xs
xsm
sm
md
lg

‘เดริส คอฟฟี่’ หวานจากน้ำตาลโตนด ส่งออกภูมิปัญญาไทย ไปตลาดสากล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


    Health & Beauty เป็นเมกะเทรนด์ที่ทำเงินได้ทั้งโลก หากรู้จักเชื่อมโยงสินค้าให้เข้าข่ายกินหรือใช้แล้วดีต่อสุขภาพ ดังเช่น ธวัชชัย และสาวิตตรี ซิ้มสมบูรณ์ แห่ง บริษัท เดริส คอฟฟี่ อินดัสทรี จำกัด ที่เลือกนำ ‘น้ำตาลโตนด’ วัตถุดิบที่หาได้ทางภาคใต้ของไทย มาใช้ให้ความหวานจากธรรมชาติ ทำให้กาแฟ ‘เดริส คอฟฟี่’ แตกต่างจากกาแฟทั่วไปในทันที
    15 ปีกับประสบการณ์ในการทำธุรกิจกาแฟ ผ่านมาแล้วทั้งการเปิดร้านกาแฟสด จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับธุรกิจกาแฟ เช่น เมล็ดกาแฟ เครื่องชงกาแฟ เครื่องบดกาแฟ ฯลฯ พร้อมรับผลิตกาแฟในรูปแบบ OEM อย่างครบวงจร วันนี้ธุรกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ทั้งคู่ก็อยากจะตอบแทนคืนสู่สังคม โดยเฉพาะชุมชนอันเป็นถิ่นฐานบ้านเกิด จึงมาดูว่าชุมชนของตนใน อ.จะนะ จ.สงขลา มีวัตถุดิบอะไรที่พอจะนำมาต่อยอดธุรกิจกาแฟได้ เพื่อหนุนให้ชาวบ้านมีรายได้ไปด้วย

    “ปรากฏว่าชุมชนของเรามีของดีที่น่าสนใจคือ น้ำตาลโตนด ในช่วงหน้าฝน ชาวบ้านไม่มีรายได้อะไร เพราะกรีดยางไม่ได้ ขึ้นตาลก็ไม่ได้ หากนำน้ำตาลโตนดมาต่อยอดใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนตลอดทั้งปี”
    ด้วยเหตุนี้ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ธวัชชัยและสาวิตตรีจึงลงทุนตั้งโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปขึ้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งวัตถุดิบโดยตรง โดยหวังต่อยอดภูมิปัญญาไทย เพื่อให้คนทั้งโลกได้รู้จักน้ำตาลโตนดมากขึ้น ซึ่งปกติแล้วมักนิยมนำน้ำตาลโตนดไปแปรรูปเป็นน้ำตาลปี๊บ แต่ทั้งคู่มีไอเดียว่าน่าจะทำเป็นน้ำตาลโตนดผง ผสมใส่ให้ความหวานในกาแฟได้
    “เมื่อลงมือทำ ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ด้วยน้ำตาลโตนดมีความชื้นค่อนข้างสูง และมีปัญหาเรื่องจับตัวเป็นก้อน เราจึงวิ่งหาสถาบันอาหารและมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อขอคำปรึกษา รวมทั้งทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน นอกจากจะแก้ปัญหาได้ เรายังสามารถพัฒนาน้ำตาลโตนดให้มีอายุการเก็บรักษาได้นานถึง 2 ปี”

     เมื่อนำมาผสมกับกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ซึ่งเด่นดังมากทางภาคใต้ ปรากฏว่าน้ำตาลโตนดช่วยให้กาแฟมีกลิ่นหอมเฉพาะ รสชาติกลมกล่อมโดนใจ ที่สำคัญคือดีต่อสุขภาพ เพราะน้ำตาลโตนดเป็นน้ำตาลที่มีกระบวนการผลิตแบบธรรมชาติ ไม่มีสารฟอกสี ไม่มีสารเคมีเจือปน ทั้งยังเป็นน้ำตาลที่มีค่า GI (Glycemic Index) ต่ำ มีคุณสมบัติในการซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ แตกต่างจากกาแฟในท้องตลาดที่ใช้ครีมเทียมและน้ำตาลทรายเป็นหลัก คนทั่วไปจึงดื่มได้ ขณะที่คนที่เป็นเบาหวานและความดัน ก็ยังดื่มดี
     ปัจจุบัน ‘เดริส คอฟฟี่’ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กาแฟที่ให้ความหวานจากน้ำตาลโตนด มาตอบโจทย์ผู้บริโภคที่นิยมดื่มกาแฟถึง 4 รสชาติด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น 1.กาแฟสูตรดั้งเดิม 3 in 1 2.กาแฟ Americano (Black Coffee) 2 in 1 3.กาแฟสูตรครีมถั่วเหลือง และ 4.กาแฟผสมเนื้อทุเรียน แต่ละรสชาติได้แรงบันดาลใจมาจากการเรียนรู้ตลาด ผ่านการทำ Market Test ทั้งในและต่างประเทศ แล้วพัฒนาเพิ่มเติมสูตรใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ

    “อย่างการทำ Market Test ที่จีน ทำให้เรารู้ว่าคนจีนชอบผลไม้ไทยมากๆ โดยเฉพาะทุเรียน เราเลยกลับมาผสมเนื้อทุเรียนใต้ พันธุ์หมอนทอง ลงไปในกาแฟของเรา โดยยังคงใช้ความหวานจากน้ำตาลโตนด ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของสินค้าอยู่เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมยิ่งทำให้กาแฟเดริส คอฟฟี่ โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่ง 90% ที่ได้ชิมกาแฟของเรา เป็นต้องซื้อทุกราย
    สินค้าที่ขายดีคือ กาแฟอเมริกาโน่ และกาแฟผสมเนื้อทุเรียน ที่ตอนแรกเราพัฒนาสินค้าตัวนี้ขึ้นมาเพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคคนจีน แต่ไปๆ มาๆ คนไทยก็พลอยชอบตามไปด้วย อีกอย่างด้วยความที่เป็นกาแฟสำเร็จรูป จึงฉีกซองชงได้โดยสะดวก ทั้งเมนูร้อน เมนูเย็น หรือจะดื่มกาแฟคู่กับไอศกรีมก็อร่อยดี รสชาติไม่เสีย”

    เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่สนใจได้ดื่มกาแฟน้ำตาลโตนดมากขึ้น ธวัชชัยและสาวิตตรีจึงเดินหน้าเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้หลากหลาย สำหรับในประเทศไทย สินค้ามีจำหน่ายแล้วทั้งทางออนไลน์ ผ่านเฟสบุ๊คและเว็บไซต์ของเดริส คอฟฟี่ หรือร้านค้าออนไลน์ชื่อดังอย่าง Lazada ขณะที่ช่องทางออฟไลน์นั้น จะวางจำหน่ายสินค้าตามห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรดชั้นนำ เช่น เดอะมอลล์ทุกสาขา สยามพารากอน และในปีนี้จะมีเพิ่มจุดวางอย่าง ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งร้าน Jiffy ในปั๊มน้ำมัน ปตท. กว่า 100 สาขา สะดวกช่องทางไหน ซื้อช่องทางนั้นได้เลย
    ส่วนตลาดต่างประเทศ ทั้งคู่มีแผนที่จะส่งออกภูมิปัญญาไทยออกสู่ตลาดโลก ตลาดที่แน่นอนแล้วคือ จีน และฟิลิปปินส์ ในปีนี้จะขยายตลาดอิมพอร์ตไปที่ฮ่องกง กวางโจว ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV และประเทศในแถบตะวันออกกลาง เป็นต้น ทีเด็ดอยู่ที่ตอนนี้กำลังเตรียมจะออกกาแฟน้ำตาลโตนดสูตรใหม่เพิ่ม โดยผสมผลไม้ไทยหรือผลไม้ที่คนทั้งโลกรู้จักลงไป เพื่อสร้างสรรค์รสชาติใหม่ๆ เอาใจคอกาแฟ อาทิ สตรอว์เบอรี่คอฟฟี่ บานาน่าคอฟฟี่ และแมงโก้คอฟฟี่ ทุกผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานการผลิตสากลรองรับเรียบร้อย ทั้ง GMP, CODEX และ HACCP

 สำเร็   จในวันนี้ นอกเหนือจากความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ย่อท้อ เป็นกำลังใจให้กันและกัน ยังมี บสย. อยู่เบื้องหลังในการค้ำประกันสินเชื่อใน ‘โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน ปรับปรุงใหม่’ จำนวน 2 สัญญา เมื่อปี 2560 ทำให้นักธุรกิจคู่ชีวิตมีเงินก้อนไปลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และเพิ่มโอกาสในการเติบโตที่รวดเร็วตามแผนที่วางเอาไว้ โดยทั้งคู่ตั้งเป้าไว้ว่าสิ่งที่ลงทุนไปทั้งหมดจะสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นในปีนี้ถึง 30%
    “อีกปัจจัยที่ทำให้เราประสบความสำเร็จคือ การพัฒนาตัวเองตลอดเวลา อยากจะฝากถึงเอสเอ็มอีว่า อย่าทำธุรกิจคนเดียว เราจะเหนื่อย ใช้เครื่องมือที่ภาครัฐมีอยู่ให้เกิดประโยชน์ มีปัญหาเรื่องอะไร ลองวิ่งปรึกษาหน่วยงานต่างๆ ดู ในทางกลับกัน คุณต้องแอคทีฟตัวเองก่อน อย่ารอความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเดียว เชื่อเถอะว่าเมื่อภาครัฐมาช่วยผลักดัน ในขณะที่เราก็เข้มแข็ง จะยิ่งเสริมให้ธุรกิจเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”

ติดต่อ : บริษัท เดริส คอฟฟี่ อินดัสทรี จำกัด โทร. 086-374-9216 เว็บไซต์ http://www.deriscoffee.com/ เฟสบุ๊ค https://web.facebook.com/deriscoffee/

บทความโดย: บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) (Link : www.tcg.or.th)


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *

SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น