เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการ “ละอองเย็น Cooling Mist” คือตัวช่วยสำคัญ นวัตกรรมสเปรย์ฉีดลำตัวให้เย็นสดชื่นยาวนานหลายชั่วโมง อีกหนึ่งผลงานวิจัยนาโนเซลลูโลสที่สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ พร้อมเตรียมทะยานตลาดต่างแดนเมืองร้อนไม่ต่างจากไทย
เสมือนการพกแอร์เคลื่อนที่ หากมีผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า “ละอองเย็น Cooling Mist” น้ำใสๆ ถูกบรรจุในขวดขนาด 10 ซีซี. ดูเผินๆ คล้ายขวดโคโลญจ์ นวัตกรรมนาโนเซลลูโลสผลงานเด็กรุ่นใหม่ ที่เลือกหยิบยกเป็นหัวข้อทำงานวิจัยในระดับปริญญาเอก โดยมีสมาชิกในทีมรวม 4 คน คือ ภีร์ ลิมปิทีป ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภีดู จำกัด, โภ ลิมปิทีป, ก้องเกียรติ สุขุมคัมภีร์ และจารวี บุญศิริ ผู้ร่วมก่อตั้ง
ไอเดียนี้ไม่ได้ผุดขึ้นมาเพียงแค่ข้ามคืน แต่เป็นความทรงจำของคุณภีร์ เมื่อครั้งวัยเยาว์ที่โดนยุงกัดอยู่บ่อยครั้ง ทำให้คิดว่าทำไมยุงจึงรุมกัดแต่เค้าคนเดียว แต่เขาก็มีคุณตาเป็นฮีโร่ คอยช่วยบรรเทาอาการคันที่เกิดจากยุงกัดให้ โดยคุณตา ซึ่งมีความรู้เรื่องยาสมุนไพร ยาพื้นบ้าน และมักจะทำยาใช้เองกันภายในครอบครัวมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จะนำสมุนไพรพื้นบ้าน อย่าง สะระแหน่มาตำให้แหลกใส่ครกแล้วโม่ จากนั้นก็นำผ้าขาวบางมาห่อ เและเอาไปวางไว้บนรอยกัดของยุง ซึ่งกลิ่นจากสมุนไพรจะไม่ทำให้ยุงมาก่อกวน แถมยังได้รู้สึกเย็นที่ผิวหนังบริเวณนั้นด้วย
แต่ผลที่ได้มากกว่านั้น คือความเย็นจากสมุนไพรที่ถูกผ้าขาวบางห่อหุ้มเอาไว้ และนั่นกลายเป็นที่มาของแนวคิดในการทำวิจัยก่อนจบในระดับปริญญาเอก ที่เขาศึกษาในหลักสูตรวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยต้องการนำนาโนเซลลูโลส มาทำให้ความเย็นนั้นอยู่ได้นานขึ้น
แม้คำว่า “นาโนเซลลูโลส” จะฟังดูเข้าใจยากน่าจะมีแต่เด็กที่เรียนมาทางสายวิทย์เข้าใจเท่านั้น แต่คุณภีร์ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่า นาโนเซลลูโลส คือ สารที่เคลือบในพืชผักที่ถูกการสังเคราะห์แสง ความเป็นเส้นใย และมีคุณสมบัติในการกักเก็บ แต่เขานำมาทำให้อยู่ในรูปของนาโนเทคโนโลยี ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากนั้นนำมาผสมกับตัวยาสมุนไพร กลายเป็นน้ำใสๆ บรรจุขวดสำหรับฉีดพ่นตามร่างกายปราศจากสารเคมี สามารถกักเก็บความเย็นได้นานถึง 2 ชั่วโมง
แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการผลิต “ละอองเย็น Cooling Mist” ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงอย่างในปัจจุบัน เพราะคุณภีร์ ใช้เวลาคิดค้นและวิจัยนานถึง 1 ปี แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะกลายเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ทำให้หลายคนสบายตัวขึ้นจากสภาพอากาศร้อน ช่วยลดความเหนียวเหนอะหนะตามร่างกาย และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ต่อเนื่อง มีความปลอดภัยสูง ปราศจากสารเคมี มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นหลักที่ช่วยกำจัดแบคทีเรีย โดยละอองเย็นผลิตออกมา 2 สูตร คือ Blue Menthol เย็นนาน 2 ชั่วโมง จะมีกลิ่นหอมเล็กน้อย เหมาะกับคนที่ไม่ใช้น้ำหอม และ Black Ice เย็นนาน 1 ชั่วโมง ไม่มีกลิ่น ไม่รบกวนคนที่ใช้น้ำหอม ราคาขวดละ 150 บาท/แพ็คละ 1,000 บาท
เมื่อเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังไม่มีตามท้องตลาด ดังนั้นเรื่องการสื่อสารกับลูกค้าให้เข้าใจในผลิตภัณฑ์กลายเป็นอุปสรรคในช่วงแรก ดังนั้นต้องทำให้เกิดการทดลองใช้เพื่อการตัดสินใจซื้อ โดยช่วงแรกพวกเขาคาดว่ากลุ่มลูกค้าจะเป็นผู้ชายแอคทีฟ ชอบเล่นกีฬา แต่จริงๆ แล้วสามารถครอบคลุมคนทุกเพศทุกวัยตั้งแต่ช่วงอายุประมาณ 16-70 ปี ซึ่งผู้สูงอายุจะชื่นชอบมาก เพราะนอกจากจะทำให้เย็นขึ้นแล้ว ยังไม่ต้องเกาที่ผิวหนังให้เกิดแผล จากอาการคันแมลงสัตว์กัดต่อย สามารถกดใช้งานได้ 60 ครั้ง ในขวดขนาด 10 ซีซี จากปริมาณสมุนไพรที่เข้มข้นมากกว่า 10 เท่า แถมยังพกพาสะดวก
ขณะที่การเลือกขวดสเปรย์ และหัวฉีด เขาได้สั่งผลิตขึ้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการใส่ใจในรายละเอียดของ 'รู' สเปรย์ที่ทำให้เกิดการกระจายของละอองเย็น ต้องกระจายในรัศมีที่เหมาะสม องศาต้องได้ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการให้ความเย็นและช่วยลดอาการแมลงสัตว์กัดต่อย โดยสามารถฉีดลงบนเสื้อผ้าได้ไม่ทิ้งคราบ
ส่วนการทำการตลาดในต่างประเทศ จากการเปิดตัวได้ประมาณ 6 เดือน มีคนไทยในประเทศเยอรมนีซื้อไปจำหน่ายให้ชาวเยอรมันที่รักการเดินป่า ส่วนประเทศออสเตรเลีย ก็มีคนไทยนำไปจำหน่ายต่อเช่นกัน ขณะที่ประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งเป็นเมืองร้อนไม่ต่างจากไทยมากนัก ก็มีผู้รับไปจำหน่ายต่อ ที่ประเทศกัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งพวกเขาได้ทำการจดอนุสิทธิบัตรไว้เรียบร้อยแล้ว
ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมจากไอเดียเด็กไทย ที่เลือกหยิบจับของใกล้ตัวมาใส่นวัตกรรม เพิ่มความสบายตัวให้คนไทยในช่วงที่อุณหภูมิพุ่งสูงปรี๊ดได้อย่างลงตัว และยังพิสูจน์ให้เห็นว่าสมุนไพรไทยไม่แพ้ชาติใดโลก ขึ้นอยู่กับว่าใครจะนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า
***สนใจติดต่อ บริษัท ภีร์ดู จำกัด เลขที่ 1/12 หมู่ 19 ถ.กาญจนาภิเษก เขตทวีวัฒนา แขวงศาลาธรรมสพน์ กรุงเทพฯ โทร.08-9203-9906 หรือที่ Facebook: laongyen และ www.laongyen.com***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *