xs
xsm
sm
md
lg

“น้าเน็ก” เปิดตัวอย่างเริ่ด...ธุรกิจอาหารครั้งแรก “เนื้อทอดเทวดา” รายได้เฉียดหลักแสนต่อวัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา  (น้าเน็ก) เจ้าของ
วันนี้ ดารา ต่างพาเหรด กันทำธุรกิจ และธุรกิจอาหาร เป็นสิ่งที่ดาราอยากทำ รวมถึง พิธีกรชื่อดัง อย่าง น้าเน็ก “นายเกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา” ที่หลงใหลเนื้อทอดของผู้ประกอบรายหนึ่ง ที่มีชื่อแบรนด์ว่า “ เนื้อทอดเทวดา” จนขอเข้าไปเป็นหุ้นส่วน และเป็นที่มาของการทำธุรกิจอาหารครั้งแรกของ “น้าเน็ก” พิธีกรฝีปากกล้า

ต้องบอกว่า เนื้อทอดเทวดา รายนี้ คงไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะที่ผ่านมา "น้าเน็ก" ไม่เคยยอมร่วมทุนหรือ ทำธุรกิจอะไรกับใครมาก่อน แม้ว่าจะมี ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมความงาม อย่าง ยาปลูกผม ปลูกหนวด มาให้รีวิวสินค้า หรือ รวมลงทุน น้าเน็กบอกปฏิเสธไปทุกครั้ง เพราะโดยส่วนตัวเขาไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบของผู้ขายสินค้าเหล่านั้น ต้นทุนเพียงไม่กี่บาท แต่ขายกันแพงมาก

"น้าเน็ก" เล่าถึงที่มา ธุรกิจเนื้อทอดเทวดา ว่า ไม่ได้ทำเล่น จดทะเบียนเป็นบริษัท โดยเข้าไปร่วมลงทุนกับ “คุณสยาม มณีวงศ์” เจ้าของเนื้อทอดเทวดา เดิม คุณสยามทำเนื้อทอดแดดเดียว วางขายอยู่ในวิลล่ามาร์เก็ต การเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ เกิดขึ้นมาจาก ผมได้มีโอกาสชิมเนื้อทอด ของคุณสยาม และชื่นชอบมาก ขนาดต้องสั่งมากินวันละ 5-10 กระปุก

จน "คุณสยาม" เจ้าของเนื้อทอด ถามว่า ถ้าชอบขนาดนี้ มาร่วมลงทุนกันเลยดีไหม ซึ่งตอนนั้น คุณสยามเองก็อยากขยายกิจการ แต่เขาไม่ถนัดเรื่องการตลาด การบริหารจัดการ โดยส่วนตัวผมอยากจะมีธุรกิจอะไรสักอย่างไม่ใช่ รายการโทรทัศน์ แบบที่เราทำกว่า 25 ปี แม้ว่าจะเป็นงานที่เรารัก แต่บางครั้งทำมานานก็รู้สึกเบื่อบ้าง และธุรกิจเนื้อทอดเป็นธุรกิจอาหารที่สำคัญเป็นอาหารที่เราชอบ การชักจูงของคุณสยาม ครั้งนี้ ผมตัดสินใจได้ไม่ยากเลย โดยผมเข้าร่วมถือหุ้นกับคุณสยาม ในสัดส่วน 50%

"น้าเน็ก" เล่าถึง ครั้งแรกที่เขาได้ชิมเนื้อทอดเทวดา มาจากเพื่อน ชื่อ คุณนิติพัฒน์ สุขสวย ผู้ก่อตั้ง the standard นำเนื้อทอดแดดเดียวกรอบๆ มาให้ลองชิม ตอนนั้นรู้สึกว่าอร่อยมาก ขนาดผมเอ่ยปากกับเพื่อนว่า “ถ้าไม่อร่อยให้เตะ” เลยทีเดียว ตอนนั้นผมสั่งมากินเกือบทุกวัน วันละ 5-10 กระปุก เรียกว่า ว่างเมื่อไหร่ เป็นต้องกินเนื้อทอด กินกับอาหารมื้อหลัก กินเป็นกับแกล้ม
สำหรับการร่วมทุนทำเนื้อทอด ของน้าเน็ก ในครั้งนี้ จดทะเบียนในรูปแบบของบริษัท น้าเน็ก บอกว่า เขาเข้าไปดูทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการขยายโรงงาน วางแผนการผลิต เพราะเดิม คุณสยาม ทำธุรกิจเล็ก ขายวันหนึ่ง 50-60 กระปุก ปรับเรื่องของแพคเกจจิ้ง เดิมฟอยท์หนาแกะอย่าง ทำฟอยที่ห่อเนื้อบางลง เพื่อให้แกะง่ายขึ้น

แต่ในส่วนของการผลิต ไม่ได้ปรับอะไรมาก เพราะต้องการให้คงคุณภาพ และรสชาติ ที่เป็นแบบดั้งเดิม ที่อร่อยอยู่แล้ว ถ้าต้องปรับ โดยนำ เครื่องจักร หรือ อุปกรณ์อะไรเข้ามาช่วย เกรงว่าเสน่ห์ตรงนี้จะหายไป และรสชาติจะไม่เหมือนเดิม ซึ่งการใช้คนทอดในกระทะเป็นงานคาร์ฟ ที่อยากจะนำอะไรมาแทนได้ และเป็นเทคนิค รู้ว่าต้องทอดอย่างไร ให้ได้เนื้อทอดที่อร่อย ดังนั้น แม้ว่ายอดขายของเราจะเพิ่มขึ้นมาก ถ้าเรายังหาเทคนิคการทอดที่เหมือนกับแรงงานคนไม่ได้ ก็ยังคงใช้คนทอดแบบนี้ และในใจ ยังอยากจะให้เนื้อทอดเทวดาของเรายังคงเสน่ห์งานคาร์ฟแบบนี้ตลอดไป

น้าเน็กล่าถึงยอดขาย หลังจากเข้ามาทำตลาด “เนื้อทอดเทวดา” ว่า เป็นธุรกิจอาหารที่ผมภาคภูมิใจมาก เพราะเป็นสิ่งใหม่ที่ผม และทีมงานของเราก็ไม่เคยทำมาก่อน พวกเราร่วมลงมือทำกับ คุณสยาม เกือบทุกขั้นตอน โดยเฉพาะเรื่องการตลาด ตอนแรกอาศัยเพื่อนที่รู้จัก ให้เขาลองชิม และชอบก็ซื้อกิน มีการพูดถึงในรายการ มีเพื่อนในวงการบันเทิง ช่วยแนะนำ และรีวิวผ่านทางออนไลน์ ตอนแรก ก็ต้องยอมรับว่า ได้แฟนคลับ และเพื่อนในวงการบันเทิง ช่วยกันซื้อ และเขาชอบ ก็สั่งซื้อเพิ่ม ต้องยอมรับว่าโชคดีที่มีช่องทางออนไลน์ ช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้เร็วและสะดวก

ในส่วนช่องทางหลัก มีการเจรจา กับทางวิลล่า ขอพื้นที่วางเห็นได้ชัดและนำสินค้าไปวางขายเพิ่ม ยอดขายในวิลล่าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีวางขายในฟู้ดแลนด์ และที่กำลังจะเริ่มวางขาย คือที่ ริมปิง ซุปเปอร์สโตร์ที่เชียงใหม่ อีก 3 สาขา ซึ่งพอถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบ 3 เดือน ยอดขายเนื้อทอดเทวดา เพิ่มขึ้นตลอดถึงวันนี้มียอดขายมากถึงวันละ เกือบ500 กระปุก และเป็นยอดขายท่ี่เต็มกำลังการผลิตของเราอยู่ ถ้าต่อไปมียอดขายเพิ่มขี้น เราคงต้องวางแผนการผลิตกันใหม่

ด้วยชื่อเสียงที่ผมสั่งสมมา ถ้าจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ต้องดีจริง จะไม่เอาชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือมาหลอก อย่าง เนื้อทอด ผมกินแล้ว ให้เพื่อนกิน ให้คนในครอบครัว ให้คนที่กินเนื้อลองชิม ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย แม่ผมกินเขาบอกว่าอร่อย ผมยิ่งมั่นใจ ว่าธุรกิจนี้ ต้องเดินไปได้ ซึ่งถ้าเมื่อเทียบรายได้ กับการทำงานพิธีกร รายการทีวี รายได้มันเทียบกันไม่ได้เลยตอนนี้ เพราะวันหนึ่งผมทำคนเดียว มีต้นทุนคือ ตัวผมคนเดียว รายได้วันละ 1 แสน ถึง 4 แสนบาท ในขณะที่ผมขายเนื้อทอด มีต้นทุนทุกอย่าง ไม่ว่าจะวัตถุดิบเลือกเนื้อคุณภาพดี ยังมีค่าแรง ค่าการตลาด รายละเอียดเยอะมาก ผมขอบอกเลยว่า ธุรกิจนี้กำไรไม่เยอะ แต่สิ่งที่ผมเชื่อมั่น คือ ธุรกิจอาหารมันเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคตได้อย่างแน่นอน

สำหรับจุดเด่น “เนื้อทอดเทวดา” น้าเน็ก บอกว่า ใช้เนื้อคุณภาพพรีเมี่ยมหั่นเป็นชิ้นยาวๆ หมักเครื่องปรุงนาน 2 วัน ทอดลงในน้ำมันดีๆ ใช้เวลาทอดครึ่งชั่วโมง ทอดเสร็จผึ่งลมให้แห้ง เก็บในถุงแบบฟอยล์ อัดก๊าซไนโตรเจน เก็บได้นาน 8 เดือน ซึ่งเนื้อวัว 1 กิโลกรัม หลังจากทอดแล้วจะเหลือเพียง 300 กรัมเท่านั้น ใส่กระปุกได้ 3 กระปุก ในราคา กะปุกละ 180 บาท ซึ่งน้าเน็กบอกว่า ธุรกิจนี้กำไรไม่เยอะ

ด้านการแข่งขันธุรกิจ พิธีกรฝีปากกล้า บอกว่า ธุรกิจอาหารแข่งขันสูง แต่บนการแข่งขันนี้ มั่นใจว่ายังไม่มีคู่แข่งที่ทำเนื้อทอดลักษณะนี้ออกมาวางขาย หากมีของเลียนแบบก็เชื่อว่าไม่มีใครสามารถเลียนแบบรสชาติได้ ในอนาคต ฝันว่าถ้ามีช่องทางก็จะผลักดันให้สามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศ อาจจะดูประเทศแถบเพื่อนบ้านก่อน เมื่อนั้น ต้องพร้อมในเรื่องกำลังการผลิตด้วย

สนใจ fb: Tewadabeef และ เนื้อทอดเทวดา by น้าเน็ก

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น