กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจับกระแสธุรกิจบริการสุขภาพที่กำลังเติบโต ด้วยการเปิดโครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ ชวน 3 ธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพ และดูแลผู้สูงอายุ ต่อยอดองค์ความรู้ให้ธุรกิจไปได้ไกลทั้งในประเทศและต่างประเทศ รองรับการเติบโตของธุรกิจบริการที่มีมูลค่าถึงร้อยละ 40 ของ GDP ในประเทศ รวมถึงเปิดโอกาสให้นักธุรกิจหน้าใหม่และธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพ และดูแลผู้สูงอายุที่มีอยู่กว่า 1.4 หมื่นรายได้เห็นลู่ทางการทำธุรกิจที่มั่นคง
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดโครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ ณ ห้องประชุมฉลาดลบเลอสรรค์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพให้มีคุณภาพเป็นมาตรฐาน เป็นที่เชื่อถือและยอมรับจากผู้ใช้บริการทั้งในระดับประเทศและระดับสากล สร้างโอกาสทางการตลาด แรงจูงใจและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรายใหม่เห็นถึงประโยชน์ความสำคัญของเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจ สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้จากการบรรยายในหัวข้อ แนวทางการบริหารจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์กร (Total Quality Management : TQM) เพื่อความสำเร็จของธุรกิจ โดยวิทยากรจากสถาบันรับรองมาตรฐาน ISO พร้อมด้วยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจให้มีระบบจากนายกสมาคมสปาไทย
โครงการฯ ดังกล่าวเป็นการพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจบริการที่เน้นไปยังกลุ่มสปา นวดเพื่อสุขภาพ และดูแลผู้สูงอายุ นอกจากการรับฟังการบรรยายในวันนี้แล้ว ยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยกรมฯ จะพาผู้ประกอบธุรกิจไปศึกษาดูงาน ณ สถานประกอบธุรกิจที่ผ่านการพัฒนาจากกรมฯ และได้รับคัดเลือกเป็น Best Practice ในปี 2560 จำนวน 3 แห่ง รวมถึงจะมีการส่งผู้เชี่ยวชาญลงไปให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้ประกอบธุรกิจด้านการบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อให้มีระบบการบริหารจัดการที่มีมาตรฐาน โดยพิจารณาจากการบริหารจัดการองค์กรการวางแผนเชิงกลยุทธ์การมุ่งเน้นลูกค้าและการตลาด การจัดการความรู้ การปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพ ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานภายในองค์กร ประหยัดต้นทุน บริหารจัดการธุรกิจอย่างมีกลยุทธ์ มีหลักการบริหารงานที่ทันสมัย เกิดความน่าเชื่อถือ สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างยั่งยืน มากไปกว่านั้นผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการประเมินศักยภาพการพัฒนาธุรกิจด้วยการเก็บคะแนนเพื่อประเมินผลลัพธ์
ด้านการเปลี่ยนแปลงทิศทางธุรกิจตลอดโครงการฯ ผู้ที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับโล่จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อสร้างความภาคภูมิใจและเกียรติยศให้ธุรกิจ ประกอบกับมีโอกาสได้เป็นธุรกิจตัวอย่างดีเด่น Best Practice ในปี 2561 และอาจได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงการฯ ในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ STYLE Bangkok Fair ต่อไปอีกด้วย
กรมฯ มุ่งมั่นและตั้งใจที่จะผลักดันภารกิจด้านการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปีงบประมาณ 2561 โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนา ‘ธุรกิจบริการ’ มากขึ้นเนื่องจากธุรกิจบริการกำลังเป็นที่เติบโตในประเทศไทย ควบคู่กับการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจประเภทอื่นๆ ที่มีอยู่เดิม จากสถิติของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในปี 2559 พบว่าประเทศไทยมี GDP มาจากภาคบริการมากถึง 5,804,920 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40.4 ของ GDP สร้างการจ้างงานได้มากกว่า 6 ล้านคน
รวมถึงจากสถิติการจัดตั้งธุรกิจบริการทั้งรูปแบบนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาในกลุ่มที่กรมฯ ให้การสนับสนุน พบว่าประเทศไทยมีธุรกิจสปาและนวดเพื่อสุขภาพจำนวน 13,514 ราย และธุรกิจดูแลผู้สูงอายุจำนวน 800 ราย จะเห็นได้ว่าสัดส่วนการเติบโตดังกล่าวและจำนวนธุรกิจที่มีอยู่ในประเทศยังเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่จะสามารถเดินเข้ามาครอบครองตลาดธุรกิจบริการสุขภาพได้อีกมาก โดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (aging society) หากผู้ประกอบธุรกิจให้ความสนใจในการพัฒนาธุรกิจของตนเองอย่างต่อเนื่อง และใช้มาตรฐานสากลเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ กรมฯ เชื่อว่าธุรกิจบริการสุขภาพไทยจะสามารถแข่งขันในตลาดระดับสากลได้แน่นอน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *