xs
xsm
sm
md
lg

จองก่อนจอดกับ “P2GO” แอพฯจองที่จอดรถตอบโจทย์ยุค 4.0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิราม สีตกะลิน กรรมการผู้จัดการบริษัท ปาร์คทูโก จำกัด
เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านทางมือถือได้หมดแล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งการหาที่จอดรถก็สามารถทำได้เช่นกันโดยผ่านแอปพลิเคชั่น “P2GO” ไม่ต้องใช้เวลาในการวนหาที่จอดรถ เป็นชั่วโมง ไม่ต้องสร้างปัญหารถติดหรือการสิ้นเปลืองพลังงานอีกด้วย

นายอภิราม สีตกะลิน กรรมการผู้จัดการบริษัท ปาร์คทูโก จำกัด
นายอภิราม สีตกะลิน กรรมการผู้จัดการบริษัท ปาร์คทูโก จำกัด เล่าว่า การทำธุรกิจ ก็เริ่มต้นมาจากวงการรถยนต์ และเห็นปัญหาว่ามูลค่าของที่ดินมีจำนวนสูงขึ้น จำนวนรถในกรุงเทพก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงตั้งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาทางด้านที่จอดรถ คือ “บริษัท ปาร์คพลัส จำกัด” เพื่อที่จะทำ “Parking Solution Provider” เพื่อแก้ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ หลังจากแก้ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอแล้ว ก็เกิดปัญหาเรื่องการจัดการตามมา จึงจัดตั้งบริษัทแยกออกมา เป็นการก้าวมาจากบริษัทวิศวกรรม มาเป็นบริษัทซอฟท์แวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ จึงทำเป็นแอปพลิเคชัน “P2GO” (ปาร์คทูโก)

สำหรับ แอปพลิเคชัน “ปาร์คทูโก” เป็นแอปฯ ที่เข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาในการจัดการที่จอดรถ และช่วยให้ผู้ใช้งานได้วางแผนในการเดินทางได้ และไม่เสียเวลาในการเดินทาง สำหรับ ฟังก์ชันล่าสุดในแอปฯ ที่เปิดตัวได้ไม่นาน และรองรับต่อความต้องการของผู้ใช้รถอย่างแท้จริงคือ ‘จองก่อนจอด’ เป็นการเปิดจับจองที่จอดรถ อย่างเช่นในห้างสรรพสินค้าจะมีช่วงเวลาที่ลานจอดรถเต็มและตรงกับตอนที่ต้องการจอด หรือกว่าจะเสียเวลาในการวนเพื่อหาที่จอดรถก็คงจะใช้เวลามากเกินความจำเป็น

จึงเกิดเป็นฟังก์ชันนี้ขึ้นมา หรือแม้แต่บริการพื้นที่จอดพิเศษของสมาชิกร้านต่างๆ พื้นที่จอดสำหรับรถซุปเปอร์คาร์ ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะมีที่ว่าง เพราะบริการนี้ไม่มีสำรองล่วงหน้า แต่สำหรับ “ปาร์คทูโก” อย่างไรก็ได้พื้นที่จอดเพราะเป็นบริการจองล่วงหน้า และส่วนของการชำระค่าใช้จ่ายก็จ่ายตามการใช้บริการจริง ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกพรีเมียม หรือรายเดือน สำหรับส่วนนี้ทั้งเจ้าของพื้นที่จอด และลูกค้าก็ได้รับประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย


ส่วนฟังก์ชันต่อมา คือ ‘เชื่อมที่จอดรถที่มีอยู่ในปัจจุบันเข้ากับผู้ขับขี่’ หลายคนอาจจะเคยเห็น หน้าทางเข้าลานจอดรถจะมีบอร์ดบอกสถานะของที่จอดรถว่าในแต่ละชั้นมีพื้นที่ว่างในการจอดรถจำนวนเท่าไหร่ เป็นข้อมูลตัวเลขแสดงผลผ่านทางหน้าจอ


แอปฯ “ปาร์คทูโก” จึงนำข้อมูลออฟไลน์จากบอร์ดแสดงผลมาให้ผู้ใช้งานเห็นในระบบออนไลน์ เพื่อความสะดวก และง่ายต่อการวางแผนในการเดินทาง รวมถึงมีแถบสีแสดงสถานะ สีเขียวคือว่าง สีเหลืองคือเกือบเต็ม และสีแดงคือที่จอดรถเต็มแล้ว นอกจากจะมีแถบสถานะลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าบอกแล้ว ยังมีข้อมูลในส่วนที่จอดรถตามสถานที่ต่างๆ สถานที่ตั้ง ค่าบริการต่อชั่วโมง เวลาเปิด-ปิด รวมถึงบอกบริการที่อยู่โดยรอบลานจอด เช่น ห้องน้ำ บริการล้างรถ และที่ชาร์จไฟ เป็นต้น







“ข้อมูลในบอร์ดทางเข้านั้น จะเรียกว่าข้อมูล ‘Nice to know’ คือเป็นข้อมูลที่ดีในการบอกให้ทราบเพียงแต่ว่าอยู่ผิดที่ บางทีลูกค้าก็อาจจะไม่อยากรู้ว่าเหลือที่ว่างเท่าไหร่ เต็มหรือไม่ แต่ลูกค้าอยากรู้ว่าสถานที่ ที่กำลังจะเดินทางไปมีที่ว่างให้จอดได้ 100% ไหม สมมติว่าจะเดินทางไปยังที่หนึ่ง ก็สามารถเปิดดูได้ว่ามีที่จอดรถไหม ถ้าที่จอดรถเต็มก็สามารถว่างแผนในการเดินทางใหม่ได้ ข้อมูลในส่วนนี้จะทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังประหยัดเวลาอีกด้วย”

สำหรับฟังก์ชันสุดท้าย ‘Sharing Economy’ จะเป็นการเชื่อมต่อกับที่จอดรถส่วนบุคคล และนิติบุคคล เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ในที่จอดรถนำที่จอดมาสร้างรายได้ ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน เช่นช่วงเวลาที่ออกไปทำงานในตอนเช้าถึงเย็น พื้นที่ในการจอดรถที่ว่าง ก็สามารถนำมาร่วมกับ “ปาร์คทูโก” เพื่อนำพื้นที่เข้าระบบและเปิดเป็นที่จอดรถได้ และเชื่อมต่อกับคนที่ต้องการสถานที่จอดรถสามารถนำรถมาจอดได้ สำหรับบุคคล, นิติบุคคล ต้องการสร้างรายได้เพิ่มเติม ก็สามารถร่วมกับ “ปาร์คทูโก” ได้เช่นกัน

อีกทั้ง “ปาร์คทูโก” เปิดโอกาสให้สำหรับบุคคล, นิติบุคคล ที่มีที่ดินยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือที่จอดรถที่ไม่ได้ใช้งานมาร่วมลงทุนกับ “ปาร์คทูโก” โดยการเข้าไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ park2go.co.th เพื่อให้ทาง “ปาร์คทูโก” ตรวจสอบความปลอดภัย และสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ด้วยเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อย และสามารถลดการคอรัปชั่นได้อีกด้วยเพราะว่า แอปฯ “ปาร์คทูโก” สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิต, พร้อมเพย์ หรือไลน์เพย์ ได้หลายช่องทาง เป็นการตัดปัญหาเรื่องนี้ได้

แอปฯ “ปาร์คทูโก” นอกจากจะเป็นแอปฯ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานแล้ว ยังสามารถช่วยให้ประหยัดพลังงานไปได้อีกด้วย คิดเฉพาะสัดส่วนภายในกรุงเทพฯ มีรถอยู่ประมาณ 10 ล้านคัน ประเทศไทยใช้พลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงโดยประมาณ 5.4 พันล้านบาท สำหรับการวนหาที่จอดรถโดยเฉพาะ และในแต่ละปี สร้างไอเสียมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 2.76 แสนตัน

ซึ่งหากผู้ใช้รถในกรุงเทพฯ ใช้แอปฯ “ปาร์คทูโก” ในการวางแผนการเดินทางเพียงแค่ 10% ของประชากรรถยนต์ ประเทศจะประหยัดค่าน้ำมันไปได้ และลดไอเสียได้ 2.76 หมื่นตัน/ปี ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

“ในหนึ่งปีเราเสียค่าน้ำมันไปแล้วประมาณ 5.4 พันล้านบาท แต่ถ้าทุกคนในกรุงเทพฯ หันมาลองใช้ แอปฯ “ปาร์คทูโก” เพียงแค่ 10% ก็จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก ลองคิดดูว่า 5.4 พันล้านบาทสามารถสร้างสวนสาธารณะได้ รวมทั้งสร้างประโยชน์ต่อสังคมได้มากมาย”

ด้านผลตอบรับของ “ปาร์คทูโก” ตอนนี้ยอดดาวน์โหลดจากทั้งระบบแอนดรอยด์ (Android) และไอโอเอส (ios) 10,000 ดาวน์โหลด และมีแอคทีฟยูสเซอร์อยู่ครึ่งหนึ่งของยอดดาวน์โหลด แต่มียอดเติบโตเกือบๆ 2 เท่าทุกเดือนรวมถึงแอคทีฟยูสเซอร์ และผลตอบรับจากแฟนเพจเฟซบุ๊กได้ส่งข้อความเข้ามาบอกความต้องการที่อยากจะให้ขยายออกไปในสถานที่ต่างๆ

ส่วนในอนาคต แอปฯ “ปาร์คทูโก” คาดหวังว่าจะให้ผู้ใช้งานได้ใช้ฟรี ให้เป็นเหมือน Google หรือ Youtube เพื่อที่จะอำนวยความสะดวก และต้องการจะให้เข้าถึงทุกคน ไม่เพียงแต่ในประเทศเท่านั้น แต่ต้องการขยายออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย

สนใจติดต่อ ..
เฟซบุ๊ก : Park2go
อินสตาแกรม : Park2go_Thailand
www.Park2go.co.th
Line@ : @Park2go
โทร : 09-0959-5814
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น