ICEชวนไมโครซอฟท์-สตาร์บัคส์ ผุดแพล็ตฟอร์มหนุนคริปโต

ICE ร่วมทีมไมโครซอฟท์, สตาร์บัคส์ และบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (บีซีจี) เปิดตัวแพล็ตฟอร์มใหม่สำหรับการซื้อ ขาย จัดเก็บ และใช้จ่ายสินทรัพย์สกุลดิจิตอล เช่น บิตคอยน์ บนเครือข่ายระดับโลกที่ราบรื่นปลอดภัย เพื่อชักชวนให้ผู้คนเปิดใจรับคริปโตมากขึ้น

อินเตอร์เนชันแนล เอ็กซ์เชนจ์ (ICE) เจ้าของตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) และผู้ดำเนินการหักบัญชี แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3) ว่าแพล็ตฟอร์มใหม่จะอิงกับเทคโนโลยีคลาวด์ของไมโครซอฟท์สำหรับระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิตอลที่ครอบคลุมตลาดที่ควบคุมโดยรัฐบาล และบริการหักบัญชี รวมถึงแอปพลิเคชันเพื่อผู้บริโภค โดยจะทำงานร่วมกับบริษัทหลายแห่ง เช่น สตาร์บัคส์ และบีซีจี เพื่อให้ลูกค้าสามารถเทรด จัดเก็บ และใช้จ่ายเงินดิจิตอลหรือคริปโตอย่างปลอดภัยไร้กังวล

ICE ไม่ได้ระบุฤกษ์ดำเนินการของบริษัทใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Bakkt แต่บอกว่า จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเร็วๆ นี้

แต่ก่อนถึงตอนนั้น ICE มีแผนเปิดตัวสัญญาซื้อขายบิตคอยน์ล่วงหน้าที่มีการส่งมอบและการหักบัญชีทางกายภาพผ่านตลาดหุ้นล่วงหน้าและสำนักหักบัญชีของตัวเองในนิวยอร์กในเดือนพฤศจิกายน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ของอเมริกา (CFTC)

แผนการเกี่ยวกับคริปโตของ ICE ครั้งนี้อาจมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดความสนใจของสถาบันการเงินดั้งเดิมมาสู่ตลาดเงินดิจิตอลที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งได้ไม่นาน

เจฟฟรีย์ สเปรเกอร์ ประธานบริหาร ICE บอกว่า การนำโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมต่อกันและมีการควบคุมมาผสานกับแอปพลิเคชันสินทรัพย์ดิจิตอลสำหรับสถาบันและผู้บริโภค มีเป้าหมายเพื่อสร้างความไว้วางใจในสินทรัพย์นี้ในระดับโลก

เคลลี เลฟเฟลอร์ ผู้บริหารอาวุโสของ ICE และภรรยาของสเปรเกอร์ ที่จะรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร Baakt บอกว่า แพล็ตฟอร์มนี้มุ่งส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และอรรถประโยชน์เพื่อดึงดูดสถาบัน ผู้ค้า และผู้บริโภคให้เปิดใจรับเงินดิจิตอลมากขึ้น

แผนการของ ICE มีขึ้นหลังจากที่ Cboe Global Markets บริษัทที่ให้บริการตลาดหลักทรัพย์คู่แข่งของแนสแด็ก และ CME Group ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายอนุพันธ์ชั้นนำของโลก  ร่วมกันเปิดตัวสัญญาซื้อขายบิตคอยน์ล่วงหน้าที่สามารถซื้อขายด้วยเงินสดได้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

ในระยะแรกแพล็ตฟอร์มใหม่ของ ICE จะใช้สำหรับการเทรดและการแปลงบิตคอยน์เป็นเงินกระดาษ (fiat currency) ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับคอยน์เบส หนึ่งในตลาดซื้อขายคริปโตใหญ่ที่สุดในอเมริกาที่ ICE เป็นนักลงทุนอยู่ด้วย

ICE หวังว่า การทำงานร่วมกับผู้ค้าเพื่อสร้างแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภคจะช่วยให้คริปโตได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะสกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ ไม่ใช่ดึงดูดความสนใจเฉพาะนักเก็งกำไรเท่านั้น

นักลงทุนใน Bakkt จะรวมถึงบริษัทในเครือฟอร์เทรสส์ อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ป, อีเกิล เซเว่น, แกแล็กซี่ ดิจิตอล, ฮอไรซัน เวนเจอร์ส, อลัน โฮเวิร์ด, แพนเทรา แคปิตอล, โปรโตคอล เวนเจอร์ส และซัสเควแฮนนา อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป

สำหรับสตาร์บัคส์นั้นแม้ไม่ได้ร่วมลงทุนด้วย แต่มาเรีย สมิธ รองประธานกรรมการ บอกว่า ในฐานะผู้ค้าปลีกระดับเรือธง สตาร์บัคส์จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้ได้จริง เชื่อถือได้ และมีการควบคุม เพื่อให้ผู้บริโภคแปลงสินทรัพย์ดิจิตอลเป็นเงินดอลลาร์และใช้ซื้อกาแฟสตาร์บัคส์

สมิธเสริมว่า ด้วยตำแหน่งผู้นำการชำระเงินบนมือถือสำหรับสมาชิกสตาร์บัคส์ รีวอร์ดส์ บริษัทเต็มใจอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินให้แก่ลูกค้า

เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของโลกแห่งนี้มีบทบาทโดดเด่นในการส่งเสริมการชำระเงินบนมือถือในอเมริกา โดยที่ผ่านมาเคยร่วมกับสแควร์ (ที่ยอมรับบิตคอยน์) และสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งประกาศแท็กทีมอาลีบาบาพัฒนานวัตกรรมการค้าปลีกในจีน

ดังนั้น การที่ ICE ดึงสตาร์บัคส์มาเป็นพันธมิตรครั้งนี้อาจช่วยผลักดันให้บิตคอยน์กลายเป็นระบบการชำระเงินหลักในหมู่ผู้บริโภคอเมริกัน เหมือนที่ฟอร์จูนตั้งข้อสังเกตไว้ว่า แพล็ตฟอร์มนี้อาจโน้มน้าวให้นักลงทุนที่เคยตั้งแง่กับความผันผวนรุนแรงของบิตคอยน์เปิดใจยอมรับเงินดิจิตอลมากขึ้น