พรธนัญกล้วยหอมทอง คิดใหญ่ กล้าต่าง ขายกล้วยรวยเป็นล้าน

ณัฏฐ์นภพร เตชิดยุภารัตน์ (ซ้าย) ภาคิน นาคบุรินทร์ (ขวา)

โดยส่วนตัวเป็นคนชอบทานกล้วย และเล็งเห็นโอกาสว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่กินง่าย ทานได้ทุกเพศทุกวัย ณัฏฐ์นภพร เตชิดยุภารัตน์ จึงได้นำ ‘กล้วยหอมทอง’ ของดีเมืองปทุมมาทำตลาด ภายใต้แบรนด์ ‘พรธนัญกล้วยหอมทอง’ ด้วยเงินทุนตั้งต้นเพียง 50 บาท วันนี้เธอสามารถขายกล้วยจนร่ำรวย ทำรายได้ทะลุหลักล้านบาทไปเป็นที่เรียบร้อย
จุดสตาร์ทความสำเร็จ ณัฏฐ์นภพรเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ตั้งแต่ปี 2558 โดยรับกล้วยหอมทองจากสวนมาขายให้กับเพื่อนๆ ทาง Line ก่อน แต่การขายยกหวีก็ได้กำไรเพียงหวีละ 5-10 บาทเท่านั้น ไอเดียที่คิดจะเพิ่มมูลค่ากล้วยหอมทองให้มากกว่านี้ ทำให้เธอตัดสินใจแบ่งสินค้าออกขายเป็นลูกๆ ในราคาลูกละ 10 บาท ซึ่งเป็นราคาที่แพงกว่ากล้วยหอมทองที่จำหน่ายอยู่ในร้านสะดวกซื้อ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรก
“เราเป็นรายเล็กจึงต้องแตกต่าง เพื่อสร้างความสามารถทางการแข่งขัน โดยคัดสรรกล้วยหอมทองเกรดพรีเมียม ลูกขนาดใหญ่และสมบูรณ์กว่า น้ำหนักต่อลูกตกประมาณ 150 กรัมขึ้นไป เราเชื่อว่าลูกค้ายอมเพิ่มเงินอีกนิด เพื่อจะได้ทานสินค้าที่คุ้มค่ากว่า ยิ่งปัจจุบันผู้บริโภคมีครัวเรือนเล็กลง นิยมซื้อสินค้าที่มีขนาดชิ้นเล็ก กล้วยเราจึงขายดีเมื่อนำมาแบ่งขายเป็นลูกๆ แทนที่จะซื้อทั้งหวีแล้วกินไม่ทัน เพราะกล้วยสุกค่อนข้างเร็ว ซึ่งถ้าคำนวณดีๆ ลูกค้าซื้อเป็นลูก ถูกกว่าซื้อทั้งหวีด้วยซ้ำ”
สำหรับกล้วยหอมทองของ จ.ปทุมธานี นั้น มีจุดเด่นตรงที่เนื้อกล้วยแน่น เหนียว อร่อย นอกเหนือไปจากการเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าและให้พลังงานสูง ด้วยความที่เป็นคนปทุม ณัฏฐ์นภพรเลยลุยลงพื้นที่ไปคัดสรรกล้วยถึงแหล่งด้วยตัวเอง ก่อนนำมาเก็บในห้องเย็น ณ อุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อรักษาความเฟรชของกล้วย ก่อนกระจายส่งไปขายตามหน้าร้านต่างๆ แบบวันเว้นวัน ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการทานผลไม้ที่สด ใหม่ นี่เป็นเคล็ดไม่ลับที่ทำให้แบรนด์ ‘พรธนัญกล้วยหอมทอง’ ติดตลาด และยอดขายเติบโตแตะ 1,000 หวีต่อวันอย่างรวดเร็ว

จากการวางขายหน้าร้านโชห่วยเล็กๆ ละแวกบ้าน ช่องทางการจำหน่ายของพรธนัญกล้วยหอมทองค่อยๆ ขยายออกไปเรื่อยๆ โดยเข้าไปตามปั๊มเอ็นจีวี เจาะเข้าสู่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยราชภัฏวลัยอลงกรณ์ ฯลฯ รวมถึงองค์กรชั้นนำอย่างบริษัทกูเกิ้ล และฮอนด้า ที่ใส่ใจคัดเลือกสินค้าคุณภาพไว้รองรับพนักงานของตน
“กลุ่มเป้าหมายจริงๆ ของเราคือ คนที่รักและดูแลสุขภาพ อย่างที่มหาวิทยาลัยจะขายดีมากๆ เวลาพนักงานไปส่งกล้วยที่มหาวิทยาลัย นักศึกษาจะบอกต่อๆ กันเลยว่า ‘กล้วยพรธนัญ กล้วยแสนอร่อยมาแล้ว’ เราก็รู้สึกดีใจที่ลูกค้ารับรู้ถึงความจริงใจของเรา ที่เลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา อย่างน้อยเวลาอยากกินกล้วยหอม ต้องนึกถึงแบรนด์พรธนัญ”

ทว่าเป้าหมายในการทำธุรกิจของณัฏฐ์นภพร ไม่ได้หยุดอยู่แค่กล้วย เธอยังมองไปถึงผลไม้ไทยชนิดอื่นๆ ด้วย โดยพยายามคัดสรรผลไม้ตามฤดูกาลที่ดีที่สุด อร่อยที่สุด มาแพ็คแบ่งขายแบบกินคนเดียวอิ่ม ในราคาที่จับต้องได้ เช่น ส้ม องุ่น แอปเปิ้ล ฯลฯ กลยุทธ์เพิ่มไลน์สินค้านี้นอกจากเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค เพิ่มรายได้ให้กับกิจการ ยังช่วยกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจอีกด้วย
และเนื่องจากมีกล้วยหอมบางส่วนที่เริ่มสุกงอม ทว่ายังจำหน่ายไม่หมด คนรักกล้วยและเต็มไปด้วยไอเดียธุรกิจ ย่อมไม่ปล่อยให้กล้วยกลายเป็นของเสียอย่างแน่นอน โดยเธอหาทางใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบให้คุ้มค่า ด้วยการผลิตเป็นเค้กกล้วยหอมแสนอร่อยจากวัตถุดิบพรีเมียม ปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงสูตรให้ลงตัว ก่อนจะส่งขายควบคู่ไปกับกล้วยหอมทอง ซึ่งเธอมองไกลถึงขั้นส่งออก Banana Cake นี้ ไปยังต่างประเทศด้วย

แต่กว่าธุรกิจจะเดินทางมาถึงวันนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ เธอต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้ ลองผิดลองถูกมานับไม่ถ้วน แถมตอนคิดจะทุ่มเงินเดินหน้าธุรกิจอย่างจริงจัง ก็กลับโดนแบงค์ปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ อีกทั้งธุรกิจที่ทำเกี่ยวข้องกับการเกษตร ซึ่งมีความเสี่ยงสูง เพราะพึ่งพาฝนฟ้าอากาศเป็นหลัก โชคดี บสย. เข้าใจและช่วยค้ำประกันในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS6) เลยหนุนให้ธุรกิจทำรายได้ก้าวกระโดดจากหลักร้อยสู่หลักล้านในที่สุด
“ตอนนั้นเราเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ บสย. มาช่วยค้ำประกันทำให้ธุรกิจเราก้าวต่อไปได้ วงเงิน 6.9 แสนบาท เอาไปทำอะไรได้มากมาย ขอเพียงจัดสรรดีๆ และลำดับความสำคัญเป็น ทั้งลงทุนซื้อรถขนส่ง ทำออฟฟิศ ซื้อเชลฟ์และอุปกรณ์ต่างๆ อาจเพราะเรามีเงินน้อย ทำให้เราคิดรอบคอบ ไม่บุ่มบ่ามลงทุน ตอนนี้พอตลาดโตขึ้น ก็ต้องรู้จักวางแผนให้ดี เพราะเป้าหมายเราใหญ่กว่านี้ คือ มียอดขายวันละล้าน มีโรงงานและทำตลาดส่งออก เราพยายามจะไปให้ถึง ณ จุดนั้น”
ความสำเร็จที่ไต่ระดับทีละสเตป ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับ ภาคิน นาคบุรินทร์ ลูกชายคนเก่งของณัฏฐ์นภพร ผู้ซึ่งเป็นมันสมองในการรันธุรกิจ ไอเดียและประสบการณ์ของคนสองรุ่นผสมผสานกันอย่างลงตัว และผลักดันให้พรธนัญกล้วยหอมทองมีเส้นทางธุรกิจที่แตกต่างอย่างชัดเจน ไม่เดินซ้ำรอยใคร

“ทุกวันนี้เราไม่ได้แข่งขันที่ราคา แต่แข่งขันในเรื่องของ ‘คุณภาพ’ คือถ้ามองออกว่าตลาดต้องการอะไร แล้วตีโจทย์สินค้าแตก เราจะเป็นผู้นำแน่นอน ขณะเดียวกันเราก็ร่วมกับเกษตรกรเจ้าของสวน ช่วยกันยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เพื่อเติบโตไปด้วยกัน ตอนนี้เรากำลังดำเนินการขอ GMP เป็นตัวการันตีสินค้า เพื่อที่จะได้เติบโตก้าวข้ามจากร้านเล็กๆ เข้าสู่โมเดิร์นเทรดหรือห้างต่อไป รวมทั้งสนับสนุนให้เครือข่ายเกษตรกรเติบโตไปด้วยกัน นี่คือสิ่งที่เอสเอ็มอีรายเล็กๆ อย่างเราภาคภูมิใจ ที่ได้มีส่วนช่วยเหลือภาคการเกษตรให้มีรายได้เพิ่มที่แน่นอน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ณัฏฐ์นภพรกล่าวทิ้งท้าย

ติดต่อ พรธนัญกล้วยหอมทอง โทร. 093-991-6679, 096-826-6446 เฟสบุ๊ค https://th-th.faebook.com/พรธนัญ-กล้วยหอมทอง-434983550230827

บทความโดย: บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) (www.tcg.or.th)