ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ไก่ทอด” เป็นเมนูที่ไม่เคยตกยุค เป็นที่นิยมของผู้คนทุกเพศทุกวัย จากที่รับประทานง่าย รสชาติอร่อย และราคาไม่แพง ทำให้หนุ่มวิศวะ ขอผันตัวเองมาขายไก่ทอด กำเนิดจากความชอบ ผสานความใส่ใจในทุกรายละเอียด กลายเป็น “อังเคิล ทิกเกอร์” (Uncle Tigger's) ร้านไก่ทอดสไตล์ กูเมร์ คอนเซ็ปต์คาเฟ่เจ้าแรกในไทย
ณัฏฐ์ ไวศยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูที ฟู้ดดี้ จำกัด ด้วยวัยเพียง 26 ปี ตัดสินใจทิ้งงานวิศวะในประเทศสิงคโปร์ มาขายไก่ทอด กับร้านที่ชื่อว่า “อังเคิลทิกเกอร์” จากการรวมกลุ่มของเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการรับประทานไก่ทอดเป็นชีวิตจิตใจ แต่กลับหาไก่ทอดในแบบที่ต้องการไม่ได้ จึงคิดที่จะทำเอง โดยได้เรียนรู้และพัฒนาสูตรเรื่อยมา จนได้ไก่ทอดที่มีรสชาติและรูปแบบในสไตล์ของตัวเอง เป็น “ไก่ทอดเนื้อนุ่ม” รสชาติกลมกล่อมกำลังดี จากการหมักด้วยเครื่องเทศและเครื่องปรุงลับถึง 14 ชนิด และหมักอย่างน้อย 12 ชั่วโมงจนเข้าเนื้อ สามารถรับประทานไก่เปล่าๆ ก็ได้ หรือดิปซอสเพื่อเพิ่มอรรถรส รวมถึงวิธีการคลุกเคล้าแป้งแบบพิเศษ ทำให้ได้แป้งที่บางและกรอบ
“หลังจากที่จบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ก็ทำงานตามที่เรียนมาในประเทศสิงคโปร์ แต่ทำได้เพียง 1 ปี รู้สึกเบื่อกับการเป็นพนักงานประจำ จึงคิดหาธุรกิจทำ ซึ่งช่วงแรกจะเปิดที่ประเทศสิงโปร์ แต่ติดปัญหาหลายด้าน จึงกลับมาเมืองไทย ระดมสมองกับเพื่อนๆ ว่าจะทำอะไรขายดี แต่โดยส่วนตัวผมชอบรับประทานไก่ทอดมาก เพื่อนๆ ก็เช่นกัน จึงลองนำไก่ทอดสูตรจากสิงคโปร์มาลองทำ ซึ่งมีความแตกต่างในเรื่องความหลากหลายของซอส ที่รับประทานคู่กับไก่ทอดมีหลายรสชาติให้เลือกสรร โดยลองเปิดร้านที่ จ.เชียงใหม่ บ้านเกิด ก็ได้รับการตอบรับดี แต่เปิดไปได้เพียง 1 ปีก็ต้องปิดตัวลงหลังจากสัญญาเช่าที่ครบกำหนด”
ดังนั้นเมื่อร้านแรกจำต้องปิดตัวลงชั่วคราว ทำให้พวกเขามีเวลาพัฒนาธุรกิจ พร้อมเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ร้าน หลังจากพบว่าการวางตำแหน่งเป็น “ไก่ทอดสิงคโปร์” จะเป็นการจำกัดให้ธุรกิจในเมนูไก่ทอดอยู่ในกรอบมากเกินไป จึงเปลี่ยนคอนเซ็ปต์เป็น 'Gourmet Fried Chicken' หรือไก่ทอดที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เอาใจแฟนพันธุ์แท้โดยเฉพาะ ขณะที่การเปิดร้านใหม่ก็ย้ายมาอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ซอยแบริ่ง 23
“ทางร้านเลือกสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพดี และมีความสดใหม่เท่านั้น จากนั้นนำไปหมักด้วยเครื่องปรุง และเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะ ผ่านการหมักอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ทำให้ได้เนื้อไก่ที่มีรสชาติกลมกล่อม รสสัมผัสนุ่มฉ่ำ และกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถีงวิธีการคลุกแป้งแบบชั้นเดียว ทำให้แป้งเกาะหนังไก่บางกำลังดี เมื่อลงทอดแล้ว จะได้ไก่หนังบางกรอบ ไม่สูญเสียอรรถรสในการรับประทานอย่างแน่นอน”
ส่วนที่มาชื่อแบรนด์ “อังเคิล” สื่อถึงความใส่ใจ ความพิถีพิถัน ในการทำอาหารที่คุณลุงทำให้หลานๆ และคนในครอบครัวรับประทาน จึงสื่อด้วยโลโก้ที่มีรอยยิ้มเล็กๆ ของคุณลุง ส่วนคำว่า “ทิกเกอร์/ไทเกอร์” สื่อถึง ความสดใหม่ของวัตถุดิบ ที่คุณลุงคัดสรรมาอย่างดีในการปรุงอาหาร เช่นเดียวกับความสดใหม่ของอาหารที่เสือเพิ่งออกล่า เปรียบกับคุณลุงในคราบของเสือ โลโก้จึงเป็นคุณลุงที่ใส่หน้ากากเสือ
หากใครที่ได้ไปลิ้มลองจะรู้เลยว่าจุดเด่นของที่นี่นอกจากไก่ทอดคลาสิค ที่ทอดสดใหม่ทุกครั้งที่สั่ง มีการเปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ในการทอดทุกวันแล้ว ยังมีเมนูอื่นๆ อย่าง ไก่ทอดโรยผงหม่าล่า ให้รสเผ็ดร้อนจัดจ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของในไทย, Chicken&Waffle ไก่ทอดชิ้นใหญ่ที่เข้ากันได้ดีกับวาฟเฟิลกรอบนอกนุ่มในสูตรพิเศษของทางร้าน ราดด้วยน้ำผึ้ง, ปลาหมึกวงทอด, เบคอนชีส ฟรายด์, มาม่าต้มยำทะเลน้ำข้น, ซีซ่าสลัด, ข้าวสตูหมู/ไก่ หม่าล่า พร้อมไข่ดาว, กุ้งพันเบคอน, นาโซชีส เบคอน ส่วนเมนูของหวาน จะเป็น Friday Waffle ไอศกรีมเกรดพรีเมียมเคียงคู่มากับวาฟเฟิล สตรอเบอรีวาฟเฟิล และไอศกรีมบานาน่าสปริท เป็นต้น และล่าสุดได้ร่วมจัดโปรโมชั่นกับบัตร KTC เมื่อลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตร700 บาทขึ้นไป รับฟรีวาฟเฟิล มูลค่า 95 บาท ทันที
“ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 ในซอยแบริ่ง23 ซึ่งทำเลดังกล่าวเป็นย่านชุมชน มีโรงเรียนในละแวกนี้ประมาณ 4-5 แห่ง หน้าปากซอยมีคอนโดมีเนียมขนาดใหญ่ และหมู่บ้าน ทำให้กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นครอบครัว นักเรียน นักศึกษา จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน โดยเราเน้นการออกแบบร้านให้โปร่ง โล่ง สบาย เหมือนอยู่บ้าน มีเมนูให้เลือกหลากหลายไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่ไก่ทอด ทำให้ผู้คนทุกเพศทุกวัยเป็นลูกค้าได้หมด”
“อังเคิลทิกเกอร์“ ถือเป็นร้านคาเฟ่ไก่ทอดเจ้าแรกในไทย ที่มีการวางคอนเซ็ปต์ร้านที่แตกต่างไม่เหมือนร้านไก่ทอดทั่วไป แต่เน้นความอบอุ่น และความหลากหลายของเมนู โดยมี 'ไก่ทอด' เป็นพระเอก และวาฟเฟิลตามมา หรือเมนูอื่นๆ ก็เป็นตัวประกอบที่ตามมาสมทบได้โดยไม่ขัดเขิน ทำให้เมนูทุกอย่างลงตัวและไปด้วยกันได้ ขณะที่ราคาก็ไม่สูงจนเกินไปเริ่มต้นที่ 100-200 บาท/เมนู เท่านั้น คาดจะสามารถคืนทุนได้ประมาณ 1-2 ปี
จากความโดดเด่นดังกล่าว ทำให้มีผู้สนใจขอร่วมลงทุนในทำเลอื่นๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์และการตกแต่งร้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งผู้บริหารร้านอังเคิล ทิกเกอร์ ได้เตรียมไว้ 3 โมเดลธุรกิจ คือ การลงทุนขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ซึ่งร้านต้นแบบนี้เป็นขนาดใหญ่ มี 50 ที่นั่ง ลงทุนหลักล้าน เน้นทำเลแบบสแตนอโลน (Stand Alone) ส่วนขนาดกลาง เน้นพื้นที่ในแถบชานเมือง ซึ่งรูปแบบสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามพื้นที่
'หากต้องการรับประทานไก่ทอด ก็ขอให้คิดถึง อังเคิล ทิกเกอร์' ประโยคทิ้งท้าย ที่กลุ่มสตาร์ทอัพ “อังเคิล ทิกเกอร์”วาดฝันไว้ เพราะมั่นใจว่าหากใครที่ได้ลิ้มลองไก่ทอดของพวกเขาจะติดใจไม่รู้ลืม จากความโดดเด่นของไก่เนื้อฉ่ำ หมักถึงเครื่อง แป้งบางกรอบ และที่สำคัญใส่ใจในทุกจานที่เสิร์ฟให้ลูกค้า
***ติดต่อ 06-2194-9426 หรือที่ Facebook: uncletiggers***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *