ไก่ทอดกรอบสไตล์เกาหลี เมนูยอดนิยมของวัยรุ่นไทยช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่ขอให้บอกไม่มีอะไรที่เชฟไทยทำไม่ได้ สุดท้ายไก่ทอดกรอบสไตล์เกาหลีก็ถือกำเนิดขึ้นด้วยฝีมือเชฟคนไทย ชื่อว่า “นายรุ่งนิรันดร์ สุริยะ” (คุณอั๋น) และแฟนสาว “นางสาวปฐมพร ปฐมรพีพงศ์” (คุณเอ๋) เจ้าของร้านเลานจ์ไก่
“คุณเอ๋ ” เล่าถึงร้านเลานจ์ไก่ว่า ร้านของเราเป็นร้านไก่ทอดกรอบสไตล์เกาหลี ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากเมื่อครั้งได้เดินทางไปเกาหลี ไปลองกินไก่ทอดกรอบ ตอนนั้นพอกลับมาเมืองไทยคิดว่าจะลองทำไก่ทอดกรอบแบบเกาหลีขาย ซึ่งบ้านเรามีร้านดัง ซึ่งเขาขายอยู่แล้วแต่ราคาของเขาสูงมาก คิดว่าถ้าอย่างนั้นทำไมเราไม่เปิดร้านไก่ทอดกรอบแบบนี้ดู ซึ่งคุณอั๋นทำน้ำซอสที่ราดได้อร่อยไม่แพ้ ร้านดัง จึงได้ออกมาเป็นไก่ทอดกรอบราดซอสในแบบต่างๆ
ได้แก่ 1. เมนูไก่เขียว ไก่ทอดราดด้วยเทอริยากิ และสาหร่าย 2. ไก่คลุกฝุ่น ไก่ทอดสมุนไพรไทย กระเทียม เครื่องเทศ และพริกไทย (ตัวนี้ขายดีสุดเพราะเป็นรสชาติแบบไทยๆ) 3. ไก่แดง เป็นซอสบาบีคิว รสชาติออกเปรี้ยวหวาน 4. ไก่ส้ม ไก่เผ็ด ราดซอสส้ม 5. ไก่ดำ ซอสพริกเผาเกาหลี และ 6. ไก่ขาว ราดชีส ซึ่งซอสทุกตัวทางร้านของเราทำเองทั้งหมด มีตัวชีสที่เราไม่ได้ทำเอง ส่วนของราคา เริ่มที่ 3 ชิ้น รสเดียว ราคา 59 บาท 6 ชิ้นเลือกได้ 6 แบบ บวกเฟรนช์ฟราย ราคา 129 บาท และ 10 ชิ้น ราคา 199 บาท สุดท้าย 15 ชิ้น ราคา 249 บาท
ส่วนช่องทางการขาย ปัจจุบันมี 2 สาขา ที่ตลาดช่างชุ่ย และตลาดอินดี้ ถนนราชพฤกษ์ สาขาที่ช่างชุ่ยเปิดมาได้ 7 เดือน ช่วง 2-3 เดือนแรกที่ตลาดบูมๆ สามารถขายได้วันละ 8,000 บาท ถึง 10,000 บาท แต่มาช่วงหลังๆ ความนิยมของตลาดลดลง คนเริ่มเดินน้อยลง ยอดขายตกไปเหลือวันละ 4-5 พันบาทเท่านั้น โดยส่วนของลูกค้าจะเป็นวัยรุ่น และเด็ก ไก่ทอดแบบนี้ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุไม่ค่อยชอบกิน ดังนั้นการเลือกทำเลเปิดร้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ
“คุณเอ๋” เล่าว่า เธอยังคงทำงานประจำอยู่ ส่วนแฟนไม่ได้ทำงาน และเราสองคนชอบทำธุรกิจอยู่แล้ว และแฟนถนัดทำอาหาร เราก็เลยทำอาหารขายมาตลอด แต่ใม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรก็ต้องเลิกไป จนมาถึงการขายไก่ทอดครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 4 หลังจากเกิดความผิดพลาดมาแล้วถึง 3 ครั้งกับ ร้านยำซีฟูด ตามมาด้วยร้านสเต๊ก และสุดท้าย ร้านปลาเผา เพราะด้วยขาดประสบการณ์ในการทำธุรกิจ พอเห็นว่าขายดี มีคนมาติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์เราก็ขายทันที
สุดท้ายแฟรนไชส์นี่แหละที่ทำให้ทุกอย่างล้มไปหมด เพราะสาขาแฟรนไชส์ทำให้ชื่อที่เราสะสมมาเสียไปด้วย พอมาเปิดร้านเลานจ์ไก่ครั้งนี้มีความระมัดระวังมากขึ้น ในเรื่องของการขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ จนถึงตอนนี้ผ่านมากว่า 7 เดือนยังไม่คิดจะเปิดขายแฟรนไชส์ แม้ว่าจะมีคนมาติดต่อขอซื้ออยู่หลายราย
“อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าระบบแฟรนไชส์ทำให้เราล้มเหลวถ้าเรามีการบริหาร หรือ เรียนรู้ระบบแฟรนไชส์มาดีพอ ระบบแฟรนไชส์ที่ดีจะช่วยส่งให้กิจการของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น ในส่วนของร้านเลานจ์ไก่ มีแผนที่จะไปอบรมการทำแฟรนไชส์ก่อน บวกกับประสบการณ์ที่เราเคยมีจากความผิดพลาดครั้งก่อน เชื่อว่าแฟรนไชส์ร้านเลานจ์ไก่ครั้งนี้จะไม่ผิดพลาดเหมือนครั้งก่อนอย่างแน่นอน” คุณเอ๋กล่าว
พอถามถึงผลตอบแทนการขายไก่ทอดกรอบแบบนี้ คุณเอ๋ เธอบอกว่า กำไรถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับร้านอาหารแบบอื่นๆ ที่ทำมา ขายไก่ทอดมีกำไรถึง 70% และที่สำคัญขั้นตอนการเตรียมไม่ได้ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้แรงงาน ทำคนเดียวได้ ซึ่งแฟนทำน้ำซอสทิ้งเอาไว้ และน้ำซอสอยู่ได้ถึง 1 เดือน เหลือแค่ทอดไก่ มีเทคนิควิธีทอดไก่ให้กรอบ แป้งก็มีส่วนสำคัญ ทุกอย่างใช้วัตถุดิบคุณภาพดีเพื่อมัดใจลูกค้า
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีประสบการณ์จากการเปิดขายอาหารประเภทอื่นๆ เช่นยำ กำไรถือว่าปานกลาง แต่ปัญหาคือถ้าขายไม่หมดทุกอย่างต้องทิ้งทั้งหมด เพราะขายยำทุกอย่างต้องสดและใหม่ และพอมาขายสเต๊ก เรารู้ว่าถ้าเราใช้วัตถุดิบคุณภาพ สเต๊ก ราคา 49 บาท หรือ 59 บาท เหลือกำไรน้อยมาก ไม่คุ้มค่าเหนื่อย ซึ่งทุกอย่างเป็นประสบการณ์ให้เราได้เรียนรู้ เราไม่ได้ล้มเพราะรสชาติของอาหาร ดังนั้น การทำอาหารขายอีกจึงมั่นใจ และครั้งนี้เลือกว่าจะขายอะไร และลูกค้าชอบ ที่สำคัญคือ สามารถทำกำไรให้เราสูงสุด
สนใจโทร. 06-1453-6465
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *