กระแสรักษ์โลกเริ่มเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของผู้คนมากขึ้นทุกที เห็นได้ชัดจากองค์กรใหญ่เริ่มลดการใช้ถุงพลาสติกหันมารณรงค์ใช้ถุงผ้าแทน จึงถือเป็นโอกาสอันดีเจ้าของธุรกิจ ReReef จะร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านสินค้ารักษ์โลกและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมาเป็นอันดับหนึ่ง
จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้มาจาก “เพชร มโนปวิตร และ “กรณิศ ตันอังสนากุล” ทำงานเกี่ยวข้องกับความยั่งยืนทำให้เห็นถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนในอนาคตจึงคิดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและแนวคิดของผู้คนพวกเขาเริ่มจากการเขียนบทความให้ความรู้เรื่องครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่ส่งผลกระทบต่อ การเติบโตของปะการังซึ่งบทความดังกล่าวเมื่อได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียลก็ทำให้มีคนใช้ออกไปมากมายแต่เขากลับพบว่าบทความนี้ทำให้คน 'ตระหนักรู้' แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้คน 'เปลี่ยน' มาใช้ครีมกันแดดที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งที่ในตลาดเมืองไทยยังไม่มีใครผลิต
จากแนวคิดนี้เองทำให้พวกเขาคิดพัฒนาครีมกันแดดที่ผลิตโดยคนไทยในราคาที่เอื้อมถึงจากเดิมที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศและมีราคาค่อนข้างสูงซึ่งต้องใช้เวลาในการคิดค้นระยะหนึ่ง จนได้ครีมกันแดดปราศจากสารฟอกขาวและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมขายในราคาประมาณ 500 บาท ขนาด 89 กรัม
ครีมกันแดดรักษ์โลก เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของไอเดียธุรกิจสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมเพราะในช่วงที่คิดค้นและลองผิดลองถูกสำหรับการผลิตครีมกันแดดนั้นทำให้พวกเขาใช้ช่วงเวลาดังกล่าวผลิตสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น หลอดทางเลือก หวังให้ผู้คนลดการใช้พลาสติก ซึ่งหลอดแม้หลายคนจะมองว่าเป็นขยะชิ้นเล็ก ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแต่ในความเป็นจริง ด้วยความที่หลอดมีขนาดเล็กจัดเก็บยาก จึงไม่ถูกนำมารีไซเคิล ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็นข่าวของสัตว์เล็กกลืนกินหลอดพลาสติกเข้าไป ดังนั้นพวกเขาจึงผลิต หลอดซิลิโคน หลอดสแตนเลส และหลอดแก้ว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้คนได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
“การที่เราจะทำให้ผู้คนหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเราก็ต้องมีตัวเลือกให้พวกเขาด้วย บางครั้งผู้คนอยากเปลี่ยนแต่กลับไม่มีสินค้าที่ตอบโจทย์ ดังนั้น ReReef จึงนำโจทย์ดังกล่าวมารังสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกให้ผู้บริโภคซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา แต่ขณะเดียวกันปัญหาและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก็ใกล้ตัวเข้ามาทุกทีทำให้ผลิตภัณฑ์ ReReef เริ่มเข้าไปมีบทบาทในชีวิตของผู้คนมากขึ้น”
เมื่อวางตำแหน่งแบรนด์ ReReef เป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมทำให้ การคิดออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการลดใช้ถุงพลาสติก โดยได้นำถุงผ้าและถุงตาข่าย มาใช้ในการบรรจุผักและผลไม้เพื่อนำไปชั่งแทนการใช้ถุงพลาสติก และล่าสุดได้มีผลิตภัณฑ์ “ถุงซิลิโคน” แบบมีซิปล็อค สามารถใช้ซ้ำได้และน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้แทนถุงพลาสติก เนื่องจากถุงซิลิโคนสามารถบรรจุเนื้อสัตว์ได้และพกพาสะดวกขายกล่องพลาสติก รวมถึงยังบรรจุอาหารร้อนได้ ขณะที่การทำความสะอาดก็เหมือนภาชนะทั่วไป ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเพราะสามารถแช่ด้วยเบ็คกิ้งโซดาได้แถมมีอายุการใช้งานหลายปี โดยจำหน่ายในราคา 179 บาท/ใบ
"แม้หลายๆ คนอาจพกพาถุงผ้าเป็นประจำอยู่แล้ว แต่มักจะปฏิเสธไม่รับถุงพลาสติกได้ยากเมื่อถึงคราวต้องจับจ่ายของสดโดยเฉพาะผัก ผลไม้ พวกที่เป็นลูกๆ ทั้งเล็กทั้งใหญ่ แม่บ้าน พ่อบ้านที่จ่ายตลาดจะรู้ปัญหานี้เป็นอย่างดี แม้แต่การจับจ่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ต เราก็ยังต้องนำผักผลไม้ไปใส่ถุงพลาสติกเพื่อนำไปชั่ง ทำให้หลีกเลี่ยงการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งได้ยาก ยิ่งซื้อผักผลไม้หลายๆ ชนิด ถุงพลาสติกยิ่งมาเต็ม 'ReReef eco-cotton mesh bag' ถุงตาข่ายจ่ายตลาด จึงเกิดขึ้นทำจากผ้าฝ้าย ซักได้ แห้งเร็ว ขนาดเล็กเหมาะแก่การพกพา เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดการใช้ถุงพลาสติกได้อย่างจริงจัง เพียงแค่พกไว้ในถุงผ้า เพียงเท่านี้การจ่ายตลาด ซื้อผักผลไม้ครั้งต่อไป ก็จะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกไปได้มากทีเดียว ราคาเริ่มต้นที่ 74 บาท/ใบ"
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์รักษ์โลกอื่นๆ ที่ผู้คนใช้ในชีวิตประจำวัน อย่าง แปรงสีฟันที่ทำจากไม้ไผ่แทนการใช้ด้ามพลาสติก คอตตอนบัดด้ามไม้ไผ่ และคาดว่าในเร็วๆ นี้จะผลิต สบู่ แชมพู โลชั่นและน้ำยาชำระล้างต่างๆ ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและแหล่งน้ำสาธารณะ
“บางครั้งสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ก็สามารถทำลายสิ่งแวดล้อมได้โดยที่เราไม่รู้ตัว อย่าง แปรงสีฟัน ด้ามจับเป็นพลาสติกย่อยสลายยาก ดังนั้นเราเลยลองทำแปรงสีฟันจากไม้ไผ่ ที่หัวแปลงและด้ามทำจากไม้ไผ่ ซึ่งข้อดีของไผ่คือ มีความเป็นธรรมชาติ เป็นพืชโตเร็ว ปลูกโดยไม่ต้องใช้สารเคมี ซึ่งที่ผ่านมาคนเริ่มรู้จักมากขึ้น แต่ไม่มากนัก จากการทีเรายังไม่ค่อยโปรโมท แต่หากได้รับความนิยมมากขึ้น ก็จะเข้าไปทำงานร่วมกับชุมชนผู้ปลูกไผ่ แทนการนำเข้าจากประเทศจีน ส่วนคอตตอนบัดก้านไม้ไผ่ก็เช่นเดียวกัน”
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ReReef มีจำหน่ายทางออนไลน์ และออฟไลน์ ตามร้านค้าที่เน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมกระจายอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ภูเก็ต ปัตตานี ตรัง กระบี่ รวมถึงยังมีโรงแรมที่มัลดีฟ หลายแห่งได้นำครีมกันแดดไปจำหน่ายแทนครีมกันแดดเดิม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของโรงแรมที่มีความตระหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
อย่างไรก็ตามพวกเขาเชื่อว่าการจะเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนนั้นเป็นเรื่องยาก แต่หากได้ตระหนักรู้แล้วผู้คนก็พร้อมจะเปลี่ยนดังนั้นการเปลี่ยนพฤติกรรมจะง่ายขึ้นจึงต้องมีผลิตภัณฑ์รองรับที่ตอบโจทย์ในเชิงฟังก์ชันและราคาที่เหมาะสมซึ่ง ReReef ขอเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ให้คนไทยหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ติดต่อ Facebook : ReReef , Instagram : @re4reef
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *