กระแสของทุเรียน ที่มาแรงในช่วงนี้ ถ้าไม่พูดถึงเมนูที่นำทุเรียนมาใช้ ก็คงจะตกกระแส ครั้งนี้ จึงขอนำเสนอไอเดีย ของ “ร้านหยกมณี ขนมไทย บ้านสัตยา” ซึ่งนำทุเรียนมาทำเป็นขนมไทย ได้อย่างลงตัว ในเมนู ลูกชุบทุเรียน
นางพรนรินทร์ สัตยาพันธุ์ เจ้าของ หยกมณี ขนมไทย เล่าถึง ลูกชุบผลไม้รวม ว่า เกิดขึ้นมาจาก ความรู้สึกที่ว่า ทำไมลูกชุบมีรูปร่างหน้าตาเหมือนผลไม้ต่างๆ แต่ข้างในไม่มีรสชาติ หรือ ส่วนผสมของผลไม้เหล่านั้นอยู่เลย เกิดไอเดียว่า ถ้าอย่างนั้น ทำไมเราไม่ใส่ส่วนผสมของผลไม้ต่างๆ ลงไปในลูกชุบด้วย ได้ออกมาเป็นลูกชุบผลไม้รวม ไฮไลท์ อยู่ที่ราชาผลไม้ อย่าง ทุเรียน ส่วนผลไม้ชนิดอื่นๆที่เลือกมาทำลูกชุบครั้งนี้ ได้แก่ มะม่วง ส้มแอปปิคอต กล้วยหอม และสตอเบอรี่
เริ่มจาก ไฮไลท์ คือ ลูกชุบทุเรียน เป็นการนำทุเรียนหมอนทองสุกพอดี ที่คัดเลือก จากสวนคุณภาพดี มากวนกับถั่ว ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของการทำลูกชุบ หลังจากนั้น ปั้นลูกชุบ โดยเลือกทำแบบทุเรียนออกมาเป็นพู ขนาดของลูกชุบทุเรียน 1 ชิ้นน้ำหนักประมาณ 22-23 กรัม ราคาขาย ชิ้นละ 25 บาท ส่วนลูกชุบผลไม้อื่นๆ ราคาชิ้นละ 10 บาท
ส่วนที่มาของทุเรียน “คุณพรนรินทร์” บอกว่า ที่ผ่านมา ลูกค้าถามบ่อยๆว่า แล้วนำทุเรียนจากที่ไหน ทำไมถึงมีทุเรียนมาใช้ทำลูกชุบได้ตล่อดทั้งปี คำตอบก็คือ เรามีสวนที่รู้จัก และมีทุเรียนตัดขายได้ทั้งปี และบางส่วน ก็เก็บทุเรียนสดใส่ช่องแช่แข็งไว้ ก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน ดังนั้น ขนมลูกชุบทุเรียนของเราจึงมีขาย และในราคาเดียว ตลอดทั้งปี
สำหรับขนมลูกชุบทุเรียนของร้านหยกมณี แห่งนี้ เริ่มทำมาตั้งแต่ปลายปี 2560 มาจนถึงปัจจุบันผ่านมาประมาณ 7 เดือน ผลตอบรับออกมาดี ตั้งแต่เดือนแรกที่เริ่มทำขาย โดยมีออเดอร์เข้ามามากกว่า 1,000 ชิ้น แม้ว่าช่วงนั้น ไม่ใช่ช่วงที่ฤดูกาลของทุเรียนสดออกสู่ตลาด และไม่ใช่ช่วงที่กระแสของทุเรียนมาแรงในปัจจุบัน
โดยช่องทางแนะนำลูกชุบทุเรียนของร้านหยกมณี นั้น ใช้การขายผ่านทางหน้าเพจเฟซบุ๊กเป็นหลัก หลังจากนั้น มีออกอีเวนท์บ้าง เฉพาะในกรุงเทพฯ ส่วนยอดการสั่งออเดอร์ลูกชุบทุเรียน และลูกชุบผลไม้รวมของทางร้าน เพิ่มขึ้นประมาณ 25% และลูกชุบทุเรียนขายดีสุด
นอกจากนี้ ส่วนของลูกชุบผลไม้อื่นๆ “คุณพรนรินทร์” เธอยังคงใช้ หลักการทำเช่นเดียวกับ ลูกชุบทุเรียน เช่น ลูกชุบมะม่วง ก็นำมะม่วงสุกใส่ลงไปกวนพร้อมกับถั่ว แต่มีเทคนิคการกวนอย่างไรไม่ให้เหมือนกับมะม่วงกวน เช่นเดียวกับทุเรียน ซึ่งต้องไม่ใช่ทุเรียนกวน คุณพรนรินทร์ ย้ำว่า เมื่อกิน ลูกชุบทุเรียน หรือ มะม่วง ของเธอ จะต้องมีรสชาติที่เหมือนกับการกินทุเรียนสด หรือ มะม่วงสด ไม่ใช่กวน ซึ่งทำได้ยาก เพราะการทำลูกชุบหลัก คือต้องกวน โดยเราได้ลองผิดลองถูกกับตรงนี้ อยู่หลายครั้ง จนได้เทคนิค และออกมาเป็นลูกชุบผลไม้ดังกล่าว
ส่วนสตอเบอรี่ และส้มแอปปิคอล 2 ตัวนี้ ทางเจ้าของหยกมณี ได้ เลือกใช้ผลไม้อบแห้ง ทำให้ลูกชุบที่ได้ออกมาจะมีเทคเจอร์ หรือเนื้อสัมผัส ของผลไม้ทั้งสองชนิดอยู่ในลูกชุบ และที่เลือกใช้ผลไม้อบแห้ง เพราะผลไม้ทั้ง 2 ชนิดมีน้ำมาก การนำมากวนกับถั่วจะเละ และผลไม้มีน้ำมากไม่สามารถเก็บได้นาน เขาเลยเลือกใช้ผลไม้อบแห้ง
คุณพรนรินทร์ บอกว่า ขนมไทยของร้านหยกมณี จะเน้นการทำขนมไทยในแบบที่ไม่หวานมาก ทำให้ขนมไทยของเราเก็บได้ไม่นาน เพราะความหวานของน้ำตาลช่วยยืดอายุขนมไทยให้อยู่นานขึ้น อย่างลูกชุบอันนี้ เราแนะนำให้ลูกค้าเก็บในตู้เย็น ถ้าเป็นช่องธรรมดา เก็บได้นาน 2-3 วัน แต่ถ้าเก็บในช่องแช่แข็งเก็บได้เป็นเดือน
ทั้งนี้ ในส่วนของความหวานในลูกชุบผลไม้รวม ครั้งนี้ ปรับความหวานไปตามชนิดของผลไม้ ซึ่งมะม่วง ทุเรียน กล้วย มีความหวานจากผลไม้มากอยู่แล้ว เรา ก็ปรับน้ำตาลลง ส่วนส้ม กับ สตอเบอรี่ เพิ่มความหวาน เพราะเป็นผลไม้มีรสเปรี้ยว และที่ทำผลไม้ไม่หวานมาก เพราะกลุ่มลูกค้าของเรา ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ ดังนั้น ก็ต้องการขนมที่มีความหวานน้อยอยู่แล้ว
นอกจากลูกชุบ ทางร้านก็จะมีขนมไทย ชนิดอื่นๆ ที่ทำจากทุเรียน และอื่นๆ เช่น เสน่ห์จันทร์ ทองเอก จ่ามงกุฎ ขนมชั้น เปียกปูนกะทิสด บัวลอย ฯลฯ ซึ่งทุกช่องทางขายของทางร้าน คือ ช่องทางออนไลน์ และออกร้านงานอีเวนท์ต่างๆ ลูกค้าจะมีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งตลาดต่างจังหวัดอาศัย การส่งทางบริษัทขนส่ง ใส่ในกล่องโฟม และมีน้ำแข็งแห้ง
สำหรับแผนการตลาดในอนาคต "คุณพรนรินทร์" เธอต้องการที่จะเป็นผู้ผลิตขนม และส่งขายให้กับผู้ที่สนใจ นำไปขายต่อ เพราะนอกจากขนมไทย ยังมีเบอเกอรี่ โดยเฉพาะขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งมีเป็นไฮไลท์อีกตัวหนึ่งของหยกมณีที่ลูกค้าให้การตอบรับค่อนข้างดีมาก ด้วยความที่ส่วนตัว เธอชื่นชอบการทำขนม และมีประสบการณ์การทำขนมมากกว่า 30 ปี
แม้ว่าจะมาเริ่มทำขนมอย่างจริงจังในช่วงนี้ แต่ที่ผ่านมาเธอได้ทำขนมตามเทศกาล ออกจำหน่ายอยู่เรื่อย ๆ เช่น ช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ที่ผ่านมาทำขนมไหว้พระจันทร์ แน่นอนว่าขนมไหว้พระจันทร์ ของร้านเธอแตกต่างไปจากขนมไหว้พระจันทร์ที่ขายตามท้องตลาด และ ด้วยความครีเอท หน้าตาขนมให้แตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาด ทำให้จะนำเสนอขนมของร้านหยกมณี แปลกแตกต่างไปจากขนมไทย หรือ เบเกอรี่ ที่ขายในท้องตลาด ซึ่งเป็นจุดขายที่ลูกค้าประจำของร้านนี้ จะทราบกันดี และก็จะแวะเวียนมาช็อปขนมที่ร้านนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล
สำหรับ “เจ้าของร้านหยกมณี ขนมไทย” คนนี้เธอคลุกคลีอยู่กับการทำอาหาร มาตลอดชีวิต และอาชีพหลักของครอบครัว เธอ คือ เปิดร้านอาหาร ล่าสุด มีร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้งแม่น้ำ ที่ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบัน ได้ปูทางให้กับลูกชาย และคนในครอบครัว เพื่อบุกเบิกตลาดขนมไทยให้คนรุ่นใหม่ ได้หันมาสนใจการรับประทานขนมไทย โดยปรับรูปแบบหน้าตา และรสชาติให้สามารถตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น
ถ้าถามถึงรายได้ เจ้าของร้านหยกมณี บอกว่า ส่วนของขนมไทย อาจจะไม่ใช่รายได้หลัก และยังคงเป็นรายได้หลักไม่ได้ ในตอนนี้ แต่ในอนาคต คาดหวังว่า ตลาดขนมไทยจะได้รับการตอบรับมากขึ้น จากการคิดออกแบบขนมไทยรสชาติและหน้าตาให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม และร้านหยกมณีขนมไทย ก็จะทำรายได้ให้กับครอบครัวของเธอจนกลายเป็นรายได้หลักได้
สนใจ เรื่องราวของร้านหยกมณีขนมไทย ติดต่อได้ที่ โทร.09-1435-4549
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *