แม้อาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุงจะยังไม่เป็นที่นิยมของคนไทยมากนัก ส่วนใหญ่จะเลือกซื้ออาหารทะเลสดเพื่อปรุงอาหาร แต่สำหรับในต่างประเทศอาหารทะเลแช่แข็งลักษณะนี้เป็นที่ต้องการและมีอัตราการเติบโตสูง กลายเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ "ทรัพย์สำเภา" ที่คร่ำหวอดในวงการอาหารทะเลมากกว่า 20 ปี เพิ่มกำลังการผลิตด้วยการสั่งซื้อเครื่องจักร โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Development Bank
คุณอดิชา โกยวานิช ผู้บริหาร บริษัท ทรัพย์สำเภา จำกัด ผลิตและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งมานานกว่า 20 ปีภายใต้แบรนด์ทรัพย์สำเภา เขาย้อนที่มาธุรกิจนี้ให้ฟังว่า ในจังหวัดระนองเป็นแหล่งที่มีวัตถุดิบอาหารทะเลจำนวนมาก มีผู้ประกอบการกว่า 30 รายที่นำมาแปรรูปกลายเป็นสินค้าพร้อมปรุงผ่านกระบวนการผลิตแบบแช่แข็งและส่งออกไปยังต่างประเทศ
โดยวัตถุดิบที่คัดสรรมานั้นจะมีการทำความสะอาดเรียบร้อยปลอดภัยไร้สารฟอร์มาลีนสะดวกในการนำไปปรุงอาหารได้ทันทีซึ่งในตลาดต่างประเทศยังมีความต้องการอยู่มาก ซึ่งทรัพย์สำเภาได้ส่งออกไปยังประเทศฮ่องกง ไต้หวัน และจีน ซึ่งขณะนี้ถือว่าวัตถุดิบยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดเนื่องจากอาหารทะเลในฝั่งอันดามันเริ่มลดน้อยลง
“แต่เดิมเราก็เป็นครอบครัวที่ขายอาหารทะเลทั่วไป แต่การนำมาแช่แข็งนั้นเป็นคำแนะนำของลูกค้าและความต้องการเพื่อความสะดวกสบายในการปรุงอาหารของลูกค้าเอง จากจุดนั้นทำให้ผมเห็นโอกาสที่จะทำให้อาหารทะเลไปได้ไกลออกไปสู่ต่างประเทศ จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 20 ปีที่อาหารทะเลทรัพย์สำเภายึดตลาดส่งออกเกือบ 100%”
สำหรับตลาดของอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุงยังเป็นตลาดที่กว้างมากในต่างประเทศ แต่สำหรับในประเทศไทยยังมีน้อย โดยปัจจุบันเริ่มมีมากขึ้นเนื่องจากสังคมไทยมีความเป็นเมืองมากขึ้นการแข่งขันสูงผู้คนอาศัยอยู่ตามคอนโดมิเนียม ทำให้วิถีชีวิตดังกล่าวกลายเป็นโอกาสในการเติบโตของอาหารทะเลแช่แข็งได้ ซึ่งคุณอดิชาต้องการที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคคนไทยใหม่ว่าแม้จะเป็นอาหารทะเลแช่แข็งแต่ด้วยกรรมวิธีการรักษาความสดที่ได้มาตรฐานทำให้คุณภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าอาหารทะเลสดๆ เลย
การขยายตลาดในประเทศไทย คุณอดิชาจะเน้นไปที่การหาตัวแทนจำหน่ายหรือการเข้าถึงชุมชนให้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาอาหารทะเลแช่แข็งมักจะอยู่ในซูเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ ทำให้ผู้คนในชุมชนที่ห่างไกลหาซื้อยาก ดังนั้นหากชุมชนใดมีตู้แช่แข็งและต้องการจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งทางทรัพย์สำเภาก็ยินดีให้เป็นตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น
เห็นการเติบโตของธุรกิจซับสำเภาที่มีความก้าวหน้าแถมยังเจาะตลาดส่งออกได้เป็นผลสำเร็จ แต่กว่าจะมีวันนี้ คุณอดิชาบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ครั้งหนึ่งต้องประสบกับภาวะขาดสภาพคล่อง วิธีแก้ไขคือลดต้นทุนทุกด้าน รวมถึงการเลิกจ้างแรงงาน หรือเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้มีกำไรที่มากขึ้น เขาตัดสินใจเลือกวิธีที่สองโดยขอความช่วยเหลือจาก “ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย” เพื่อขอสินเชื่อในการสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งการตัดสินใจครั้งนั้นถือว่าเขาเลือกได้อย่างถูกต้อง
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งทรัพย์สำเภามีกว่า 30 รายการ ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้นปลาหมึก ทอดมันปลาหมึก ฟิชฟิงเกอร์ (เนื้อปลาอาจชุบแป้ง) เนื้อปลากะพงสไลซ์ ปลาหมึกกล้วยลอกหนัง ปลาหมึกกระดอง กุ้งแชบ๊วย (กุ้งทะเลปอกเปลือก) รวมถึงปูจั๊กจั่น เป็นที่ต้องการของประเทศไต้หวันซึ่งจะมีขายในช่วงเดือน ส.ค.-ม.ค. เท่านั้น โดยนำมาแช่แข็งและส่งออกแหล่งที่มีปูจั๊กจั่นอยู่มากจะอยู่ที่ภูเก็ต ราคาเกรดพรีเมียมส่งออกอยู่ที่กิโลกรัมละกว่า 200 บาท ซึ่งในแต่ละปีทรัพย์สำเภาส่งออกปูจั๊กจั่นประมาณ 500 ตัน
ขณะที่วัตถุดิบอาหารทะเลจะมาจากทะเลอันดามันของไทยประมาณ 70% และจากประเทศเพื่อนบ้านอีกประมาณ 30% ซึ่งคุณอดิชายอมรับว่าวัตถุดิบยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดเพราะอาหารทะเลคนทุกเชื้อชาติทุกศาสนาก็สามารถรับประทานได้ และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากตราบใดที่ผู้คนยังต้องรับประทานอาหารเพื่อประทังชีวิต
สนใจติดต่อโทร. 0-7787-3977
ID LINE : supsumpow
Facebook : บริษัท ทรัพย์สำเภา จำกัด
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
