“มิดไนท์อะโกโก้” ร้านเครื่องดื่มโกโก้ ที่ไม่ธรรมดา กว่าจะดื่มเครื่องดื่มโกโก้ ร้านนี้ได้คุณต้องผ่านกฎกติกา จนได้ฉายาว่า “ร้านโกโก้กฎเยอะ” ซึ่งที่มาของกฎกติกาต่างๆ ของร้านแห่งนี้ เกิดขึ้นมาจากผู้หญิงคนนี้ “ทิสลักษณ์ คำงาม” ซึ่งเธอปฏิเสธว่า ไม่ใช่กฎกติกาอะไร แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้รับบริการแบบที่ดีที่สุดที่ทางร้านจะให้บริการได้
ครั้งนี้ หลายคนคงจะพอได้รู้จักกับร้านนี้ กันมาบ้างแล้ว จากการแชร์ต่อๆ กัน ซึ่งมากถึงหลักล้านครั้ง และที่มาของ การแชร์กันมากขนาด เกิดขึ้นมาจาก เรื่องราวหลายเรื่อง ประกอบขึ้นมาจนเป็นร้านมิดไนท์อะโกโก้แห่งนี้ มาฟัง เรื่องราวของร้านมิดไนท์อะโกโก้ ผ่านการบอกเล่าของเจ้าของร้าน “ทิสลักษณ์ ” เล่าว่า เปิดร้านแห่งนี้มาได้ประมาณ 2 ปี ที่มาของร้านนี้ เกิดขึ้นมาจาก โดยส่วนตัว ชื่นชอบการดื่มโกโก้ ซึ่งแต่ละร้านมีความแตกต่างกัน บางร้านหวานไป บางร้านก็ขมไป
“ไม่ใช่ว่าร้านเหล่านั้นไม่อร่อย แต่ด้วยความที่ชื่นชอบเครื่องดื่มโกโก้ที่เป็นแบบของเรา บางครั้งต้องชงดื่มเองบ้าง ซึ่งลองชงหลายแบบจนลงตัว รู้สึกว่า ชอบรสชาติแบบนี้ (เธอชงดื่มกว่า 1 ปีก่อนเปิดร้าน) แต่ไม่อยากดื่มคนเดียว ก็เลยเปิดร้านขึ้นมาเหมือนชวนเพื่อนมาดื่มด้วยกัน แต่ไม่คาดคิดตรงที่ว่า มีคนชอบโกโก้ ในแบบของเรา จนเมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย และก็เป็นที่มาของกฎกติกา เพิ่มความสะดวกในการบริการ"
ก่อนอื่นมารู้จักกฎกติกา ของร้านมิดไนท์อะโกโก้ จนเป็นที่มาของการแชร์ต่อกันเป็นหลักล้านครั้ง เริ่มจากกฎข้อแรก คือ ร้านนี้เปิดตอน 4 ทุ่ม ถึง ตี 2 ลูกค้าจะมารอก่อนเปิดร้าน ทำให้ทางเจ้าของร้านไม่ทราบว่า ใครมาก่อน ดังนั้น ถ้าจะแจกบัตรคิว ก็ไม่รู้ว่าใครมาก่อน ถ้าอย่างนั้น ใช้วิธีการจับฉลากลูกปิงปอง ว่า จะได้คิวที่เท่าไหร่ กฎข้อแรกดูจะไม่ค่อยถูกใจใครหลายคน แต่ลุกค้าร้านนี้น่ารักยอมรับกฎกติกาเป็นอย่างดี (เจ้าของร้านบอกว่า ที่ต้องใช้วิธีการจับฉลาก แบบนี้ เพราะไม่อยากเห็นภาพที่ลูกค้าแย่งบัตรคิวกัน และเราก็ไม่รู้ว่าใครมาก่อน ถ้าอย่างนั้นจับฉลากเสี่ยงกันไปเลย บางครั้งอาจจะมาคนแรกแต่จับฉลากได้คิวที่ 10 ก็ต้องอยู่คิวที่10)
กฎข้อที่ 2 หลังจากจับฉลากได้คิว แล้วก็มาแสดงความจำนงว่าต้องการกี่แก้ว โดยการรับไพ่ เพราะเจ้าของร้านใช้จำนวนไพ่ เป็นตัวบอกว่า วันนี้ ต้องชงกี่แก้ว และที่เลือกแจกไพ่ เพราะที่ผ่านมา ทางร้านเคยแจกบัตรคิวไปแล้ว แต่เตรียมเครื่องดื่มมาไม่พอ รู้สึกเสียใจว่า บางคนยอมเสียเวลายืนรอนาน แต่ไม่ได้กิน ซึ่งพอแจกไพ่จะรู้ว่าเตรียมโกโก้มาเท่าไหร่ ถ้าไพ่หมดตามสำรับที่เราเตรียมมา แจ้งลูกค้าได้เลยว่า ไม่ต้องรอ ปัจจุบันทางร้านเตรียมไพ่มาทั้งหมด 2 ถึง 3 สำรับ หรือประมาณ 150 แก้ว
กฎข้อที่ 3 คือ ซื้อโกโก้ร้านนี้ ต้องมีแบงค์ 50 บาท แต่ถ้าไม่มีจริงๆทางร้านมีให้แลก และนำเงินใส่ในกล่อง เพราะจะไม่มีพนักงานคอยรับหรือถอนเงิน พนักงานจะทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มอย่างเดียว ลูกค้าหย่อนเงินใส่ในกล่องตามจำนวน โดยเครื่องดื่มร้านนี้ ราคาแก้วละ 50 บาท และมีราคาเดียว แบบเดียว ซึ่งที่มาของแบงค์ 50 บาท ก็มาจาก ครั้งแรกที่เจ้าของร้านเปิดร้านแห่งนี้ ต้องการให้ร้านเป็นพื้นที่พบปะกันกลุ่มเพื่อน และตั้งกฎขึ้นมาใช้กับเพื่อน คือ ต้องเตรียมเงินมาให้พอดี และหย่อนในกล่อง เพื่อนก็จะรู้ว่า เตรียมแบงค์ 50 บาทมา เป็นที่มาว่า ดื่มโกโก้ ร้านนี้ต้องเตรียมเงินแบงค์ 50 บาท มาด้วย
กฎข้อที่ 4 คือ ลูกค้าสามารถชิมได้จนกว่าจะพอใจ ก่อนจะจ่ายตังค์ พอได้เครื่องดื่มแล้วลูกค้าสามารถชิมได้ ต้องการให้เพิ่มความหวาน เพิ่มโกโก้ หรือ เพิ่มอะไรก็ได้ตามชอบ ชิมให้ถูกใจก่อนจะจ่ายหย่อนเงินลงในกล่อง ซึ่งกฎข้อนี้เกิดจากความรู้สึกส่วนตัวของเจ้าของร้าน ที่เวลาไปดื่มโกโก้ ร้านอื่น ทำไมชิมไม่ได้ และต้องดื่มโกโก้ในแบบที่เจ้าของร้านว่าอร่อย แต่เราอาจจะไม่ชอบก็ได้ อย่างที่บอกบางร้านรู้สึกหวานไป บางร้านขมไป เอาประสบการณ์ตรงนั้นมาให้บริการลูกค้า อยากให้ลูกค้าได้รับเครื่องดื่มที่ถูกใจเขาที่สุด เพราะสูตรโกโก้ที่ เจ้าของร้านชง เป็นสูตรที่เขาชอบ ซึ่งคนอื่นก็อาจจะชอบ จึงเป็นที่มาของ “ชิมได้จนกว่าจะพอใจ”
ทั้งหมด ก็คือกฎกติกา ที่เจ้าของร้านต้องการที่จะให้บริการลูกค้าให้ดีที่สุด แต่จุดเริ่มต้นครั้งแรก กว่าจะมีคิวมารอซื้อ โกโก้กันมาขนาดนี้ มาจาก รสชาติเครื่องดื่ม ที่เจ้าของร้านให้ความสำคัญอย่างมากก่อนจะมาเปิดร้าน เพราะเขาใช้เวลาในการทดลองแบบลองผิดลองถูกกับโกโก้ ที่มีในท้องตลาดหลายยี่ห้อ แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เขาทำ คือ เลือกสิ่งที่ตัวเองชอบ และบังเอิญที่เขาชอบผงโกโก้หลายยี่ห้อ เขาก็เลยเอาผงโกโก้ หลายๆ ยี่ห้อ มารวมกัน และได้ เครื่องดื่มโกโก้ของทางร้าน
และความพิเศษ ของร้านนี้ นอกจากรสชาติ ให้ความสำคัญ แก้วทุกใบจะถูกเขียน และเพ้นท์เองด้วยมือ เพราะอาชีพหลักของ เจ้าของร้าน คือ สอนและขายงานศิลปะ ดังนั้น ทุกอย่างในร้านแห่งนี้เจ้าของร้านแอบใส่งานศิลปะเข้าไป เท่าที่จะทำได้ และไม่ใช่แค่แก้ว ยังมีถุงกระดาษ ที่เขาทำขึ้นมาเอง ต้นทุนสูงถึงใบละ 4 บาท รวมถึงกระดาษทิชชู เลือกคุณภาพดีราคาแผ่นละ 2 บาท จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมขายแก้วละ 50 บาท
สำหรับคนที่ชื่นชอบ เครื่องดื่มโกโก้ คงอยากจะมาลองสักครั้ง ว่าทำไม หลายคนยอมมารอเป็นชั่วโมง เพื่อต่อคิวดื่มโกโก้ ร้านนี้ ที่สำคัญ คือ ร้านเปิดตอน 4 ทุ่ม ไม่ใช่เวลาของคนทำงานปกติ และ ถ้าจะมาดื่ม โกโก้ ร้านนี้ ต้องเช็คก่อน ว่า เดือนนี้ ร้านเปิดวันไหนบ้างซึ่งเป็นกฎอีกข้อหนึ่ง เพราะแต่ละเดือนร้านจะเปิดไม่เหมือนกัน เช่น เดือนนี้ (พ.ค.61) เปิดสัปดาห์ละ 1 วัน คือ วันอังคาร
“ทิสลักษณ์” เล่าว่า ที่เขาเปิดเพียงสัปดาห์ละ 1 วัน ในช่วงนี้ (จากเดิมเปิด3 วัน/สัปดาห์) เพราะตอนนี้เกิดการแชร์กันมาก และมีลูกค้าเข้ามาเยอะ บางคนมาจากที่ไกลๆ ซึ่งเขาคาดหวังที่จะได้มากิน รู้สึกเกรงใจถ้าลูกค้าต้องมาต่อคิว และคิวสุดท้ายบ้างครั้งต้องรอนานถึง 2-3 ชั่วโมง ไม่อยากเป็นเช่นนั้น ก็เลยเปิดร้านเพียงแค่อาทิตย์ละ 1 วัน และต้องขอย้ำว่า ทำงานตรงนี้เป็นงานอดิเรก ร้านแห่งนี้ ต้องการให้เป็นแหล่งของคนรักการดื่ม โกโก้ได้มาเจอกัน และมีความสุขได้ดื่ม ไม่ใช่ธุรกิจ ดังนั้น ยอดขาย ไม่ใช่คำตอบของ มิดไนท์อะโกโก้
ถ้าอยากดื่ม โกโก้ ร้านนี้ แนะนำ โทร.08-0076-6767
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager