ไม่น่าเชื่อ! คนเราจะสามารถสร้างมูลค่าจาก “เปลือกกล้วยไข่” เหลือทิ้งในจังหวัดกำแพงเพชรได้ จากการสกัดจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากเปลือกกล้วยไข่ในแบรนด์ “พญาไพร” กวาดรางวัลระดับประเทศกว่า 5 รางวัล สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน
ศริสา เข็มวัน หรือ คุณต้อม เล่าว่า ธุรกิจนี้สานต่อจากคุณแม่ที่เคยทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลผิว เครื่องสำอางมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 แต่ว่าสินค้าเหมือนกันทั่วๆ ไปตามท้องตลาด ยังไม่มีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นเท่าไหร่ แต่เมื่อช่วงปี 57 พบว่าธุรกิจนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และได้รับโอกาสอีกครั้งเมื่อปี 58 ได้รับรางวัลการประกวดแผนธุรกิจของโครงการพัฒนาชุมชน ตอนนั้นทำสครับโดยการใช้ส่วนผสมจากว่านนางคำ ซึ่งยังไม่โดดเด่นนัก
ในงานประกวดครั้งนั้น ก็ได้รับคำถามมาจากคณะกรรมการว่าผลิตภัณฑ์ที่กำลังทำอยู่ ได้สื่ออะไรถึง จังหวัดกำแพงเพชรหรือไม่? หลังจากที่ได้ยินคำถามนั้นก็นำกลับมาเป็นการบ้านให้ตัวเองได้ขบคิด ทบทวนว่าอะไรที่สามารถทำและสื่อสารออกมาให้คนที่เห็นผลิตภัณฑ์ตัวนี้แล้วจะนึกถึง จ.กำแพงเพชรได้
หลังจากได้รับคำถามนั้นและคิดทบทวนสักพัก เธอก็นึกถึงกล้วยไข่ ว่ากล้วยไข่สามารถนำมาทำอะไรได้บ้าง หลังจากเกิดคำถามเหล่านี้ จึงค้นหาคำตอบให้ตัวเองโดยการไปสืบค้นงานวิจัยต่างๆ ว่ากล้วยไข่ทำอะไรได้บ้าง จึงได้ไปพบว่าส่วนที่จะนำมาใช้ได้อยู่ในเปลือกกล้วยไข่ และในปี 59 ได้เข้าร่วมวิจัยกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก จากการศึกษาพบว่าในเปลือกกล้วยมีสารประกอบฟีนอล คือโดพามีน ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สารตัวนี้จะช่วยในเรื่องของริ้วรอย ยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ และแทนนิน ที่ช่วยในการยับยั้งแบคทีเรีย
ผลิตภัณฑ์แรกที่ใช้สารสกัดจากเปลือกกล้วยไข่ ภายใต้แบรนด์ “พญาไพร” คือ สบู่ จากสารสกัดเปลือกกล้วยไข่ และพัฒนามาเรื่อยๆ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่มาจากสารสกัดเปลือกกล้วยไข่มีทั้งหมด 7 ตัวด้วยกัน ทั้งสบู่เหลว ครีมพอกหน้า ครีมบำรุงส้นเท้า โลชั่น ลิปบาล์ม และครีมเซรัม ซึ่งผลิตภัณฑ์ 3 ตัวหลังจะใช้บรรจุภัณฑ์รูปกล้วยไข่ลงไปเพื่อดึงความสนใจ
จากการใช้นวัตกรรม โดยการใช้สารสกัดจากเปลือกกล้วยไข่ เป็นการเพิ่มรายได้ให้คนในชุมชนด้วยอีกทางหนึ่ง โดยทางพญาไพรจะรับซื้อเปลือกกล้วยไข่จากผู้ประกอบการที่ทำกล้วยแปรรูป เช่น กล้วยกวน กล้วยอบ เป็นการเพิ่มมูลค่าของเปลือกกล้วยไข่ ดีกว่าจะทิ้งไปไร้ประโยชน์ และเป็นการลดปริมาณขยะในชุมชนได้อีกด้วย
“อย่างน้อยคนในชุมชนเขาก็จะได้เห็นคุณค่าจากเศษเหลือทิ้งในชุมชน ถึงจะเป็นส่วนเล็กๆ แต่ก็ถือว่ามันก็ทำให้เขาตระหนักรู้ว่าเปลือกกล้วยของเขาก็สามารถนำมาเป็นรายได้เพิ่มเติมได้ ดีกว่าทิ้งไปไม่ได้ราคา”
ในการทำให้ “พญาไพร” เป็นที่รู้จัก ตอนนี้มีหลายช่องทาง ทั้งหน้าร้านที่อยู่ในจังหวัดกำแพงเพชร และตามสถานที่ท่องเที่ยว และการออกงานตามอีเวนต์ ออกบูทประชาสัมพันธ์ตามที่ต่างๆ ช่องทางนี้จะเป็นช่องทางที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจแบรนด์มากขึ้น เพราะได้สอบถาม พูดคุยกันในทันที ส่วนช่องทางออนไลน์ก็มีเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์ และอินสตาแกรม ในช่องทางออนไลน์จะเป็นช่องทางที่ได้พูดคุยกับลูกค้า และได้ติดตามผลตามหลังอีกด้วย และทางพญาไพรจะผลิตสินค้าควบคู่ไปกับการออกไปประกวดตลอด เพราะเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัวเพื่อให้รู้จักในวงกว้างขึ้น
จากการไปประกวดก็ได้รับรางวัลระดับประเทศมาแล้วกว่า 5 รางวัล ทั้งทางด้านนวัตกรรมและอื่นๆ เช่น ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ รายการนี้ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ กรมทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) จากประเทศเกาหลีใต้ และล่าสุดเมื่อต้นปีนี้ก็ได้รางวัล Most innovation Otop Award สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และเป็นสินค้ามาตรฐาน 5 ดาว ในการคัดสรรสุดยอด 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ของกรมการพัฒนาชุมชน
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมทั้งในคนไทยและชาวต่างชาติ จะเป็นโลชั่นจากเปลือกกล้วยไข่ ลิปบาล์ม และบานานาเซรัมครีมสำหรับใต้ตาและฝ้าลึก โดยสิ่งที่สะดุดตาลูกค้าในครั้งแรกที่เห็นจะมาจากบรรจุภัณฑ์ที่แปลกและไม่เหมือนใคร ส่วนจุดเด่นอีกอย่างที่ทางพญาไพรมี นอกจากจะทำมาจากสารสกัดเปลือกกล้วยไข่แล้ว ยังเพิ่มคุณค่าด้วยน้ำแร่ น้ำพุร้อนพระร่วง ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ทั้งแคลเซียมและธาตุเหล็ก
“ทางร้านเราก็อยากจะให้ลูกค้าได้มีสินค้าที่แตกต่างออกไป โดยใช้นวัตกรรมในการผลิต รวมถึงบรรจุภัณฑ์ เกิดจุดขายและภาพลักษณ์ที่จะทำให้ลูกค้าจำได้ และมั่นใจได้ว่า ‘พญาไพร’ เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกของประเทศไทยที่ผลิตเครื่องสำอางจากเปลือกกล้วยไข่สกัดแน่นอน”
ส่วนเรื่องของรายได้ จากเดิมที่ยังไม่ได้ทำผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารสกัดจากเปลือกกล้วยไข่ รายได้จะอยู่ประมาณ 30,000-40,000 บาทต่อเดือน แต่หลังจากได้ไปพัฒนาสินค้าตัวนี้ใช้สารสกัดจากเปลือกกล้วยไข่ ปัจจุบันได้ประมาณ 1.5-2 แสนบาทต่อเดือน อีกทั้งยังช่วยให้คนในชุมชน และชาวจังหวัดกำแพงเพชรมีรายได้เพิ่มในทางนี้อีกด้วย
อนาคต “พญาไพร” จะเพิ่มช่องทางการขายในโมเดิร์นเทรด (Modern trade) และการส่งออก แต่ยังต้องปรับปรุงในเรื่องของชื่อแบรนด์ให้มีความเป็นสากลมากขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ ที่จะต้องพัฒนาให้ดูดี และมีความทันสมัยมากกว่านี้ รวมไปถึงภาพลักษณ์ และผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่เตรียมผลิตอย่างต่อเนื่อง
หากใครสนใจ มีช่องทาง Line : prayaprai facebook : Prayaprai Herbs โทร. 08-6781-5441
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *