นายกรัฐมนตรีร่วมเปิดงาน “Thailand Indudtry Expo 2018” จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน สถาบันการวิจัย และองค์กรระหว่างประเทศ ภายใต้แนวคิด “CHANGE to SHIFT” เปลี่ยนเพื่อปรับ ยกระดับอุตสาหกรรมไทย รองรับก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในพิธีเปิดงาน Thailand Industry Expo 2018 ว่า ประเทศไทยเดินทางมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในการพัฒนาประเทศให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าภายใต้โมเดลประเทศไทย 4.0 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศรายได้สูง ซึ่งตรงกับแนวคิดของการจัดงาน “CHANGE to SHIFT” เปลี่ยนเพื่อปรับยกระดับอุตสาหกรรมไทย โดยเชื่อมั่นว่าเอสเอ็มอี ที่มีอยู่ในประเทศไทยจะสามารถพัฒนาจาก Small & Medium Enterprise มาเป็น Smart Enterprise และจะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้เติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปแบบก้าวกระโดด รวมทั้งเกิดการกระจายรายได้ไปตามหัวเมืองต่างๆและ ความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งเป็นแรงขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0 ได้อย่างมั่นคง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ฝากไปถึงหน่วยงานต่าง ต้องช่วยกันปรับปรุงสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ต้องช่วยกันเติมเต็มให้ภาคอุตสาหกรรม สามารถขับเคลื่อน และดำรงอยู่ได้ เพื่อเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต้องช่วยกันดูแลปัญหาแรงงาน แก้ไขปัญหาคนตกงานอันเกิดมาจากการเข้ามาทดแทนของเครื่องจักร ซึ่งเกิดมาจาก โมเดล 4.0 พัฒนาเครื่องจักร ดิจิทัล ก็ต้องทำควบคู่กันไป กับการแก้ปัญหาแรงงาน และคนตกงาน เพิ่มทักษะ และพัฒนาแรงงาน
สำหรับการจัดงาน Thailand Industry Expo 2018 แบ่งพื้นที่ไว้ตามโซนต่างๆ ได้แก่
1. โซน Royal Pavilion เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐
2 . โซนนิทรรศการกระทรวงอุตสาหกรรม (Dialogue of Industry Shifr 4.0) นำเสนอทิศทางของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโลก ประเด็นสำคัญและปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเชื่อมโยงสู่การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทย
3. โซน Global & SME Innovation Showcase การนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่มีนวัตกรรมระดับโลก และบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งการจัดเวทีให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่
3.1 Agro-Inno SHIFT เน้นอุตสาหกรรม กลุ่มอาหาร กลุ่มเกษตรแปรรูป และกลุ่มฐานชีวภาพ
3.2 Manufacture-Inno SHIFT เน้นอุตสาหกรรมกลุ่มยานยนต์ กลุ่มหุ่นยนต์ กลุ่มดิจิทัล และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม 4.0
3.3 Service-Inno-SHIFT เน้นอุตสาหกรรมกลุ่มการแพทย์ กลุ่มบริการทางการเงิน กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มบริการ และกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
4.โซน Business Matching กิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการญี่ปุ่นจากเมืองต่างๆ ที่มีการบันทึกลงนามความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเปิดโอกาสทางการตลาดระหว่างผู้ประกอบการไทยด้วยกันเองและผู้ประกอบการต่างประเทศ ภายใต้โครงการ Digital Value Chain
5. โซน University & Maker Club เพื่อแสดงบทบาทของมหาวิทยาลัยยุคใหม่กับการ Transform ภาคธุรกิจและอุคสาหกรรม แสดงผลงานวิจัยและพัฒนาเชิงเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์ การพัฒนากำลังคนคุณภาพเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งพื้นที่ Maker Club นำเสนอนวัตกรรมที่เป็นผลงานของเมกเกอร์จากทั่วประเทศที่มีศักยภาพทางการตลาด และแสดงความก้าวหน้าของเมกเกอร์ไทยในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้การพัฒนาประเทศสู่ "Thailand 4.0"
6. โซน Premium Outlet การคัดสินค้าและบริการคุณภาพมาตรฐานสากลจากผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศมาจัดแสดงเพื่อเปิดโอกาสและขยายช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพ
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีสถาบันการเงินมานำเสนอแพคเกจส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ลดข้อจำกัด หลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขบางประการ เพื่อให้สะดวกต่อการพัฒนาธุรกิจ รวมทั้งการจัดกิจกรรมสัมมนาในหัวข้อที่น่าสนใจ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการละผู้ที่สนใจ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรภาครัฐและเอกชนกว่า 40 หัวข้อ