจะกลับมาทำงานที่สร้างคุณค่าให้แก่บ้านเกิดที่ "ดอยผาหมี" อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีคำถามที่ค้างคาใจเรื่อยมา คือ แม้ดอยผาหมีจะเป็นแหล่งปลูกคุณภาพเยี่ยมของประเทศไทย ทว่า คนทั่วไปกลับไม่รู้จักกาแฟจากดอยผาหมีเลย เนื่องจากเดิม ชาวบ้านจะขายผลผลิตกาแฟผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งนำไปติดแบรนด์ต่างๆ



“ตั้งแต่เด็กเราก็คุ้นชินว่า บ้านเราเป็นแหล่งปลูกกาแฟคุณภาพดี มีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 1,500 ไร่ แต่กลับไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเองมาก่อน เพราะชาวบ้านผู้ปลูก ขายแต่วัตถุดิบ ให้นำไปติดแบรนด์ต่างๆ ดิฉันจึงมีความฝันอยากจะสร้างกาแฟดอยผาหมี เลยตัดสินใจกลับบ้าน ปรับปรุงบ้านพักของตัวเอง เปิดเป็นร้านกาแฟใช้ชื่อว่า “กาแฟดอยผาหมี" ถือเป็นร้านกาแฟแห่งแรกบนดอยผาหมี โดยมีสโลแกนประจำร้านว่า จิบกาแฟ แลหน้าผา” ผกากานต์ ย้อนเหตุการณ์เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว



ทว่า เส้นทางอาชีพไม่ได้สวยหรูอย่างฝัน เนื่องจากในเวลานั้น ดอยผาหมียังไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังแต่อย่างใด ต่อวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนแค่ไม่กี่คน ในช่วงเดือนแรก รายได้ของร้านเฉลี่ยแค่ประมาณ 500 บาทต่อวันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยกาแฟรสเลิศ จุดเด่นหอมเข้ม บวกความสวยงามของทำเลที่ตั้งร้าน “กาแฟดอยผาหมี" ที่สามารถนั่งจิบกาแฟ พร้อมชมทิวทัศน์ธรรมชาติหน้าผาหมีได้ รวมถึง เดินทางสะดวกจากตัวอำเภอเมืองแม่สาย เพียง 7 กิโลเมตร และจากร้านสามารถเดินทางต่อไปชมวิวบนยอดดอยผาหมีได้ง่าย ซึ่งสามารถมองเห็นวิวชายแดนเชื่อมต่อกัน 3 ประเทศ ไทย ลาว และพม่า คนที่เคยมาเที่ยวแล้ว ต่างเช็คอิน ถ่ายภาพและแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียต่างๆ บรรยายถึงความสวยงามและประทับใจเมื่อมาเที่ยวดินแดนแห่งนี้ ส่งให้ชื่อของดอยผาหมี รวมถึงร้านกาแฟดอยผาหมี เริ่มเป็นที่กล่าวขานถึงบนโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นับถึงปัจจุบัน เฉลี่ยกว่า 500 คนต่อวัน



ผกากานต์ เล่าต่อว่า จากช่วงเดือนแรกยอดขายของร้านกาแฟ แค่หลักร้อยบาทต่อวัน ถึงปัจจุบันถ้าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์หลักหมื่นบาทต่อวัน และที่สำคัญ ปลุกกระแสให้ชาวบ้านชุมชนดอยผาหมีตื่นตัวสนใจประกอบอาชีพรับการท่องเที่ยว อย่างร้านกาแฟ ปัจจุบัน เปิดเพิ่มรวมเป็น 7 ร้าน นอกจากนั้น ยังมีโฮมสเตย์เปิดอีก 3 แห่ง

ด้วยเป้าหมายจะสร้างแบรนด์กาแฟดอยผาหมีให้เป็นที่รู้จักของคนภายนอกให้มากยิ่งขึ้น ได้ต่อยอดธุรกิจ นำเมล็ดกาแฟคั่วบรรจุซอง เพื่อจะให้ลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้าน หรือเที่ยวดอยผาหมี ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก แต่อุปสรรคสำคัญ แม้ชุมชนดอยผาหมีจะเป็นแหล่งปลูกกาแฟมาหลายสิบปี แต่ที่ผ่านมา ในชุมชนกลับไม่มีเครื่องคั่วกาแฟเป็นของตัวเอง ชาวบ้านที่ต้องการคั่วกาแฟ ต้องเดินทางกว่า 30 กิโลเมตร เพื่อไปจ้างโรงคั่วนอกพื้นที่ ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม



ดังนั้นต้องการหาเงินทุนเพื่อมาซื้อเครื่องคั่วกาแฟประจำชุมชน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) นับเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่พาเข้าถึงแหล่งทุนสำเร็จ ด้วยโครงการ "สินเชื่อเถ้าแก่ 4.0" ดอกเบี้ย 1% จากกระทรวงอุตสาหกรรม วงเงิน 1 ล้านบาท โดย 4 แสนบาทนำไปเป็นทุนซื้อเครื่องคั่วกาแฟประจำชุมชน และอีก 6 แสนบาท เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนซื้อผลผลิตกาแฟจากชาวบ้าน



“เงินทุนนี้ก่อประโยชน์แก่ชาวบ้านผู้ปลูกกาแฟอย่างมาก เพราะไม่ต้องเดินทางไปจ้างโรงคั่วกาแฟนอกพื้นที่ ทำให้ลดต้นทุนการผลิต 10 บาทต่อกิโลกรัม อีกทั้ง รายจ่ายที่เดิมต้องไปจ้างคนภายนอกคั่วกาแฟให้กิโลกรัมละ 50 บาท จะกลับมาหมุนเวียนในชุมชนแทน” เธอระบุ


ผกากานต์ในฐานะผู้นำชุมชน ได้รวมกลุ่มผู้ประกอบการดอยผาหมี จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวดอยผาหมี เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวดอยผาหมีอย่างเป็นระบบ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ชาวชุมชนที่มีความพร้อมปรับปรุงบ้านพักเป็น “โฮมสเตย์” ที่มีมาตรฐานสูง รองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ตามการเติบโตของการท่องเที่ยวดอยผาหมีที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทุกขณะ


จากความมุ่งมั่นของผู้หญิงคนเดียว นำบ้านพักส่วนตัว เปิดร้านกาแฟแห่งแรกประจำชุมชน กลายเป็นหัวเชื้อสำคัญ จุดพลุผลักดันชุมชนดอยผาหมี ก้าวเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว



และในอนาคตหากแบรนด์กาแฟ “ดอยผาหมี” ได้รับนิยมของคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง เธอเชื่อว่า จะยิ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนแห่งนี้ให้เติบโตมากขึ้นไปอีก ก่อประโยชน์ให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ จูงใจลูกหลานดอยผาหมีที่เดินทางไปทำงานในเมือง จะเลือกกลับมาประกอบอาชีพที่บ้านเกิด และเมื่อถึงจุดนั้น เชื่อว่า จะยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวดอยผาหมีให้มีความสุขได้อย่างยั่งยืน



ติดต่อ โทร.089-449-7942 หรือ FB:กาแฟดอยผาหมี

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น