บัวลอยเป็นเมนูที่คนไทยนิยมรับประทานกันมาก ซึ่งบัวลอยที่ขายกันทั่วไปจะมี 2 ลักษณะ คือ บัวลอยน้ำกะทิ แบบไทยไทย จะไม่มีไส้ แต่ถ้าเป็นบัวลอยของสัญชาติจีนก็ต้องจะเป็นบัวลอยก้อนกลมมีไส้ ที่คนไทยรู้จักกันดี ในชื่อของ บัวลอยน้ำขิง
สำหรับบัวลอยที่นำเสนอในวันนี้ เป็นการปรับรูปแบบของบัวลอยน้ำขิง หรือบัวลอยสอดไส้ มาปรับให้มีไส้มากขึ้น และที่สำคัญ คือ ไม่ใช่บัวลอยน้ำขิงอีกต่อไป เพราะร้านกลม.กลืน แห่งนี้ นำบัวลอยสอดไส้ มาขายในรูปแบบของบัวลอยคาเฟ่สไตล์ไต้หวัน โดยเปิดขายอยู่ ซอยลาซาล 46 เขตบางนา จังหวัดสมุทรปราการ
คุณกนกพร เมธาวี และเพื่อน คุณกรองแก้ว รพีพรรณ ทั้งสองได้เปิดร้านกลม.กลืน บัวลอยคาเฟ่ เปิดมาได้ประมาณ 8 เดือน โดยลักษณะบัวลอยของร้านกลม.กลืน เป็นบัวลอยลูกกลมๆ คล้ายกับบัวลอยน้ำขิง เพราะเป็นบัวลอยสอดไส้ ซึ่งได้ไอเดียมาจากการได้เดินทางไปกินบัวลอยที่ไต้หวัน
หลังจากนั้น ได้นำบัวลอยไต้หวัน มาลองทำและปรับไส้ให้เข้ากับความชอบส่วนตัวของทั้งสองคน จนได้มาเป็นบัวลอย 3 ไส้ ไส้แรกไส้หวานงาดำ เหมือนกับบัวลอยน้ำขิง และไส้ที่ 2 เป็นไส้มันม่วงบด และไส้ 3 เป็นไส้มันเทศ ซึ่งบัวลอยที่ได้ ถ้าจะนำกินน้ำขิง จะธรรมดาไป จึงได้คิดไอเดีย นำบัวลอยทั้ง 3 ไส้ มากินกับเมนูเครื่องดื่ม ที่ขายอยู่ในร้านกาแฟ ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว ชาไทย น้ำหวาน โกโก้ หรือแม้แต่กาแฟ ซึ่งไปด้วยกันได้ดี ส่วนกลุ่มคนรักสุขภาพทางร้านมีเมนู บัวลอยนมสด หรือ บัวลอยน้ำเต้าหู้ ให้ลูกค้าได้เลือก หรือ เมนูอื่นๆ ทางร้านกลม.กลืน นำมาเสิร์ฟกับบัวลอยสอดไส้ในครั้งนี้ มีอีกหลายเมนู ได้แก่ บัวลอยเสิร์ฟกับไอศกรีม หรือบัวลอยบิงซู เป็นต้น
ส่วนราคาขายบัวลอย ของร้านกลม.กลืน เริ่มต้นที่55 บาท ไปจนถึง 199 บาท ผลตอบแทน หรือกำไรประมาณ 30-40%
และนอกจากบัวลอย แล้ว ทางร้านแห่งนี้ ยังมีไข่มุกที่ทำเองจากมันม่วง ด้วย ซึ่ง คุณกนกพร บอกว่า ตัวไข่มุกมันม่วง ลูกค้าให้การตอบรับดีพอๆ กับ บัวลอย พอถามถึงรายได้ คุณ กนกพร บอกว่า ดีใจที่ลูกค้าชื่นชอบ และ มากกว่า 70% กลับมาซื้อซ้ำ แม้ว่าที่ผ่านมา กว่าจะถึงวันนี้ ที่มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน ก็ต้องเจอปัญหา เพราะเราเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจก็ต้องการจะประหยัด ทุกอย่างทำเองทั้งหมด ก็เลยมีปัญหาบ้าง แต่พอเห็นลูกค้าที่ให้การตอบรับที่ดี อาการเหนื่อยของเราก็หายทันที
คุณกนกพร เล่าว่า สำหรับร้านกลม.กลืน บัวลอยคาเฟ่ เปิดอยู่ในร้านกาแฟและเบเกอรี่ ของเพื่อน ตอนกลางวันขายกาแฟและเบเกอรี่ ส่วนบัวลอยของเราจะขายตอนเย็นถึง 4 ทุ่ม ที่เลือกขายตอนเย็น เพราะปกติบัวลอยขายตอนเย็น กลางคืน ก็เลยขายเฉพาะตอนเย็น และนอกจากขายที่ร้านเบเกอรี่ของเพื่อน มีออกงานอีเวนท์ ต่างๆ ส่วนการขายแฟรนไชส์ น่าจะเป็นลำดับถัดไป เนื่องจากมีลูกค้าสนใจที่จะซื้อแฟรนไชส์ แต่เรายังไม่พร้อม กลัวว่าจะมีปัญหาในอนาคต
การลงทุนทำ ร้านกลม.กลืน ในครั้งนี้ ทางเจ้าของร้าน บอกว่า ไม่ได้ใช้เงินลงทุนมากนัก เพราะไม่มั่นใจว่าลูกค้าจะให้การตอบรับมากน้อยแค่ไหน และส่วนหนึ่งไม่ลงทุนทำร้านใหญ่โต แต่อาศัยพื้นที่เช่าพื้นที่ด้านหน้าร้านกาแฟ ไม่ได้เสียค่าเช่าแพง จะลงทุนเพียงอุปกรณ์ และวัตถุดิบการจัดร้านเล็กน้อย ซึ่งใช้เงินไปหลักแสนบาท ต้น และสามารถคืนทุนได้ตั้งแต่ 4-5 เดือนแรก ส่วนรายได้ช่วงแรกที่เปิด ลูกค้ายังไม่รู้จัก เยอะ แต่ลูกค้าที่เคยซื้อกลับมาซื้ออีก เริ่มขายได้มากขึ้น หลังจากมี บล็อกเกอร์มาชิม และนำไปเขียน เพราะเห็นว่า บัวลอยของเราน่าสนใจ และยังไม่เคยมีในประเทศไทยมาก่อน ซึ่งพอบล็อกเกอร์เขียน มีคนเห็น ชวนไปออกงานอีเวนท์ มีสื่อ หลายที่มาถ่ายทำ ส่งให้รายได้เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน ถ้ามีออกงานอีเวนท์ครั้งหนึ่ง มีรายได้หลัก 1-2 แสนบาทต่อหนึ่งอีเวนท์ ไม่เกิน 3-4 วัน
สำหรับผู้ที่สนใจ และต้องการและอยากจะมีร้านบัวลอยแบบนี้ ทางเจ้าของร้านเตรียมเปิดขายแฟรนไชส์ แต่ตอนนี้ขอศึกษาระบบแฟรนไชส์ และเตรียมความพร้อมรองรับการขยายสาขาในอนาคตก่อน
สนใจโทร.08-0777-9666 fb: กลม.กลืน บัวลอย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager
