หมดปัญหาไปได้เลยสำหรับนักเรียนไทย เมื่อถึงคราวทำการบ้านแล้วเกิดข้อสงสัยไม่มีผู้รู้ช่วยไขความกระจ่าง ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะมีแอปพลิเคชัน “สแนปอาส์ค” (Snapask) เป็นผู้ช่วยตลอด 24 ชั่วโมง จับคู่กับติวเตอร์คุณภาพจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศให้ภายใน 1 นาที
ปักหมุดแล้วครั้งแรกในไทยกับแอปพลิเคชันการศึกษา ‘สแนปอาส์ค’ ต้อนรับไทยแลนด์ 4.0 ส่งตรงจากฮ่องกง สุดยอดแอปพลิเคชันติวเตอร์ส่วนตัวแห่งเอเชีย ที่ติวเด็กฮ่องกงมาแล้วมากกกว่า 500,000 คน จนประสบความสำเร็จ สามารถขยายสาขาไปแล้ว 7 ประเทศ อย่าง ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และล่าสุดบุกเมืองไทย โดยมอบสิทธิ์การบริการให้แก่ บริษัท สแนปอาส์ค (ประเทศไทย) โดย “นายชวัล เจียรวนนท์” ซีอีโอ บริษัท สแนปอาส์ค (ประเทศไทย) จำกัด
หลายคนอาจจะคุ้นชื่อนายชวัล หรือน้องริชชี่ มาบ้างในฐานะนักกีฬาฮอกกี้ทีมชาติไทย มาวันนี้เขาขอผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจ ด้วยวัยเพียง 23 ปี ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หลักสูตรนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยความที่คลุกคลีในแวดวงธุรกิจของครอบครัวมาโดยตลอด ทั้งยังผ่านประสบการณ์การทำงานมาหลากหลายประเภท ทั้งในบริษัทสตาร์ทอัพ และบริษัทใหญ่ ทำให้เขาเห็นเทรนด์ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้ในอนาคต อย่าง แอปพลิเคชันสแนปอาร์ค ซึ่งเจ้าของเป็นสตาร์ทอัพชื่อดังของฮ่องกง “มิสเตอร์ทิโมธี หยู” เป็นผู้ก่อตั้ง
'สแนปอาส์ค' เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนามาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้วย Machine Learning และ AI ทำให้น้องริชชี่ เห็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจนี้ที่จะช่วยตอบโจทย์การศึกษาประเทศไทยยุค 4.0 เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้สำหรับนักเรียนและติวเตอร์ระดับคุณภาพแล้ว ยังเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนไทยสามาถเข้าถึงองค์ความรู้ที่จำเป็นสำหรับการเรียนผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา
“ผมเคยประสบปัญหาเรื่องการทำการบ้าน บางครั้งหาคำตอบไม่ได้ ก็ไม่รู้จะไปหาคำตอบจากไหน เพื่อให้สามารถแก้โจทย์เหล่านั้นได้ และผมก็คิดว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่เจอปัญหานี้ แต่เป็นสิ่งที่เด็กนักเรียนไทยทุกคนต้องพบเจอ ทำให้เมื่อได้มารู้จักแอปพลิเคชันสแนปอาส์คก็สนใจ โดยต้องการให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาและเรียนรู้ของเยาวชนไทย”
สำหรับแอปพลิเคชัน “สแนปอาส์ค” ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จใน 7 ประเทศชั้นนำ โดยวางตำแหน่งเป็นผู้จัดหาติวเตอร์ที่ดีที่สุดให้กับนักเรียน ซึ่งจะเป็นเสมือนติวเตอร์ส่วนตัวรายแรกของประเทศไทย โดยนักเรียนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศสามารถเข้าถึงติวเตอร์คุณภาพได้ทันที เพียงมีอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่มีแอปพลิเคชันสแนปอาส์คเท่านั้น เมื่อส่งคำถาม ระบบอัลกอริทึมอัจฉริยะจะเชื่อมโยงติวเตอร์ผู้เชี่ยวชาญวิชานั้นๆ มาตอบภายใน 1 นาทีแบบตัวต่อตัวและอธิบายจนเข้าใจ
ขณะเดียวกัน แอปพลิเคชันนี้ยังมีความโดดเด่นด้านการใช้เทคโนโลยี Machine Learning และ AI มาวิเคราะห์จุดอ่อนรายบุคคล แล้วสร้างโจทย์ให้ฝึกหัดตอบคำถาม จึงเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนได้อย่างดียิ่งตรงตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน “สแนปอาส์ค” ยังเป็นช่องทางให้นิสิตนักศึกษาที่ไม่สะดวกไปสอนพิเศษด้วยตนเอง ได้แสดงความสามารถเป็นติวเตอร์ โดยถ่ายทอดความรู้ด้านวิชาการที่เป็นประโยชน์ให้แก่นักเรียน อีกทั้งยังเป็นรายได้เสริมสำหรับนิสิต นักศึกษาที่เป็นติวเตอร์ด้วย ซึ่งขณะนี้ บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างคัดสรรติวเตอร์คุณภาพเพื่อมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนแอปพลิเคชัน “สแนปอาส์ค” ในไทย
ทั้งนี้ ในช่วงแรก “สแนปอาส์ค” จะเปิดบริการ 5 วิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเปิดให้นักเรียนทดลองใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายคนละ 2 คำถาม ขณะที่ค่าบริการจะเริ่มต้นเพียง 179 บาท/5คำถาม และแพ็กเกจแบบรายเดือนเริ่มต้นเฉลี่ยเพียง 1,667 บาท รวมทั้งมีแผนที่จะเพิ่มฟีเจอร์โค้ชเตรียมสอบ (Exam Coach) ด้วยระบบ Data Analytics and Machine Learning เพื่อช่วยให้นักเรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้เฉพาะบุคคล สร้างความมั่นใจในการเข้าสอบครั้งสำคัญ
การที่แอปพลิเคชัน “สแนปอาส์ค” สามารถขยายสาขาไปถึง 7 ประเทศในเอเชีย และประเทศไทยเป็นแห่งที่ 8 ก็เป็นสิ่งการันตีถึงคุณภาพและการตอบรับของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ซึ่งกว่าจะมาเป็นสแนปอาร์ค อย่างในทุกวันนี้ “มิสเตอร์ ทิโมธี หยู” ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท สแนปอาส์ค (ฮ่องกง) จำกัด ได้เผยที่มาของไอเดียธุรกินี้ได้ฟังว่า จากประสบการณ์ส่วนตัว ในช่วงเรียนในมหาวิทยาลัยฮ่องกง มักจะมีนักเรียนขอให้ช่วยสอนพิเศษตอนเย็นหลังเลิกเรียน ทำให้ได้ทราบว่าศูนย์กวดวิชาแบบดั้งเดิมนั้นตอบสนองความต้องการของนักเรียนเป็นรายบุคคลได้ไม่ครบถ้วน จึงเกิดความคิดสร้างสรรค์พัฒนา “สแนปอาส์ค” แอปพลิเคชันติวเตอร์ส่วนตัวขึ้นในปี 2558 เพื่อช่วยเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดผ่านติวเตอร์คุณภาพที่เป็นนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ
หลังจากนั้นแอปพลิเคชัน “สแนปอาส์ค” ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วเอเชีย ทั้ง ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน มีติวเตอร์ในสังกัดมากกว่า 30,000 คน และได้ช่วยติวเด็กนักเรียนมาแล้วมากกว่า 500,000 คน ล่าสุดที่เมืองไทยได้มอบสิทธิ์การบริหารแก่บริษัท สแนปอาส์ค (ประเทศไทย) ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยจากการสำรวจตลาดไทยพบว่า ผู้ปกครองหลายคนต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับหลักสูตรนอกโรงเรียนสูงถึง 100,000 บาทต่อปี รวมทั้งนักเรียนประสบปัญหาได้รับการบ้านมากและยาก จึงเชื่อว่าสแนปอาส์ค” จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนและผู้ปกครองในยุคนี้ โดยตั้งเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการเพิ่มในอีกกว่า 30 ประเทศ ภายในปี 2563 ด้วยมุ่งหวังที่จะขึ้นเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการศึกษานอกเวลาเรียนอันดับ 1 ของโลก
อย่างไรก็ตาม บริษัท สแนปอาส์ค (ฮ่องกง) จำกัด ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ มิสเตอร์ทิโมธี ได้รับคัดเลือก ติดหนึ่งในรายชื่อ The Forbes Asia’s 30 under 30 ในปี พ.ศ.2559 ในฐานะนักธุรกิจระดับผู้นำของเอเชียที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
