เหตุเกิดจากบางคนยังไม่มีความรู้มากพอในการดูแลสัตว์เลี้ยง จึงเกิดเป็น “PET CLUB” คลับของคนรักสัตว์เลี้ยง ที่ต้องการบริการที่ครบวงจรและสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ตั้งแต่ สุขภาพไปจนถึงความงาม เปิดบริการมาแล้วกว่า 5 ปี
สมฤดี ตัณศลารักษ์ หรือ คุณปุ๊ก เล่าว่า เดิมตัวเองที่บ้านทำกิจการส่วนตัว ก่อนหน้านั้นก็ ทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกามาก่อน จึงได้ย้ายกลับมาที่ประเทศไทยในช่วงหลัง ส่วนสามีคือ นส.พ. ณัฐวุฒิ ตัณศลารักษ์ ซึ่งเป็นเป็นสัตวแพทย์ อยู่แล้ว จึงได้มาเริ่มทำ “PET CLUB” ก่อนหน้านั้นก็ได้ทำที่โรงพยาบาลสัตว์ และร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้อื่นมาก่อน จึงคิดว่าออกมาทำของเราเองดีกว่า ในแบบที่อยากให้เป็น
ในช่วงเริ่มต้นสาขาแรกจะอยู่ที่พัฒนาการ เป็นคลับเล็กๆ ใช้พื้นที่เพียงแค่ 2 คูหา เป็นบรรยากาศของโรงพยาบาลที่ไม่ค่อยเหมือนโรงพยาบาล เพราะว่าไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และสัตว์เลี้ยงของลูกค้าไม่ต้องหวาดกลัว ผลตอบรับจากลูกค้าก็ค่อนข้างดี และส่วนหนึ่งก็มีลูกค้าที่มาใช้บริการให้ผลกลับมาว่าอยากได้บริการในส่วนไหนบ้าง เลยเริ่มคิดที่จะขยายธุรกิจเพื่อรองรับต่อความต้องการของลูกค้า
หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าคอนเซปท์นี้มีมานานแล้ว แต่ความจริงแล้วคือในพื้นที่นั้นโดยมากอาจจะมี โรงพยาบาลสัตว์ ร้านขายของ ขายอาหารสัตว์ หรือแม้แต่ร้านตัดแต่งขน อาบน้ำสัตว์เลี้ยง ทั้งหมดอาจจะตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน แต่ไม่ใช่เจ้าของเดียวกันทั้งหมด คุณปุ๊ก จึงอยากให้ “เพ็ท คลับ” เป็นการบริการแบบครบวงจร One Stop Service ต้องการให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายและจะได้รับการดูแล ตั้งแต่เดินเข้าประตู ตั้งแต่หน้าคลับจนถึงข้างหลัง และอยากให้ลูกค้าได้รับบริการที่ต่อเนื่อง
รวมถึงต้องการสร้างบริการให้ลูกค้าเชื่อใจ และเชื่อมั่นใน “เพ็ท คลับ” เพราะมีความเข้าใจว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่ใช่การซื้อของเรียบร้อยเสร็จแล้วกลับบ้าน เพราะฉะนั้นจึงอยากทำบริการที่ให้ลูกค้าเห็นแล้วเชื่อใจว่า “เพ็ท คลับ” จะสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้อย่างดี และอยากให้ทุกคนได้รู้จักว่า “เพ็ท คลับ” ที่นี่เป็นของคนไทย ที่ไม่ได้ซื้อธุรกิจจากต่างชาติมาทำเอง
“เพ็ท คลับ” มีบริการครบวงจร ด้วยศูนย์ดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง (Pet Hospital), โซนขายอาหารสัตว์/ผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง (Pet Products), โซนอาบน้ำ-ตัดแต่งขนสัตว์เลี้ยง (Pet Grooming), โซนโรงแรมสัตว์เลี้ยง (Pet Hotel) และ โซนเพ็ทคาเฟ่ (Pet Café) ซึ่งให้บริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับลูกค้าและสัตว์เลี้ยง นอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ (Pet Pool) เพื่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง พร้อมด้วยพี่เลี้ยงดูแลตลอดการเล่นน้ำ
ทางร้านจะไม่จำหน่ายสิ่งมีชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่ามีความเสี่ยงในหลายๆ ส่วน แต่จะรับดูแลสัตว์จรจัด และหาบ้านให้สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นแทน ส่วนจุดเริ่มต้นของการโรงแรมสัตว์เลี้ยง มาจากลูกค้ามีความต้องการที่จะฝากสัตว์เลี้ยงไว้ในช่วงหยุดยาว หรือเดินทางไปต่างประเทศ จึงมีความต้องการที่จะฝากเลี้ยงด้วย แต่รายได้จากส่วนนี้จะได้ในช่วงวันหยุดยาวส่วนใหญ่ ในช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ห้องพักเต็ม แต่หลังจากเทศกาลโรงแรมก็จะว่าง ไม่ได้เยอะเท่าช่วงนั้นแล้ว ราคาที่พักจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว
ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 สาขา มีที่พัฒนาการ, รามอินทรา, ลาดพร้าว 101, Jas Urban ศรีนครินทร์, พอร์โต้ ชิโน่ (พระราม 2) และภายในปีนี้ จะเพิ่มอีก 2 สาขา ที่ Jas Urban ลาดปลาเค้า, บางนา ตราด รวมเป็น 7 สาขา ส่วนความครบวงจร ครบทุกบริการ จะอยู่ที่พื้นที่ของแต่ละสาขาเอง อย่างเช่นสาขา ลาดพร้าว 101 มีพื้นที่กว้างจึงมีได้ครบวงจรมากขึ้น ส่วนบางที่พื้นที่น้อย อาจจะมีแค่บางบริการเท่านั้น และหวังอยากจะเปิดบริการฝึกสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติม แต่ต้องใช้เวลาศึกษาอีกสักระยะ
สำหรับเงินที่ใช้ในการลงทุน จะค่อนข้างสูง ด้วยอุปกรณ์การแพทย์ และเครื่องมือต่างๆ รวมไปถึงการตกแต่งภายใน ตัวอย่างเช่น สาขาลาดพร้าว 101 ใช้เงินลงทุนไปกว่า 30 ล้านบาท ส่วนสาขาใหม่ที่กำลังจะเปิดมีบริการครบเช่นเดียวกัน แต่พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า เงินลงทุนจึงน้อยตาม ซึ่งต่างกันในจำนวนที่ไม่มาก และด้วยที่ธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจที่ไม่ใช่ลงทุนแล้วจะคืนได้ในทันที แต่ที่ทำตรงนี้เพราะธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ทำแล้วมีความสุข
ส่วนความยากในการทำธุรกิจ คาดว่าการทำ “เพ็ท คลับ” ในตอนเริ่มต้นสาขาแรก มีความยากมากในการทำ แต่พอเริ่มต้นสาขาที่ 2 ก็จะมีความง่ายขึ้นมาในอีก 1 ระดับ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าง่าย ด้วยธุรกิจก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไปตามที่ตั้งไว้ แต่อาจจะไม่เร็วเท่าด้วยสภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องบอกว่าโชคดีที่ลูกค้าช่วยกันบอกต่อ แล้วก็กลับมาใช้บริการอีกครั้ง
ในการทำธุรกิจความยากอีกหนึ่งอย่างคือเรื่องของ พนักงานจะต้องคัดเลือกคนที่มีใจรักสัตว์เลี้ยงจริงๆ บางคนเป็นพนักงานทำงานได้แค่ไม่กี่วันก็อยู่ต่อไม่ได้ แต่สำหรับพนักงานที่มีใจรักสัตว์จริงๆ ก็จะมีความสุขในการทำงาน ต้องการดูแลสัตว์เลี้ยงของลูกค้า และอยากบริการอย่างเต็มที่ จากบริการเหล่านี้จึงทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการ และบอกต่อลูกค้ารายอื่น
ด้วยความที่ “เพ็ท คลับ” เป็นระบบสมาชิก เพราะต้องการเก็บข้อมูลของสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในความดูแลของลูกค้า และเพื่ออำนวยความสะดวก เมื่อลูกค้าพาสัตว์เลี้ยงไปที่สาขาใดก็ตาม ข้อมูลก็จะถูกบันทึกไว้ในระบบเรียบร้อยแล้ว จนทำให้ตอนนี้ยอดของสมาชิกอยู่ที่ 30,000 ราย ส่วนยอดของสัตว์เลี้ยงของลูกค้าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 – 2 ตัว รวมๆ แล้วมีสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใน เพ็ท คลับ แล้วกว่า 60,000 ตัว และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ยังมีโปรโมชั่นสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี เมื่อใช้จ่ายที่เพ็ทคลับ ทั้ง 5 สาขา จะได้รับ ส่วนลด 10% เมื่อชำระค่าแพ็คเกจตรวจสุขภาพ, ค่าบริการโรงแรม, ค่าบริการสระว่ายน้ำ และค่าอาบน้ำตัดแต่งขนด้วยบัตรเครดิตเคทีซี รวมถึงรับเครดิตเงินคืน 3% เมื่อมียอดใช้จ่าย 500 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป เพียงลงทะเบียนรับเครดิตเงินคืน โดยส่งข้อความพิมพ์ PET เว้นวรรคตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 16 หลัก ส่งมาที่ 06 1384 5000 (ค่าส่งครั้งละ 3 บาท) หรือลงทะเบียนออนไลน์ที่ www.ktc.co.th/healthypet หรือเลือกรับบริการแบ่งชำระ KTC FLEX by Phone 0.80% ได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน 2561
ติดต่อได้ที่ PETClub-Thailand และเว็บไซต์ https://www.petclub.co.th/
สาขารามอินทรา 02-970-8855
สาขาลาดพร้าว: 02-736-8848-9
สาขาพัฒนาการ 02-318-7799
สาขาพอร์โต้ ชิโน่ (พระราม 2): 034-110-893
สาขา Jas Urban ศรีนครินทร์ 02-386-7345
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *