เกษตรกรไร่มดแดง บ้านโพน ยิ้มออก หลังได้รับการช่วยเหลือจากไปรษณีย์ไทย เพิ่มมูลค่าให้กับพุทรานมสด ปลูกโดยวิธีกางมุ้ง ปลอดภัยไร้แมลง ได้รับมาตรฐาน GAP พร้อมจัดส่งถึงบ้านโดยผ่านช่องทางไปรษณีย์ไทย
การเริ่มทำไร่พุทรา ของบ้านโพน ชาวบ้านปลูกกันมานานหลายปี แต่การเติบโตของรายได้จะมีไม่มาก เพราะต้องหาพื้นที่ออกไปขายเองตามตลาด ไม่มีหลักแหล่งที่ชัดเจน และอีกทางคือขายผ่านพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อที่ไร่ พ่อค้าคนกลางกลุ่มนั้นก็จะมารับซื้อแบบเหมาไปในราคากิโลกรัมละ 10 - 12 บาท จากนั้นจะนำไปคัดเลือกอีกทีและขายในราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 35 บาท
เช่นเดียวกับ "ไร่มดแดง" ที่โดนพ่อค้าคนกลางกดราคาพุทรา แต่เมื่อได้เข้าร่วมกับ ทางไปรษณีย์ไทย ในโครงการ "ไปรษณีย์ไทย...เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" ก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้สูงถึง กิโลกรัมละ 40 บาท แต่จะมีบางช่วงเช่นกันที่มีราคาสูงขึ้นไปอีก
“นายวิสัย ภูจันหา” เจ้าของไร่มดแดง แต่เดิมปลูกมานาน 20 - 30 ปีมาแล้ว ปลูกตามความรู้ที่ได้เรียนรู้มาในแบบก่อน แต่เมื่อได้ไปเห็นทางภาคเหนือได้กางมุ้งเพื่อป้องกันแมลง จึงลองนำมาปรับใช้กับไร่พุทราดูบ้าง แม้จะมีราคาที่สูงมาก แต่ก็สามารถอยู่ได้ 5 - 6 ปี เป็นระยะที่ยาวนานพอสมควร และยังคุ้มค่ากว่าการที่ต้องฉีดยาฆ่าแมลงในปริมาณมาก แต่ไม่ได้ผล 100% แต่เมื่อใช้วิธีกางมุ้งเข้ามาทำยังสามารถช่วยได้เยอะขึ้น
ทางไร่มดแดงได้ทดลองปลูกพุทรา ทำในลักษณะงานวิจัยเพื่อหาว่าระยะไหนที่จะปลูกแล้วได้ผลผลิตดีที่สุด และได้ผลออกมาแล้วว่า ระยะห่าง 5เมตร x 6เมตร ตามผลการทดลองแล้ว ระยะนี้จะเป็นระยะที่ดีที่สุด และนำวิธีการกางมุ้งมาเพื่อป้องกันแมลงวันทอง ไม่ให้มาเจาะผลพุทรา ซึ่งจะเป็นเหตุทำให้ผลไม่สวย เกิดความเสียหาย ขายไม่ได้ราคา การดูแลไร่พุทรา ทางไร่ป้องกันแมลงโดยการกางมุ้ง และสามารถลดปริมาณการใช้ยาฆ่าแมลงได้มากพอสมควร การรดน้ำจะใช้ นมสด ผสมกับน้ำในอัตราส่วน นมสด 10 ลิตร ต่อน้ำ 200 ลิตร ใช้รดต้นพุทรา เพื่อความกรอบ หวาน และคงความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของพุทราหวาน บ้านโพน จังหวัดกาฬสินธุ์
ผลผลิตจากไร่พุทราจะได้ 4-6 ตัน ต่อ 1 ไร่ ใน 1 ปี จะเก็บผลผลิตได้เพียง 3 เดือน เท่านั้นตั้งแต่เดือน ธันวาคม ถึงเดือน กุมภาพันธ์ ผลของพุทราจะมีช่วงเวลาในการเก็บ พุทราออกผลมาจะเป็นชุด ชุดแรกจะอยู่ข้างใน ชุดสองจะถัดออกมา ชุดสามจะลงยอด จะย้อยลงมาให้เก็บ บางทีชุดแรกอาจจะมาก หรือบางทีผลผลิตจะออกผลดีในชุดสุดท้าย และเรียกได้ว่า ผลผลิตที่เป็นพุทรานมสด มาจากบ้านโพน จังหวัดกาฬสินธุ์ทั้งนั้น มีหลายพื้นที่ ที่นำพุทรานมสดจากบ้านโพน ไปแปรรูป ทำเป็นสินค้า ต่างๆ เช่นน้ำพุทรา และติดเป็นแบรนด์สินค้าของตัวเอง แต่เอกลักษณ์ค่าความหวานของพุทรานมสด บ้านโพน จะอยู่ที่ 12 บริกซ์ และยังได้รับมาตรฐาน GAP อีกด้วย
ที่ผ่านมากลุ่มเกษตรกรรวมถึง ไร่มดแดง ยอมรับว่าเรื่องช่องทางจำหน่ายและการทำตลาดยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ยอดขายยังไม่ได้ตามเป้า ตามการที่ลงทุนลงแรงไป กระทั่งมีไปรษณีย์เข้ามาช่วยในเรื่องของการสร้างแบรนด์ "ทันสุข" เข้าไปให้ความช่วยเหลือและถ่ายทอดความรู้ให้กับกลุ่มเกษตรกร เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การจัดส่ง คัดเลือกผลผลิต ที่จะคัดเกรดพรีเมียมเพื่อส่งให้ถึงมือผู้บริโภค ในการจัดส่งให้ลูกค้า จะเก็บสดๆ และส่งให้ผู้บริโภคทันที
"ตั้งแต่ไปรษณีย์เข้ามาช่วยรายได้มีมากขึ้น มีตลาดรองรับชัดเจน มีความสุขครับ แต่ก่อนเราเคว้งคว้าง แต่ละวันก็คิดว่าจะไปขายที่ไหนดี ใครจะมารับซื้อเราบ้าง แต่ทุกวันนี้ตั้งแต่ไปรษณีย์เข้ามา เรามีหลักที่ยึดได้ ว่าเราขายได้ ยอดสั่งซื้อก็เข้ามาทุกวัน บางทีก็คิดว่าอาจจะไม่มีของให้เขาด้วย เพราะว่ากลัวผลผลิตมีไม่พอ"
แต่เมื่อหมดฤดูของการเก็บพุทรานมสดแล้ว ทางไร่ มดแดง ก็จะใช้เวลาในการดูแลพุทราในรอบใหม่ และมุ่งไปยังเกษตรผสมผสานในส่วนอื่นๆ ที่ยังต้องดูแล เช่น ไร่มันสำปะหลัง ไร่อ้อย และอื่นๆ
ปัจจุบันทางไร่ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถ เข้าชมไร่พุทราได้ จากคอนเซ็ปต์ "มุดมุ้ง บายนม" มุดมุ้ง มาจากไร่ที่กางมุ้งเพื่อกันแมลงวันทอง บายนม มาจากไร่พุทรานมสดที่สามรถจับและเด็ดกินได้สดๆ จากต้น หากใครที่สั่งซื้อไม่ทันในรอบนี้ก็ต้องรอในรอบต่อไป กับช่องทางไปรษณีย์เช่นเดิม
ช่องทางการสั่ง สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ของทางไปรษณีย์ www.thailandpostmart.com ราคา 205 บาท บรรจุกล่อง 3 กิโลกรัม
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *