กล้วยปิ้งไส้แตก และที่มาของชื่อกล้วยปิ้งไส้แตกมาจากเจ้าของร้าน “นายชัยยศ ศรีศุภรณ์วัฒนา” ได้นำไส้มายัดลงไปในกล้วยปิ้ง ทำให้ได้อรรถรสของการกินกล้วยปิ้งอีกแบบหนึ่งที่อร่อยไม่แพ้กล้วยปิ้งราดน้ำเชื่อมที่ขายตามท้องตลาด แต่วันนี้คนกรุงเทพฯ ยังไม่ได้กิน เพราะร้านเปิดอยู่ที่จังหวัดพะเยา และสาขา 2 ที่จังหวัดเชียงราย
นายชัยยศเล่าว่า ที่มาของกล้วยปิ้งยัดไส้ มาจากผมได้เดินทางมาอยู่กับแฟนที่จังหวัดพะเยา เดิมเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างที่ภาคใต้ แต่พอดีมีปัญหาเรื่องธุรกิจ เลยเดินทางมากรุงเทพฯ ตอนมาอยู่กรุงเทพฯ มาทำงานบริษัทเป็นลูกจ้าง แต่ครั้งนี้แฟนอยากจะกลับบ้านที่จังหวัดพะเยาเพื่อเปิดร้านเสริมสวย เห็นว่าหน้าร้านเสริมสวยว่างอยู่ เลยคิดว่าจะหาของกินมาขาย ตอนนั้นนึกถึงเมนูกล้วยปิ้งยัดไส้ของแม่ที่ทำขายเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว และเราก็ยังไม่เห็นว่ามีใครทำขายมาก่อนในจังหวัดพระเยา เลยลองทำขาย ปรากฏว่าผลตอบรับออกมาดีเกินคาด เพราะวันแรกที่ทำขายขายได้ถึง 30 หวี เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ส่วนหนึ่งมาจากความแปลกใหม่ลูกค้าก็เลยอยากลอง แต่พอเปิดขายวันถัดมา ลูกค้าเพิ่มขึ้นตลอด จนถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบ 2 ปี สามารถขายได้มากถึงวันละ 100 หวี โดยกล้วย 1 กล่องมีอยู่ 4 ลูก ขายในราคากล่องละ 25 บาท มีรายได้เกือบ 3,000 บาทต่อวัน
สำหรับไส้ที่นำมาทำ ปัจจุบันมีอยู่ถึง 6 ไส้ ได้แก่ ไส้เผือกกวน มันญี่ปุ่นกวน ไส้ถั่วแดงกวน ไส้มะพร้าว ข้าวโพด และไส้เค็ม ซึ่งใน 1 กล่องลูกค้าสามารถเลือกไส้อะไรก็ได้ตามชอบ ตอนแรกที่เริ่มทำขายจะมีไส้เดียวที่แม่ทำ คือ ไส้มะพร้าว แต่พอเริ่มทำไปเรื่อย ค่อยๆ พัฒนาไส้ใหม่เพื่อให้ลูกค้าได้เลือก จนมาถึงวันนี้มีถึง 6 ไส้ กล้วยน้ำว้าที่ใช้จะเป็นกล้วยพันธุ์มะลิอ่อง เพราะมีรสชาติที่หวาน หอม ซึ่งกล้วยปิ้งของเราจะเลือกกล้วยที่สุก เพราะจะได้กล้วยที่นิ่ม แม้ว่าเราจะปิ้งทิ้งไว้เป็นเวลานาน
“วิธีการทำกล้วยปิ้งของผมนั้นจะใช้กล้วยน้ำว้าค่อนข้างสุก แต่สุกไม่มาก นำมาปิ้งไฟให้แห้งแล้วมาทับ แล้วผ่าทำการใส่ไส้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้าว่าต้องการไส้อะไร หลังจากนั้นก็ราดน้ำกะทิสูตรของทางร้านลงไป ซึ่งกล้วยปิ้งของเราสามารถปิ้งทิ้งไว้ได้ โดยกล้วยยังคงนิ่มอยู่เพราะเราใช้กล้วยที่สุก ต่างจากกล้วยปิ้งทั่วไปที่ใช้กล้วยค่อนข้างดิบ จำเป็นที่จะปิ้งใหม่เพราะทิ้งไว้กล้วยจะแข็ง”
หลังจากเริ่มขายกล้วยปิ้งยัดไส้มาได้ระยะหนึ่ง มีสื่อเห็นว่าแปลกไม่เหมือนใคร ก็มาถ่ายทำให้เราได้ออกสื่อทีวีหลายช่อง ยิ่งทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าคนที่เดินทางมาไกลก็ยังมาซื้อกล้วยปิ้งที่ร้านเรา และที่ตามมาคือ มีคนสนใจ และต้องการขายบ้าง ซึ่งตอนแรกไม่ได้คิดถึงเรื่องแฟรนไชส์ เพราะทุกวันนี้มีรายได้ในระดับที่พอใจ ซึ่งตั้งไว้ประมาณกล้วย 100 หวี พอขายหมดก็หมด แต่พอมีคนสนใจมาก เห็นว่าทุกคนคงอยากจะมีอาชีพ ก็เลยเปิดขายแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นลักษณะของการขายสูตร เพราะเราสอนเขาทุกขั้นตอน และให้ไปซื้อวัตถุดิบเอง ราคาแฟรนไชส์ 35,000 บาท เป็นราคาขายสูตร พร้อมกับป้ายชื่อ กล้วยปิ้งไส้แตก ซึ่งทุกคนจะต้องใช้ชื่อเดียวกัน แต่จะมีอะไรต่อท้ายไม่เป็นไร แต่ต้องเริ่มต้นด้วยชื่อ กล้วยปิ้งไส้แตก ของเราเท่านั้น
ทั้งนี้ การขายแฟรนไชส์ครั้งนี้ต้องการคนที่ตั้งใจจะทำจริงๆ จึงจะขายให้ และใน 1 จังหวัดจะอนุญาตให้มีตัวแทนเพียงรายเดียวเท่านั้น ส่วนในกรุงเทพฯ ไม่ขายแฟรนไชส์ เพราะตั้งใจว่าจะไปเปิดด้วยตัวเอง ทำให้ตอนนี้เรามีแฟรนไชส์เพียงแค่ 1 สาขาเท่านั้น คือที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งร้านที่เชียงรายน้องเขามาติดต่อนานแล้ว และเขามาบ่อยก็เลยใจอ่อนสอนให้ และเห็นว่าอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดพะเยามากนัก ส่วนทางภาคใต้ก็ติดต่อเข้ามาเยอะ แต่อยู่ไกลก็เลยไม่ได้ขายให้
สนใจ โทร. 06-1573-8399
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
